วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2555

เอลลี่ เจิ่น สาวเวียดนาม อกภูเขาไฟ พร้อมภาพก่อนทำศัลยกรรม (18+)


สาวเวียดนามอกภูเขาไฟ เอลลี่ เจิ่น (Elly Tran Ha) ได้กลายเป็นคนดังของโลกไซเบอร์ไปแล้ว  ล่าสุดดังไกลได้ไปถ่ายแบบถึงเกาหลี ด้วยความโดดเด่นเตะตาใครหลายๆ คน กับสัดส่วนสุดสะบึม 37 – 24 – 35  สูง 168  ซม.นอกจากนี้  เอกลักษณ์ใส่แว่นตาเพิ่มความเซ็กซี่ ก็ทำให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ใจละลายเพ้อฝันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว!

สร้างชื่อจนโด่งดังจากอินเตอร์เน็ต ล่าสุดสาวร้อนสุดเซ็กซี่สัญชาติเวียดนาม “เอลลี่ เจิ่น” ได้รับคำเชิญจากทางเกาหลี ให้ได้รับโอกาสในงานถ่ายแบบครั้งแรกที่นั่น ซึ่งการมาถึงของเธอได้สร้างความตื่นเต้น ฮือฮาให้กับสื่อมวลชนแดนกิมจิได้ไม่น้อยเลย


เอลลี่ เจิ่น (Tran Ha หรือ Kim Hong) สาววัย 22 ปี ชาวเวียดนาม ซึ่งเกิดและเติบโตที่อเมริกา ก่อนจะเดินทางกลับไปยังเวียดนามประเทศแม่เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อศึกษาต่อ และเริ่มต้นอาชีพนางแบบ ด้วยความสูง 168 มีหน้าตาจิ้มลิ้มแบบสาวเวียดนามแท้ๆ และที่เห็นเด่นเป็นสง่าที่สุดคงจะหนีไม่พ้น รูปร่าง 37 – 24 – 35 ของเธอนั่นเอง รวมถึงเอกลักษณ์แว่นตาเพิ่มความเซ็กซี่ ทำให้สาวคนนี้กลายเป็นขวัญใจชาวเน็ตไปทั่วเอเชีย รวมถึงที่เกาหลีด้วย

แน่นอนว่าเธอนั้นก็เป็นสาวสวยคนหนึ่งที่เคยผ่านมือหมอมาก่อน มาดูกันว่าก่อน และ หลังศัลกรรมเธอเปลี่ยนไปได้ขนาดไหน และอะไรที่ทำให้เธอโด่งดังขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้!


ภาพ Elly Tran Ha ดั้งเดิม ก่อนทำศัลกรรม





ศัลกรรมครั้งแรกด้วยการอัพขนาดหน้าอก


ต่อมาเธอก็เริ่มทำจมูก




เพิ่มความเซ็กซี่แบบน่ารักๆ ด้วยแว่นตา ที่ทำเอาหนุ่มๆ หัวปักหัวปำ





ประวัติย่อๆ
ชื่อ: Tran
ชื่อเล่น:  Elly
วันเกิด:  June 8, 1993
สัญชาติ:  United States
สถานที่เกิด:  โฮจิมินห์ซิตี้
ส่วนสูง:  168cm
น้ำหนัก:  47kg


คลิปที่มาถ่ายแบบที่ประเทศเกาหลี



ข่าวเกาหลี by www.VelawanG.com
หากนำข่าวไปเผยแพร่ กรุณาให้เครดิตเว็บไซต์ด้วยค่ะ ^^

MV เพลง ร่มสีเทา – WhatChaRaWaLee วัชราวลี

MV เพลง : ร่มสีเทา

ศิลปิน : WhatChaRaWaLee วัชราวลี

ฟังเพลงออนไลน์ เพลงใหม่ล่าสุด เพลงฮิต มิวสิควีดีโอ ที่นี่มีเผียบ.. สามารถฟังเพลง ดูมิวสิควีดีโอได้ทันที  พร้อมโค้ดเพลงลง hi5 และแซร์ให้เพื่อนๆทางเฟรชบุ๊คได้ก่อนใคร 
สามารถเลือกดูได้ทั้ง เพลงไทย เพลงเอเซีย และ เพลงสากล ใหม่ๆ 
ร่วมแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก เหงา เศร้า ซึ้ง ไพเราะ ตามความรู้สึกได้ ในกล่องแสดงความคิดเห็น

MV เพลง เสี่ยงเหลือเกิน - เต้น นรารักษ์

MV เพลง : เสี่ยงเหลือเกิน

ศิลปิน : เต้น นรารักษ์



ฟังเพลงออนไลน์ เพลงใหม่ล่าสุด เพลงฮิต มิวสิควีดีโอ ที่นี่มีเผียบ.. สามารถฟังเพลง ดูมิวสิควีดีโอได้ทันที  พร้อมโค้ดเพลงลง hi5 และแซร์ให้เพื่อนๆทางเฟรชบุ๊คได้ก่อนใคร 
สามารถเลือกดูได้ทั้ง เพลงไทย เพลงเอเซีย และ เพลงสากล ใหม่ๆ 
ร่วมแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก เหงา เศร้า ซึ้ง ไพเราะ ตามความรู้สึกได้ ในกล่องแสดงความคิดเห็น

MV เพลง พรสวรรค์ Tattoo Colour feat. ชาตรี คงสุวรรณ

MV เพลง : พรสวรรค์ 

ศิลปิน : Tattoo Colour feat. ชาตรี คงสุวรรณ



ฟังเพลงออนไลน์ เพลงใหม่ล่าสุด เพลงฮิต มิวสิควีดีโอ ที่นี่มีเผียบ.. สามารถฟังเพลง ดูมิวสิควีดีโอได้ทันที  พร้อมโค้ดเพลงลง hi5 และแซร์ให้เพื่อนๆทางเฟรชบุ๊คได้ก่อนใคร 
สามารถเลือกดูได้ทั้ง เพลงไทย เพลงเอเซีย และ เพลงสากล ใหม่ๆ 
ร่วมแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก เหงา เศร้า ซึ้ง ไพเราะ ตามความรู้สึกได้ ในกล่องแสดงความคิดเห็น

MV เพลง กอด - โดม ปกรณ์ ลัม

MV เพลง : กอด

ศิลปิน : โดม ปกรณ์ ลัม



ฟังเพลงออนไลน์ เพลงใหม่ล่าสุด เพลงฮิต มิวสิควีดีโอ ที่นี่มีเผียบ.. สามารถฟังเพลง ดูมิวสิควีดีโอได้ทันที  พร้อมโค้ดเพลงลง hi5 และแซร์ให้เพื่อนๆทางเฟรชบุ๊คได้ก่อนใคร 
สามารถเลือกดูได้ทั้ง เพลงไทย เพลงเอเซีย และ เพลงสากล ใหม่ๆ 
ร่วมแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก เหงา เศร้า ซึ้ง ไพเราะ ตามความรู้สึกได้ ในกล่องแสดงความคิดเห็น

MV เพลง หมดรัก - T-SIX

MV เพลง : หมดรัก

ศิลปิน : T-SIX



ฟังเพลงออนไลน์ เพลงใหม่ล่าสุด เพลงฮิต มิวสิควีดีโอ ที่นี่มีเผียบ.. สามารถฟังเพลง ดูมิวสิควีดีโอได้ทันที  พร้อมโค้ดเพลงลง hi5 และแซร์ให้เพื่อนๆทางเฟรชบุ๊คได้ก่อนใคร 
สามารถเลือกดูได้ทั้ง เพลงไทย เพลงเอเซีย และ เพลงสากล ใหม่ๆ 
ร่วมแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก เหงา เศร้า ซึ้ง ไพเราะ ตามความรู้สึกได้ ในกล่องแสดงความคิดเห็น

MV เพลง ได้รักเธอก็พอแล้ว - แพรว AF8 จีรวรรณ สอนสะอาด

MV เพลง : ได้รักเธอก็พอแล้ว

ศิลปิน : แพรว AF8 จีรวรรณ สอนสะอาด



ฟังเพลงออนไลน์ เพลงใหม่ล่าสุด เพลงฮิต มิวสิควีดีโอ ที่นี่มีเผียบ.. สามารถฟังเพลง ดูมิวสิควีดีโอได้ทันที  พร้อมโค้ดเพลงลง hi5 และแซร์ให้เพื่อนๆทางเฟรชบุ๊คได้ก่อนใคร 
สามารถเลือกดูได้ทั้ง เพลงไทย เพลงเอเซีย และ เพลงสากล ใหม่ๆ 
ร่วมแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก เหงา เศร้า ซึ้ง ไพเราะ ตามความรู้สึกได้ ในกล่องแสดงความคิดเห็น

MV เพลง เธอไม่ขอก็จะรัก - Black Jack feat. TJ 3.2.1

MV เพลง : เธอไม่ขอก็จะรัก

ศิลปิน : Black Jack feat. TJ 3.2.1



ฟังเพลงออนไลน์ เพลงใหม่ล่าสุด เพลงฮิต มิวสิควีดีโอ ที่นี่มีเผียบ.. สามารถฟังเพลง ดูมิวสิควีดีโอได้ทันที  พร้อมโค้ดเพลงลง hi5 และแซร์ให้เพื่อนๆทางเฟรชบุ๊คได้ก่อนใคร 
สามารถเลือกดูได้ทั้ง เพลงไทย เพลงเอเซีย และ เพลงสากล ใหม่ๆ 
ร่วมแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก เหงา เศร้า ซึ้ง ไพเราะ ตามความรู้สึกได้ ในกล่องแสดงความคิดเห็น

วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555

ตะลึง!!! พบเห็น UFO บินออกจาก ภูเขา Pic De Bugarach








หลังจากที่มีข่าว กลุ่มลัทธิวันสิ้นโลก  จำนวนกว่า 20,000 คน ได้มารวมตัวกันบนยอดเขา Pic de Bugarach ในประเทศฝรั่งเศส เพื่อรอให้มนุษย์ต่างดาวมารับตัว ซึ่งพวกเขาเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวจะมาช่วยชาวโลก ก็ได้ทีการพบเห็น UFO บินออกจาก ภูเขาดั่งกล่าว







บทความที่แล้ว



















เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2012 ได้มีการพบเห็นและถ่ายคลิป UFO กำลังเป็นบินออกจากภูเขาดั่งกล่าว


โดยเชื่อกันว่า พื้นที่ภูเขาของฝรั่งเศสแห่งนี้จะเกิดปรากฏการอะไรบางอย่างครั้งใหญ่


กำลังจะเกิดขึ้นในพื้นที่นี้ เร็ว ๆ นี้





สิ่งหนึ่งคือ คาดว่าบริเวณแห่งเป็นประตูมิติ หรือ มีประตูทางเข้า - ออก ของมนุษย์ต่างดาวใต้ฐานภูเขา



คลิป













ก็ต้องรอดู ข้อเท็จจริงกันทต่อไปครับ อาจจะเป็น การสร้างกระแสเพิ่มน้ำหนัก 

หรือว่า... พวกที่ไป 2หมื่น คนนั้น ได้ขึ้นยานไปแล้ว....




ก็ต้องใช้วิจารณญาณ ในการรับชมครับ....

















บทความที่เกี่ยวข้อง :





กลุ่มคลั่งลัทธิวันสิ้นโลก 2 หมื่นคน แห่รวมตัวบนเขา รอ UFO มารับ

____________________






ที่มา : http://scottcwaring.blogspot.com/2012/03/3rd-ufo-seen-flying-out-of-bugarach.html

____________________


เครดิต :


________________________________





วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555

“โจ นูโว” ส้มหล่นเสียบ “ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ฯ” แทน “หนิง นิรุตติ์” แย้มเตรียมเล่นละครเวทีให้ “ตั้ว ศรัณยู”

“โจ นูโว” ส้มหล่นเสียบเป็นกรรมการ “ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 2” แทน “หนิง นิรุตติ์” รับตื่นเต้นและดีใจแต่ไม่กดดัน ส่วนงานเพลงยังทำอยู่ตลอด แฟนนูโวเตรียมเฮปีนี้อาจได้ดูคอนเสิร์ต พร้อมเผยเตรียมเล่นละครเวที “หลังคาแดง” ให้ “ตั้ว ศรัณยู”

ต้องมานั่งแท่นเป็นกรรมการตัดสินและคอมเม้นท์คนใหม่ของ “ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 2” แทน “หนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา” ทำเอา “โจ จิรายุส วรรธนะสิน” หรือ “โจ นูโว” ออกปากว่าตื่นเต้นมาก และรู้สึกดีที่ได้ร่วมงานกับโปรดักชั่นระดับโลก ส่วนการทำหน้าที่ยอมรับว่าเครียดแต่ไม่กดดัน

“ก็รู้สึกดีมีความสุขครับ ที่ได้มาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการการตัดสิน ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 2 ซึ่งทางเวิร์คพอยต์ติดต่อมาประมาณปลายปีที่แล้ว ผมก็ไม่ค่อยรู้ประสีประสาอะไรว่าเขาทำการบ้านมาเรียบร้อยแล้ว เพราะว่าการจะเป็นกรรมการต้องเป็นการได้รับอนุมัติต่างๆ จากทางยูนิลิเวอร์และชาวต่างชาติ และเราไม่รู้เรื่องเลย เขาทำไปแล้ว เหมือนขานับ 1-9 พอจะนับ 10 ก็ค่อยมาบอกมาหาว่าเราสนใจไหม พอสนใจก็มานั่งติว มาสอนระบบระเบียบกัน และผมก็ผ่านเรียบร้อยครับ”

“ผมในฐานะคนใหม่ที่เข้ามาก็ค่อนข้างตื่นเต้นมาก แนวทางการคอมเม้นท์ ผมยังงงตัวเองอยู่เลย แต่ตอนนี้ก็เริ่มปรับตัวได้แล้วครับ ก็ดีใจนะที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมตรงนี้ ผมได้มาทำงานนั้นๆ ในชีวิตได้มาทำงานกับโปรดักชั่น ทีมที่ค่อนข้างจะเป๊ะ ที่ได้มาตรฐาน”

ด้วยความที่ซีซั่นแรกไม่ค่อยได้ติดตามเท่าไรนัก เมื่อได้รับหน้าที่ให้เป็นกรรมการตัดสิน ก็เลยไม่กดดัน

“โชคดีมากที่ไม่ค่อยได้ดูซีซั่นที่แล้ว แต่ก็มีดูบ้าง เพราะว่าเป็นช่วงเวลาที่ผมอยู่ในห้องยิม วันเสาร์-อาทิตย์ ตอนช่วงเย็นๆ ผมจะอยู่โรงแบด แล้วผมก็จะดูตามโรงแบดคอร์ดแบดบ้าง ก็เลยไม่ได้เห็นว่าต้องเป็นยังไง เลยรู้สึกโปร่งขึ้นมาก ไม่กดดันเลย ก็รายการเกมโชว์ รายการเรียลริตี้เราก็ดูเยอะ เดอะเทรนเนอร์เราก็เคยทำ เอเอฟเราก็ดู เดอะสตาร์ประมาณนี้ เราก็โอเค แต่รายการนี้เป็นฟอร์แมทเมืองนอก ทุกอย่างมันต้องเฉียดมาตรฐานหน่อย”

“รายการนี้แตกต่างจากรายการอื่นมาก เพราะรายการนี้เป็นรายการของฝรั่งที่นำเข้ามา โปรดักชั่นทุกอย่างต้องเป๊ะ ติวกันหลุดไม่ได้ ต้องตามบล็อค และมีข้อกำหนดเยอะ เช่น การแสดงจบเราต้องคอมเม้นท์ คอมเม้นท์เสร็จเราตัดสินจะปนเปไม่ได้ ถ้าอีกคนคอมเม้นท์อยู่เราจะพูดแทรกไม่ได้ เพราะฝรั่งไม่ยอม เขาต้องบล็อคเพื่อให้รายการนี้ทุกประเทศเหมือนกันหมด ไม่ใช่ข้ามไปข้ามมา เขามีรูปแบบ เพราะฉะนั้นเราต้องพูดให้หมดในตรงของเรา นี่แค่ตัวอย่างนะ”

“เขามีมานั่งดูด้วย จริงๆ โปรมาวันแรกจากสิงคโปร์ก็มานั่งซัดกับผม ไม่มีภาษาไทยเลย ว่าต้องทำไงบ้าง วันแรกเครียดเลย แล้วผมไม่สบายด้วยไง ผมเพิ่งหายป่วยจากอาหารเป็นพิษ เจอคนสิงคโปร์คุยด้วยเป็นชั่วโมง คุณต้องทำอย่างนี้ ดิฉันชอบ ขอให้เป็นอย่างนี้ แต่ขอเพิ่มตรงนี้นะ นี่แปลไทยเลยนะ เขามาสองสามวันอยู่ตั้งแต่เช้ายันดึก ตอนนี้กลับไปละ เราก็ดีใจ รอดละ”

กรณีที่ต้องเข้ามานั่งทำหน้าที่แทน “หนิง นิรุตติ์” กรรมการคนเก่า เจ้าตัวเผยว่าไม่ซีเรียส มองไม่ใช่เรื่องใหญ่…

“ผมก็ไม่ได้ดูซีซั่นที่แล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร มันต้องแทนอยู่แล้ว ยังไงคำว่าแทนมันต้องมี เพราะว่ามันไม่ใช่ซีซั่นที่หนึ่ง ถ้าซีซั่นที่สองทุกอย่างเป็นคนเดิมมันก็จบ เพราะฉะนั้นคำว่าแทนมันต้องใช้ได้ในรูปการนี้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่”

ส่วนงานเพลงยังทำอยู่ แย้มปีนี้อาจมีคอนเสิร์ตนูโว

“มีครับ ยังทำอยู่ตลอด แต่เดี๋ยวนี้งานเพลงที่ทำมีเฉพาะกลุ่มเท่านั้นที่จะรู้ งานเพลงเราไม่ใช่งานแมสที่โด่งดัง อยู่ในกลุ่มป็อปแบบ บี้ เดอะสตาร์ คือมีโปรโมเตอร์ใหญ่โต เราอยู่ในจุดแบบไม่ต้องมีค่ายแล้ว อย่าง MV ล่าสุดให้โดนัท (มนัสนันท์) ทำให้ ก็อยู่ในยูทูป แต่ตอนนี้เขาไปเรียนเมืองนอกแล้ว ในยูทูปคนที่เข้าไปดู ก็เป็นคนที่สนใจเพลงจริงๆ เป็นยุคสมัยใหม่ไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจทำเพลงกับค่ายไหนเลย ก็ยังอยู่กับโซนี่มิวสิค แต่ก็ใกล้หมดสัญญาแล้ว สมัยนี้ว่าไปแล้วมันก็ปีต่อปีๆไม่มีการแพลนอะไรล่วงหน้า ไม่มีการลงทุนดีที่สุด”

“วงนูโวกำลังคิดที่จะทำคอนเสิร์ต จริงๆ อยากให้มีกลางปีนี้ ก็ว่าจะไปคุยกับพี่ฉอด (สายทิพย์) เหมือนกัน และถ้ามีโอกาส ผมก็คิดปั้นเด็กใหม่นะ ถ้าเจอคนเสียงดีก็คงทำ ส่วนงานแสดงอื่นๆ คือเดี๋ยวนี้อายุเยอะแล้ว แต่ก็มีติดต่อเข้ามาบ้างให้เล่นละครและหนัง แต่ตอนนี้มีละครเวทีหลังคาแดง ของพี่ตั้ว ศรัณยู ติดต่อมา กำลังซ้อมอยู่ ส่วนละครทีวีให้แต่เด็กๆ ทำได้ มีสองคนก็ ฉัตรชัย และ สหรัถ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

"เจมส์" ให้แหวนวันเกิด "เนย" เจ้าตัวไม่ชัวร์ขึ้นคอนเสิร์ตอาร์เอสฯ

ไม่รู้จะซื้ออะไรให้ "เจมส์" มอบแหวนวันเกิดแฟนสาว ปัดตีตราจองแต่อุบอีกฝ่ายสวมนิ้วไหน เผยอาร์เอสฯ ทาบทามขึ้นคอนเสิร์ตแต่ตนยังไม่ชัวร์ ยันไม่ลืมที่มาของตนเอง

ดูเหมือนจะหวานชื่นขึ้นเรื่อยๆ สำหรับคู่ของหนุ่ม "เจมส์ เรืองศักดิ์" กับสาว "เนย" ประชาสัมพันธ์คนสวยของค่ายเอ็กแซ็กท์ฯ โดยเมื่อวันเกิดของฝ่ายหญิงที่ผ่านมาฝ่ายชายก็ได้ให้แหวนเป็นของขวัญพร้อมยืนยันไม่ได้เป็นการตีตราจอง

"ก็มีให้แหวน เพราะว่าไม่รู้จะให้ของขวัญอะไรในวันเกิด ก็เลยให้แหวน ไม่มีสลักอะไร เป็นแหวนทองคำขาว ใส่นิ้วไหนไม่รู้ต้องไปดูเอง...ตีตราจองมั้ย คงไม่ถึงขนาดนั้น ก็เป็นของที่เราให้แทนความรู้สึกที่เรามีให้เท่านั้นเอง (จะมีวงที่ 2 ต่อไปมั๊ย?) รอให้พัฒนาความสัมพันธ์ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ก็คงต้องมี"

ก่อนเผยอดีตต้นสังกัดอย่างอาร์เอสฯ ได้ติดต่อให้ตนไปเล่นคอนเสิร์ตแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องดูความเป็นไปได้ก่อน..."ก็มีทาบทามกันบ้าง แต่ความเป็นไปได้ขนาดไหน เดี๋ยวก็ต้องรอดู จริงๆ เจมส์ค่อนข้างอิสระในการทำงาน โดยส่วนตัวไม่มีสัญญากับใคร แต่เราก็ยังเคารพพี่บอย ถกลเกียรติ เขาช่วยดูแลเรื่องงานให้เรา"

"ส่วนว่ามีความเป็นไปได้ไหม ก็ไม่ถึงขนาดเป็นไปไม่ได้เลย แต่ว่าต้องดูช่วงเวลาด้วยว่าวันนั้นงานเราเป็นยังไง แต่ยังไม่ได้เข้าไปคุยกับเฮียฮ้อ แต่ว่าเรามีโอกาสได้คุยกับทีมงานอาร์เอสบ้างเป็นบางโอกาส เขาก็มีเปรยๆ มาบ้าง ส่วนตัวผมก็ยินดีเสมอ ผมไม่เคยลืมที่มาของตัวเอง ไม่เคยลืมบ้านเกิด เพียงแต่ว่าเราต้องให้จังหวะลงตัวจริงๆ การทำงานตรงนั้นต้องโอเคด้วย ไม่ใช่ว่าติดงาน"

"ส่วนงานเพลงของตนเองก็กำลังทำอยู่ กำลังคิด กำลังแต่ง หาอะไรใหม่ๆ ให้กับแฟนๆอยู่ แนวเพลงคิดว่าเป็นเพลงป๊อปสำหรับคนไทย เพียงแต่ว่าการกลับมาวันนี้มันต้องมีอะไรใหม่ๆ มาฝาก มันต้องคิดอะไรเยอะ นอกจากความสนุกนอกจากความพร้อมแล้วต้องมีอะไรที่จรรโลงให้กับคนด้วย คิดว่าน่าจะได้ฟังปีนี้"

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

“แหวนแหวน” โต้กิ๊ก “ไก่ ภาษิต”

“แหวนแหวน” โต้กิ๊ก “ไก่ ภาษิต” ยันแค่พี่ที่สนิท บอกไม่อยากเปลี่ยนสถานะเพราะกลัวทะเลาะกัน สุดปลื้มถ่ายชุดว่ายน้ำกระแสดี แต่แอบเซ็งโดนรีทัชลดไซส์หน้าอกเล็กกว่าของจริง ทั้งที่การมีเต้าบึ้มเป็นความภาคภูมิใจของตน

มีคนตาดีแอบเห็นพิธีกรสาวคนเก่ง “แหวนแหวน ปวริศา เพ็ญชาติ” ควงผู้ประกาศข่าวหนุ่มหน้าตี๋ “ไก่ ภาษิต อภิญญาวาท” หม่ำข้าวอย่างสวีตหวาน จนมีข่าวว่าทั้งคู่กำลังแอบปลูกต้นรักกันอยู่เงียบๆ สอบถามไปทำเอาสาวแหวนแหวนทำหน้าตกใจ ออกโรงแจงรับรู้จักและสนิทสนมกับหนุ่มไก่มานาน เพราะทำงานที่เดียวกัน แต่ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกว่าคำว่าพี่น้อง

“กับพี่ไก่เหรอคะ จริงๆ เรารู้จักกันมา 7 ปีแล้ว สนิทกันมาก พอมาอยู่ช่อง 3 ด้วยกัน ทำงานอยู่ตึกเดียวกันก็เจอกันบ่อย แต่ไม่ได้เป็นแฟนไม่ได้อะไรกันแต่เราสนิทกัน ก็คุยกันได้ทุกเรื่องค่ะ ทำงานสายงานเดียวกัน เหมือนกับไปรู้จักกลุ่มคนเดียวกัน อยู่กลุ่มครอบครัวข่าวสามเหมือนกัน มีอะไรก็คุยกันบ่อย ทำงานตึกเดียวกันคนก็อาจจะเห็นลงมานั่งกินกาแฟกินขนมด้วยกันที่ร้านกาแฟใต้ตึก คนก็อาจะคิดว่าเอ๊ะยังไงกัน แต่จริงๆ แล้วก็เป็นพี่น้องกัน”

“กับพี่ไก่ก็ถือว่าน่าจะสนิทที่สุดในช่อง 3 เมื่อก่อนแหวนทำรายการสีสันบันเทิงกับพี่บีม ศรัณยู แต่ตอนนี้สีสันบันเทิงช่วงบ่ายก็ไม่มี มีแต่ช่วงเย็นก็เลยไม่ค่อยได้เจอพี่บีมบ่อยเหมือนเมื่อก่อน ก็เลยเจอพี่ไก่บ่อยกว่า เพราะช่วงที่อัดสีสันบันเทิงตอนค่ำกับรายการพี่ไก่จะใกล้เคียงกัน ก็เลยเจอกันบ่อยค่ะ”

“เรื่องเทคแคร์จริงๆ พี่ไก่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว ก็ดูแลน้อง มีอะไรก็คอยดูแลเทคแคร์ แหวนจะเป็นคนที่เฟอะฟะไม่ค่อยมีวินัย เขาก็จะเป็นระเบียบเรียบร้อย จะคอยเตือนว่าอย่าไปทำงานสายนะ ต้องตั้งใจนะ เหมือนเป็นพี่ชายที่คอยดูแล ก็มีวอทแอ๊ฟมาปลุก อย่างวันครอบครูที่ช่อง3 พี่ไก่ก็ปลุก เพราะกลัวมาไม่ทัน จะเป็นแนวเป็นห่วงเป็นใย เป็นพี่น้องกันมากกว่าค่ะ และตอนถ่ายภาพเซ็กซี่ก็มีส่งรูปไปให้ดูว่าเป็นยังไงบ้าง เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรก็บอกว่าสวยดีค่ะ”

“อยู่แบบนี้นานๆ ดีแล้ว เดี๋ยวเป็นแฟนแล้วทะเลาะกัน เลิกกัน อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ดีกว่าค่ะ ช่วงนี้ก็มีหนุ่มๆ เข้ามาบ้าง แต่ส่วนใหญ่ที่เข้ามา ก็เป็นเพื่อนๆ กันหมดนะคะ ตอนนี้เราประกาศตัวว่าโสด ตราบใดที่ยังไม่แต่งงาน ก็ถือว่ายังโสดอยู่นะคะ ขอมีเพื่อนรู้จักคนนั้นคนโน้นไปเรื่อยๆ ดีกว่า พอบอกมีแฟนปุ๊บคุยกับคนโน้นคนนี้คนก็จะไม่กล้าเข้ามา”

คุยกับหลายคนแบบนี้ ไม่กลัวคนมองว่าเป็นผู้หญิงเจ้าชู้หลายใจ

“ไม่แน่นะของแบบนี้ว่าไม่ได้นะ เราก็ต้องขอนิดนึง จะคุยกับใครก็ต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าไม่ต้องการมีแฟน ณ ตอนนี้ก็อยู่เป็นเพื่อนกันไป ถ้าวันหนึ่งคิดว่ามันใช่แล้วก็ต้องประกาศไปทีเดียว ซึ่งทุกคนก็เข้าใจดี”

“ก็มีช่วงเหงาเหมือนกัน เมื่อก่อนมีช่วงที่คิดว่า 26 ปีแล้วต้องแต่งงาน แต่พอมันผ่านจุดนั้นมาแล้ว ตอนนี้ก็รู้สึกว่าเฮ้ยจะมีเวลาที่มีชีวิตเป็นของตัวเองอีกกี่ปี พอแต่งงานไปแล้วก็ต้องดูแลสามีและลูก จะไปลั้ลลาไม่ได้แล้ว เรารู้สึกว่าถ้าต้องแต่งงานมีชีวิตไปอีก 50 ปี กับผู้ชายคนนี้ ก็ขอใช้ชีวิตในช่วงที่เป็นตัวเองได้เต็มที่ มีชีวิตเป็นของตัวเองให้นานที่สุดดีกว่า แต่คนถามว่ากลัวจะแก่ไปหรือเปล่า อย่างไรก็จะดูแลรักษาตัวเองให้ดูไม่แก่ไปกว่านี้ไปนานๆ ค่ะ”

ถ่ายแบบเซ็กซี่ให้กับหนังสือแพรว ตอนแรกยอมรับหวั่นใจกลัวขายไม่ออก แต่กระแสตอบรับดี

“ยังไงหนังสือแพรวทำออกมา ก็ไม่ได้ทำออกมาเซ็กซี่จัดเซ็กซี่มากอยู่แล้ว ภาพออกมาเป็นแนวอาร์ตๆ ไม่ได้เป็นแนวเซ็กซี่ยั่วยวน ก็โอเค ฟีดแบคดี ตอนแรกแหวนยังหวั่นใจว่าอายุจะใกล้เลข 3 แล้ว จะขายออกหรือเปล่านี่ แอบหวั่นใจคุยกับพี่ๆ บก.ที่แพรว เขาบอกว่าไม่เป็นไรหรอก เพราะเคยถ่ายมา 5 ปีแล้ว ขออีกสักรอบแล้วกัน หลังจากนั่งคิดไตร่ตรองปรึกษากับคุณแม่ และตอนนี้เราใกล้เลข 3 แล้ว ก็ขอโค้งสุดท้ายก่อนเลข 3 แล้วกัน”

รับโกรธที่ถูกรีทัชหน้าอกให้เล็กลง

“ที่โกรธนี่ก็เพราะลดนะคะ (หัวเราะ) แต่ถ้าเพิ่มไม่เป็นไรชอบ แต่นี่กลายเป็นหดลง เราก็บอกพี่บก.ว่าจะทำอย่างไรกับรูปหนูก็ได้แต่ขออย่างเดียวหน้าอกอย่าเอาออกนะ เป็นสิ่งที่ภูมิใจว่าเราไม่ได้ทำ ที่เหลือก็แล้วแต่จะคิดนะคะ หน้าอกขอนิดนึง เพราะเป็นความภาคภูมิใจของเรา แต่พี่ บก.ดูภาพเปรียบเทียบแล้ว บอกว่าถ้ามันใหญ่ปุ๊บมันจะดูเป็นแนวเซ็กซี่เกินไป มันดูไม่ใช่แพรว มันจะเป็นอารมณ์หนังสือสำหรับผู้ชาย เขาเลยขอเอาลงนิดนึงแล้วกันเพราะด้วยชุดค่อนข้างทำให้ดูหน้าอกใหญ่อยู่แล้ว ก็โอเคอยากให้ภาพออกมาสวยที่สุด”

ถึงกระแสตอบรับดีแบบนี้ ก็ไม่คิดถ่ายแบบให้เล่มอื่น เปรยชีวิตนี้ถ่ายที่ให้หนังสือแพรวเล่มเดียวเท่านั้น

“บอกกับพี่ๆ บก.ที่แพรวว่า ชีวิตนี้ขอถ่ายกับที่นี่ที่เดียวแล้วกัน เพราะรู้สึกว่าสนิทกับทีมงาน พี่ๆ บก.ก็เหมือนเป็นคุณแม่ คุณพี่ เราก็มั่นใจว่าเขาทำให้เราออกมาดูดีและสวยที่สุด ไว้เดี๋ยวรออีกสักพักแล้วกัน มีแต่คนแซวว่ารอก่อนแต่งงานค่อยถ่ายอีกครั้ง เพราะถ้าแต่งงานไปแล้วสามีอาจจะไม่ให้ถ่าย แบบนี้ก็คงรออีกนานนะคะ เพราะฉะนั้นก็ทิ้งช่วงไปก่อนแล้วกันตอนนี้”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

“กฤษณ์” ฝีมือเข้าตา “เสี่ยตา” ดันเป็นพิธีกรเวิร์คพ้อยท์ 4 รายการ

“กฤษณ์” รูดซิปปากเรื่อง “อั้ม” ขอตอบแต่เรื่องงาน เจ้าตัวปัดถูกวางตัวเป็นตัวตายตัวแทน “เสี่ยตา” รับไม่กล้าเทียบ ยกเป็นพิธีกรในตำนานของเมืองไทย บอกเป็นการให้โอกาสมากกว่า พร้อมเผยตอนนี้เป็นพิธีกรเวิร์คพ้อยท์ 4 รายการ

เล่นกวาดงานพิธีกรเวิร์คพ้อยท์ของบิ๊กบอสคนดังอย่าง “เสี่ยตา ปัญญา นิรันดร์กุล” เกือบแทบทุกรายการ จนหนุ่ม “กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์” ถูกจับตามองว่าเจ้าตัวจะมาเป็นพิธีกรคนต่อไปที่ถูกดันเพื่อเป็นตัวตายตัวแทนเสี่ยตาทุกรายการในอนาคต ล่าสุดเจอหนุ่มกฤษณ์ในงานแถลงข่าวรายการ “ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 2” เจ้าตัวก็ขอแจงว่าไม่คิดว่าตนจะมาแทนที่พิธีกรในตำนานของเมืองไทยอย่างเสี่ยตาได้ เพราะคนละสไตล์ อยากให้มองว่าเป็นการให้โอกาสมากกว่า ส่วนเรื่องหัวใจที่ระยะหลังมีข่าวออกมาอีกว่าแอบควง “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ไปทำบุญและยังย่องดินเนอร์กันอยู่บ่อยๆ นั้น หนุ่มกฤษณ์ใส่เกียร์ชิ่งออกตัวว่าไม่คุยเรื่องส่วนตัว ขอตอบแต่เรื่องงานอย่างเดียว

“เป็นพิธีกรทุกรายการเลยเหรอ ยังครับ ยังไม่ถึงขนาดนั้น ปัจจุบันมี 4 รายการเท่านั้น ที่ผมทำอยู่ก็จะมีรายการแฟนพันธุ์แท้นะครับ คนอวดผี ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ แล้วก็รายการล้วงลับตับแตกโชว์ ผมคิดว่าคงไม่ได้มาแทนพี่ตาหรอกครับ ผมว่าถ้าเป็นการให้โอกาสคงจะใช่ ก็คงจะชัดเจน”

“แต่ว่าถ้าเกิดมาแทนพี่ตา โอ้โห ผมคงไม่คิดไปถึงขนาดนั้นครับ เพราะว่าจริงๆ แล้วมันคงไม่มีใครแทนกันได้ แล้วพี่ตาเองก็ถือว่าเป็นเบอร์1 เป็นพิธีกรในตำนานของเมืองไทย ในทางของผมก็จะทำในส่วนของผมมากกว่าภาพของผมมากกว่า ถ้าเกิดใครได้ดูรายการแฟนพันธุ์แท้ ก็จะสังเกตเห็นว่าเป็นเวอร์ชั่นของผม มันคงจะมีรูปแบบที่จะต้องทำ แต่ว่าในลักษณะอื่นๆ ก็คงไม่อยากจะเห็นผมกับพี่ตาเป็นคนละแบบกัน เรียกว่าพี่ตากับพี่จิก (ประภาส) ให้โอกาสมากกว่าครับ คงจะได้เห็นในความสามารถ หรือว่าเห็นในความเหมาะสมที่จะให้ทำรายการต่างๆ ของเวิร์คพ้อยท์”

รับหนักใจและกดดันกับการเป็นพิธีกร รายการแฟนพันธุ์แท้ เพราะเป็นรายการในตำนาน

“ตอนแรกก็เครียดกับแฟนพันธุ์แท้เหมือนกันนะครับ เพราะว่ามันเป็นรายการที่เป็นตำนาน แล้วพี่ตาก็ทำไว้ดีมาก มันดังมากมีมาเป็น 10 ปี แล้ว ผมก็กดดันเหมือนกันทำต่อจากพี่ตาว่าจะดีหรือเปล่า คนจะชอบไหม เรตติ้งจะมาไหม แต่ว่าพอถึงตอนนี้ก็หายห่วงละครับ ทุกอย่างก็ผ่านไปแล้ว”

“ส่วนกระแสตอบรับ อันดับแรกที่เราจับต้องได้ก็คือเรตติ้ง เรตติ้งก็ดีมากครับ สูงมาก สำหรับเวลานั้นถ้าเทียบกับรายการอื่นนะครับ พอแฟนพันธุ์แท้ในการยืนของผม เรตติ้งก็ขึ้นมา เราก็รู้สึกดี เป็นรายการที่ยิ่งใหญ่แล้วมีคนติดตามชมอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ไม่ค่อยห่วงแล้ว”

“กระแสจากพี่ตาดีครับ ตอนแรกพี่ตาเขามาดูเองเลยครับ เราก็เกร็งๆ พี่ตากับพี่จิกก็จะมาดูในเทปแรก ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก ยืนทำพิธีกรไปมองมาเห็นพี่ตาอยู่ ช่วงหลังๆ พอผ่านก็ดูการตัดเทป พี่ตาพี่จิกก็จะยืนคุมเทป ก็จะดูตลอดว่าเป็นยังไงบ้าง ทำเป็นยังไงจังหวะเป็นยังไง แต่พอหลังๆ พี่ตาก็บอกว่าผ่านแล้วนะ เราโอเคแล้วผ่านเร็วกว่าที่พี่คิดด้วย พี่ตาก็ให้กำลังใจ”

“พี่ตาจะการสอนเรื่องเทคนิคนะครับ ซึ่งเป็นเทคนิคที่บางทีมันเป็นเทคนิคที่พี่ตาศึกษาและอยู่กับมันมาเป็นสิบปี เพราะฉะนั้นพี่ตาก็จะเห็นว่าจังหวะตรงนี้ควรจะเพิ่มอะไรลดอะไร หรือว่ากฤษณ์ควรจะทำอะไร พี่ตาก็จะมาบอกตลอด”

เรียกว่าหันมาเอาดีทางด้านพิธีกรอย่างเต็มตัวเลย

“ก็คงเป็นอย่างเดียวที่ทำแล้วในตอนนี้ อย่างอื่นผมว่าไม่น่าจะมีเวลาแล้ว เฉพาะแค่ 4 รายการก็เต็มที่แล้วครับ กับงานบริษัทของผมเองก็ยังรันอยู่ครับ เพราะงานบริษัทก็มีคนที่เขาดูแลอยู่แล้วผมจะดูแลภาพรวมเฉยๆ นะครับ แต่ก็ยังทำอยู่ปกติ ส่วนงานอีเว้นท์ ถ้าเกิดไม่ติดอะไร แล้วผมว่างผมก็จะไปนะครับ แต่ว่าหลักๆ คิวพิธีกร 7 วันก็แทบจะแน่นหมดแล้ว”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผุ้จัดการออนไลน์

“ตั้น พิเชษฐ์ไชย” บอกมัวแต่เข้าป่าทำรายการกับ “ติ๊ก เจษฯ” จนไม่มีเวลาหาเมีย

“ตั้น พิเชษฐ์ไชย” เผยเข้าป่าไปทำรายการเนวิเกเตอร์กับพี่ชาย “ติ๊ก เจษฎาภรณ์” จนไม่มีเวลาหาแฟน แต่ส่วนตัวก็ยังรู้สึกว่าตัวเองยังเด็กเกินไปที่จะคิดเรื่องแบบนี้ ปัดไม่ได้ทิ้งงานละคร บอกยังรับบ้างที่ใกล้จะปิดกล้องแล้วคือเรื่องภูผากับแพรไหม

นานๆ จะเห็นว่าดาราหนุ่ม “ตั้น พิเชษฐ์ไชย ผลดี” น้องชายของพระเอกสุดหล่อ “ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี” จะรับละครสักเรื่อง ล่าสุดได้เจอเจ้าตัวในงานบวงสรวงละครเรื่อง “สายฟ้ากับสมหวัง” ของค่ายเอ็กแซ็กท์ ก็เลยขออัพเดทชีวิตให้แฟนๆ หายคิดถึงซะหน่อย ซึ่งงานนี้หนุ่มตั้นก็ออกปากครวญทันทีว่ามัวแต่เข้าป่าไปถ่ายทำรายการเนวิเกตอร์กับพี่ชาย จนไม่มีเวลาว่างให้ไปหาสาวๆ เลย

“ก่อนหน้านี้ที่หายไปก็ไปทำรายการกับพี่ติ๊กครับ ไปทำรายการเนวิเกเตอร์มาครับ ส่วนเรื่องหัวใจก็ยังเต้นเป็นปกติครับ(หัวเราะ) ล้อเล่นครับ ขอทำงานก่อน ส่วนเรื่องหัวใจเราก็ยังรู้สึกว่าเรายังเด็ก ยังไม่พร้อมที่จะมี หรือถ้าผมแต่งงาน ผมไม่แอบนะครับ ไม่แอบแน่นอนครับ จริงจังเลยครับ กับพี่ติ๊กผมก็คุยกันว่าอยากจะทำงานให้ฐานะเรามั่นคงก่อน เหมือนกับว่าถ้าใครจะมาอยู่กับเรา เราก็ต้องทำให้ตัวเองมั่นคงก่อนครับ ถามว่ามีเจ้าสาวแล้วหรือยัง ก็มีอยู่ทั้งประเทศ อยู่ที่ว่าเขาจะเลือกผมหรือเปล่า(หัวเราะ)”

“ตอนนี้ชีวิตยังราบเรียบ ทำงานทุกวันผจญภัยกับพี่ติ๊กตลอด ยังไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้เลย (สาวที่จะมาอยู่ด้วยต้องเป็นประเภทไหน?) ก็ต้องประเภท1แน่นอนครับ ไม่เอาประเภท2 (หัวเราะ) ก็ต้องเป็นคนที่อยู่กับเราแล้วมีความสุข เวลาที่อยู่กับเราคนนี้คือคนที่ใช่ ก็เพราะเข้าป่าเลยไม่มีเวลาจีบใคร ทำงานเลยไม่มีเวลาคุยกับใคร งานก็เกี่ยวกับรายการ และเบื้องหลัง ยังมีงานเบื้องหน้ามาทีละเล็กน้อย เลยคิดว่า รอให้มีเวลาเต็มที่ดีกว่า ค่อยคิดเรื่องนี้จริงจัง คือพ่อแม่ไม่เร่งรีบอะไร พี่ติ๊กเองก็ยังไม่มีน้อง เอาเป็นว่าปล่อยให้เป็นไปธรรมชาติ พร้อมเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นครับ”

“ส่วนเรื่องละครก็ยังมีรับละครบ้าง อย่างเรื่องที่ผ่านมาใกล้จะปิดกล้องแล้วก็เรื่องภูผากับแพรไหมครับ ตอนนี้ก็เลยมีเวลามารับอีกเรื่องคือ สายฟ้ากับสมหวัง ที่รับบทนี้เพราะผมอ่านบทแล้วผมคิดว่าเป็นบทที่ดีมากครับ ได้เล่นเป็นตำรวจ และในเรื่องเราจะคอยดูแลนางเอก เพราะเขาไปรู้เรื่องราวอะไรมาสักเรื่องหนึ่ง ก็เลยต้องปกป้องเขาดูแลเขา ก็เลยเป็นตำรวจที่ดี แต่ไม่มีร้องเพลงครับ เราแค่เอานางเอกไปฝากไว้กับวงลูกทุ่งเฉยๆ แต่ส่วนตัวผมแล้วไม่ได้ร้องเพลงลูกทุ่ง แต่ถ้ามีโอกาสก็ต้องลองครับ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

“มาริสา” ปลื้มเตรียมเล่นหนังร่วมทุน 4 ประเทศ ตอนนี้เร่งลดหุ่นและซ้อมคิวบู๊

“มาริสา” รับเล่นหนังแอ็คชั่นร่วมทุน 4 ประเทศ ไทย จีน เกาหลีใต้ และมาเลเซีย เรื่อง “Burnt” กำลังเร่งลดหุ่นและฝึกคิวบู๊ ยันไม่สนใจค่าตัวว่ามากหรือน้อย เอ่ยปากยินดีรับค่าตัวเป็นรายวันเหมือนช่างแต่งหน้า

นางแบบสาว “สา มาริสา แอนนิต้า” เตรียมฟิตแอนด์เฟิร์มร่างกาย ซ้อมคิวบู๊อย่างหนักเพื่อเล่นหนังแอ็คชั่นร่วมทุน 4 ประเทศ ไทย จีน เกาหลีใต้ และมาเลเซีย เรื่อง “Burnt” เผยตอบรับเล่นทั้งๆ ที่บทยังไม่เสร็จโดยไม่สนค่าตัว เพราะอยากหาประสบการณ์เพิ่มเติมให้ตัวเอง

“ช่วงนี้ละครไม่ค่อยมี ว่างๆ น้ำหนักขึ้นมา 4 กิโลกรัม แต่ตอนนี้เริ่มลดแล้ว สากำลังอดอาหารอยู่ ไม่ทานแป้งเลย ทานแต่ผักผลไม้ แล้วตอนนี้กลับมาซ้อมคิวบู๊ เพราะว่ากำลังจะเริ่มเปิดกล้องถ่ายหนังประมาณกลางปี เป็นหนังร่วมทุนของ 4 ประเทศ คือ ไทย จีน เกาหลี แล้วก็มาเลเซีย ชื่อเรื่อง Burnt เพิ่งแถลงข่าวไป เป็นหนังแอ็คชั่น ซึ่งจะเล่นกับนักแสดงจีน”

“ที่รับเล่น จริงๆ มาจากผู้กำกับเคยทำหนังไทย เคยคุยกันตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วว่ามีหนังให้เล่น แต่หนังไทยยังเขียนบทไม่เสร็จ แต่ว่ากำลังจะทำโปรเจกต์หนังร่วมทุนอยู่สนใจไหม แต่สาก็รับปากทั้งที่บทยังเขียนไม่เสร็จนะ ก็เลยไม่รู้ว่าคาแรคเตอร์หรือเรื่องราวของหนังจะเป็นยังไง รู้แค่ว่าเป็นหนังแอคชั่นแน่นอน เพราะเดี๋ยวต้องมาดูบทกันอีกที”

“นักแสดงนำมี 4 คน อย่างที่บอกเป็นนักแสดงจีน 3 คน นักแสดงคนไทยคนเดียวคือสา ก็กังวลนะ เริ่มฝึกบู๊ เริ่มไปต่อยมวย ฝึกร่างกายไว้ก่อน แต่ว่าโชคดีทีมโปรดักชั่นทั้งหมดเป็นทีมไทย และในเรื่องใช้ภาษาอังกฤษค่ะ โลเกชั่นมีถ่ายที่เมืองไทยครึ่งหนึ่ง เมืองจีนครึ่งหนึ่ง ที่สนใจโปรเจกต์นี้เพราะเป็นหนังร่วมทุน เป็นการถ่ายแบบสามมิติด้วย ตีตลาดเอเชียทั้งหมดเลย ยังไม่แน่ใจว่าจะฉายบ้านเราหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ จะมีฉายที่เมืองจีนแน่นอน”

ไม่สนเรื่องค่าตัวว่าจะได้มากหรือน้อย สนใจแค่ว่าเป็นหนังร่วมทุน

“ไม่ค่ะ ค่าตัวจริงๆ อย่างที่บทเรายังเขียนไม่เสร็จ ตอนนี้เราคุยแค่ว่าพี่จ่ายเป็นวันแล้วกัน (หัวเราะ) เหมือนช่างหน้าช่างผมจ่ายเป็นรายวัน สามองว่าสาไม่ได้สนใจในเรื่องค่าตัวว่าได้เท่าไร แต่สาสนใจว่าตรงที่เป็นหนังร่วมทุน เราน่าจะได้ประสบการณ์อะไรเพิ่ม ด้วยความที่ว่าเราเล่นละครบู๊มาเยอะ เราก็น่าจะได้อะไรใหม่ๆ เพิ่มขึ้น แล้วก็น่าจะขยายตลาดที่มันดูกว้างขึ้น ดูน่าสนใจขึ้น”

แต่เมื่อวกมาถามถึงเรื่องหัวใจ สาวสารับว่ายังโสด อยากเจอคนที่เคมีตรงกัน

“หัวใจว่างมากค่ะ ก็ยังไม่รีบ ตอนนี้ก็ทำงานไปก่อน เราก็อยากเจอคนที่มีเคมีตรงกันจริงๆ จะได้ไม่ต้องปรับตัวมาก อยู่ด้วยกันได้”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

“อั้ม” โต้เล่นจันดาราแทน “มาช่า” พร้อมปัดกลับไปคืนดี “โน้ต”



“อั้ม” โต้เสียบ “จันดารา” แทน “มาช่า” บอกถ้ารับเล่นเรื่องไหนสิ้นเดือนหน้ารู้ชัวร์ เจ้าตัวปัดรีเทิร์นรัก “โน้ต” แจงที่ถ่ายรูปคู่กันเพราะเป็นเพื่อนกัน ยันถ่านไฟเก่ามอดไปแล้ว พร้อมปฏิเสธหนุ่มที่ซุ่มคบอยู่ชื่ออักษรย่อ L

อยู่ๆ นางเอก “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ก็โพสต์รูปถ่ายคู่กับแฟนเก่า “โน้ต วิเศษ รังสีสิงห์พิพัฒน์” ลงในอินสตาแกรม จนหลายคนพลอยคิดไปว่าทั้งคู่กลับมารีเทิร์นรักกันอีกรอบ แถมยังแอบห่วงไปถึงสาว “ปู ไปรยา สวนดอกไม้” เพราะก่อนหน้านี้หนุ่มโน้ตเองก็มีข่าวตามจีบและคบปูอยู่ ซึ่งก่อนที่เรื่องราวจะชุลมุนวุ่นรักไปมากกว่านี้ “อั้ม” ก็เลยออกมายืนยันว่าถ่านไฟเก่ามอดไปแล้ว แต่ที่ถ่ายรูปคู่กันเพราะเป็นเพื่อนกันเฉยๆ

“เราก็เป็นเพื่อนกันจริงค่ะ มีโอกาสได้กลับมาคุยกันเป็นเพื่อนก็สบายใจดี ก็เพิ่งกลับมาคุยกันไม่นาน (หลายคนมองว่าจะกลับมารีเทิร์น?) เป็นเพื่อนกันจริงๆ ค่ะ โน้ตเป็นคนดี แค่เราอยู่ด้วยกันไม่ได้แค่นั้นเอง แฮปปี้ดีมีอะไรก็คุยกันตลอด เขาก็คุยเรื่องส่วนตัวให้อั้มฟังบ้าง โสดบ้างอะไรบ้าง อั้มเองก็เล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังบ้าง เล่าให้ฟังตลอด”

“เราเลิกกันมันไม่จำเป็นจะต้องไม่คุยกัน แต่แรกๆ ก็ไม่ได้คุยกันหลายเดือนเลย แต่ถ้าถามว่าปรึกษาเขาไหม ก็ไม่ค่อยนะ ไม่เท่าไหร่ แต่เขาก็แซวบ้างว่า เวลาเรามีข่าวกับหนุ่มๆ เวลาเขาเห็น (กับโน้ตลุ้นไม่ขึ้นแล้วใช่ไหม?) ก็เป็นเพื่อนกันค่ะ ดีแล้ว”

ส่วนเรื่องที่แฟนคลับ “อั้ม” โพสต์ต่อว่า “โน้ต” เพราะไม่พอใจนั้น เจ้าตัวบอกว่า…

“จริงๆ โน้ตเป็นคนดี แต่เราอาจอยู่ด้วยกันไม่ได้ ด้วยนิสัย แต่มันมีบางอย่างที่เราเข้ากันไม่ได้ถึงทำให้เราแยกกัน แต่เราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”

พร้อมเคลียร์ภาพหลุดกับหนุ่มตี๋ใส่แว่นเป็นแค่เพื่อนเลิฟเท่านั้น ไม่ใช่หนุ่มที่ตนซุ่มคุยอยู่อย่างแน่นอน

“เป็นเพื่อนเลิฟค่ะ และก็ไม่ใช่คนนี้แน่นอน ถ้าใช่คงไม่เอามาลงอินสตาแกรมของตัวเองหรอกค่ะ เขาก็มีรูปคู่อั้มหลายรูปเพราะเราสนิทกัน เพื่อนชอบแกล้ง ยิ่งเห็นข่าว ยิ่งชอบเอาลง (ตอนนี้ยังโสด?) ก็มีคุยๆ แล้วค่ะ ถามว่ามั่นใจไหม ก็ยังไม่รู้ต่อไปข้างหน้าจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่ก็แฮปปี้ดี”

ก่อนหน้านี้เพื่อนรัก “เมย์ เฟื่องอารมย์” เคยแง้มๆ ว่าหนุ่มที่ “อั้ม” ซุ่มคบอยู่ชื่ออักษรย่อ L แถมล่าสุดยังมีรูปอั้มทำมือเป็นตัว L จนหลายคนแอบคิดไปว่าเป็นการบอกใบ้อะไรหรือเปล่า

“ไม่ได้หมายความว่าหนุ่มคนใหม่ชื่อแอลค่ะ เป็นโค้ดของเราหมายถึงมากมายค่ะ”

เจ้าตัวยันข่าวถูกทาบทามเล่นหนังจันดาราแทน “มาช่า” ไม่จริง

“ไม่มีค่ะ ถ้ารับเล่นเรื่องไหนสิ้นเดือนหน้าจะบอกค่ะ ส่วนละครหลังสงกรานต์ค่อยมาถามอีกที”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

ภาพแสงเงา คล้ายใบหน้าคน บนดวงจันทร์






มาดูภาพแสงและเงาแปลกๆ บนผิวดวงจันทร์ ที่ปรากฏ คล้ายกับใบหน้าของคน


ส่วนจะคล้ายคลึง...กับใบหน้าของใครนั้น ก็ต้องลองจิตนาการกันเอง...นะครับ




ใบหน้าแรก































ใบหน้าที่ 2


























ที่มา :





http://scottcwaring.blogspot.com/2012/03/newest-alien-face-discovered-in-chinese.html





____________________


เครดิต :


________________________________



“Isn’t She Lovely” โคฟเวอร์เพราะๆ จาก CLARA C และ Jayesslee

Nam Bora สลัดชุด ฮันบก กิ๊บเก๋ในชุด แต่งงาน

UFO ประหลาดมีรูปทรงเป็นรูปสามเหลี่ยมป่องตรงกลาง โผล่น่านฟ้าอังกฤษ








สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ว่า มีผู้พบเห็น


พบจานบินประหลาดที่มีรูปทรงเป็นรูปสามเหลี่ยมป่องตรงกลางปรากฏอยู่เหนือท้องฟ้าแถบมิดแลนด์สของอังกฤษ ถือเป็นการปรากฏตัวของจานบินในพื้นที่แถบนี้เป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 5 ปี...





รายงานข่าวระบุว่า ตากล้องสมัครเล่นรายหนึ่งสามารถบันทึกเหตุการณ์ขณะที่อากาศยานไม่ทราบชนิด ลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือเมืองดัดลีย์ในเขตมิดแลนด์สตะวันตกของอังกฤษ ก่อนที่เขาจะนำไปโพสต์ลงในเว็บไซต์ "ยูทูบ" และถือเป็นการพบเห็นเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 5 ปีหลังสุด อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นภาพจานบินของจริงหรือไม่






ที่ตั้งของแถบมิดแลนด์ส




สื่อท้องถิ่นของอังกฤษเคยรายงานก่อนหน้านี้ โดยระบุ มีผู้พบเห็นสิ่งที่เชื่อว่า เป็นจานบินรูปทรงสามเหลี่ยมเช่นเดียวกันนี้ ในแถบมิดแลนด์สครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2007 รวมถึงเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อปี ค.ศ. 2010 ที่มีผู้พบเห็นวัตถุลึกลับรูปสามเหลี่ยมที่มีขนาดใหญ่กว่าเครื่องบินราว 4-5 เท่าเหนือท้องฟ้าในแถบนี้













ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/oversea/249199

____________________


เครดิต :


________________________________



พบภาพจิตรกรรมพุทธสาวก อายุราว 500 ปี ที่อยุธยา





นายภัทรพงษ์ เก่าเงิน นักโบราณคดีชำนาญการ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากร เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ดำเนินงานบูรณะเจดีย์ประธานวัดสิงหารามด้านทิศตะวันออก บริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา ปี 2555 ได้พบกรุเจดีย์ประธานด้านทิศตะวันออก




เป็นห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 1.5 x 1.5 เมตร สภาพของพื้นภายในกรุได้ถูกขุดทำลายไปจนหมดไม่พบร่องรอยหลักฐานอื่น บริเวณผนังกรุทั้ง 4 ด้านปรากฏร่องรอยของภาพจิตรกรรม สันนิษฐานว่า แต่เดิมภายในกรุคงประดิษฐานพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุแต่ปัจจุบันได้สูญหายไปแล้ว





 




ทั้งนี้ ภาพจิตรกรรมประดับผนังคูหา แต่ละด้านเป็นภาพเขียนสีรูปพุทธสาวกจำนวน 3 รูป อยู่ในท่าเดินพนมมือ ลักษณะเดินเวียนขวาประทักษิณ เทคนิคในการเขียนสีจะใช้สีเหลืองเป็นสีพื้นผนังและใช้สีแดงตัดขอบเป็นโครงรูปทั้งหมด ในส่วนของสีพื้นของรูปนั้นมีการใช้สีแดงเป็นพื้นของจีวร และสีดำเป็นพื้นของเศียรพระ





อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบคติและเทคนิควิธีการสร้างนั้น จะเทียบได้กับภาพจิตรกรรมในสมัยอยุธยายุคต้น ที่พบในบริเวณกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ เขียนเป็นภาพพุทธประวัติ และทศชาติชาดกนั้น พบว่ามีการใช้สีดำ สีแดง และสีเหลืองดินเป็นสีหลักในการเขียนที่เหมือนกัน ดังนั้น จึงคาดว่าภาพเขียนสีภายในกรุวัดเจดีย์ประธานวัดสิงหารามนี้ น่าจะมีอายุอยู่ในช่วงสมัยอยุธยาตอนต้น-ตอนกลาง ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 19-22 หรือประมาณ 500 ปี





ที่มา :


http://news.mthai.com/general-news/159627.html


ภาพประกอบจาก http://www.dailynews.co.th/

____________________


เครดิต :


________________________________




วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555

หึ่ง “บอดี้สแลม” ใหญ่คับสนามบิน แซงคิวเชคอิน-กระชากคอเสื้อชาวบ้าน !

ไฮโซนามสกุลดังโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ค ระบุพี่ชายถูก“ชัช” มือกลองวง “บอดี้สแลม” กระชากคอเสื้อและขู่ทำร้ายร่างกายที่สนามบิน เหตุกลุ่มนักร้องดังลัดคิวเช็กอินจนเกิดเขม่นกัน

งานเข้าจนได้ สำหรับวงร็อกชื่อดัง “บอดี้สแลม” หลังมีสาวนามสกุลไฮโซโพสต์อ้างผ่านเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Rin Mahadumrongkul ว่า เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมาพี่ชายของตนถูก “ชัช สุชัฒติ จั่นอี๊ด” มือกลองบอดี้สแลม กระชากคอเสื้อและขู่ทำร้ายร่างกายด้วยถ้อยคำหยาบคาย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งปัญหาเกิดจากกลุ่มนักร้องดังลัดคิวเช็กอินขึ้นเครื่องไปต่างประเทศ จนเกิดความไม่พอใจกัน โดยข้อความนั้นมีรายละเอียดดังนี้...

“เมื่อคืนวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา นี้ คุณแม่รินและญาติสนิท 2 คน รวมทั้งพี่ๆ ที่บริษัทคุณแม่ เข้า check in ที่ Gate 1 การบินไทย สนามบินสุวรรณภูมิ (คุณแม่รินทำธุรกิจนาฬิกาและต้องเดินทางมา Basel watch fair ที่สวิส เป็นประจำทุกปี) เนื่องจากเป็น Flight กลางคืน (เครื่องขึ้นเที่ยงคืน แต่ไป check in ตั้งแต่ 4 ทุ่ม) ในเวลานั้น ที่ check in การบินไทยเปิดช่องสำหรับเช็คอินแค่สองช่อง ทำให้คิวของคนที่จะ check in ยาวมาก ขณะนั้นเองก็มีกลุ่มของนักร้อง Bodyslam จำนวน 5 คนเดินตัดคิวของคนที่กำลังต่อคิวยาวอยู่ (เข้าใจว่ามีเจ้าหน้าที่การบินไทยพาเข้า มาทราบทีหลังว่าทั้งวงกำลังจะเดินทางไปเล่นคอนเสิร์ตที่ London) ทำให้คนที่กำลังต่อคิวกันอยู่ทั้งชาวไทยและต่างชาติพากันบ่นระงม (เพราะคิวยาวมากและทุกคนก็กลัวว่าจะ check in ไม่ทัน) พี่ชายของริน (ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันและกำลังต่อคิวเพื่อ check in เข้าชั้นธุรกิจ) ก็ได้เอ่ยปากถามขึ้นว่า “ทำไมถึงตัดคิว ทำไมไม่ต่อคิว” (เข้าใจว่าเป็นนักร้อง แต่อย่าลืมนะคะว่าถ้าคุณรีบ คนอื่นก็รีบเหมือนกัน) พี่ตูน bodyslam (และคณะที่กำลังเดินผ่านไป) ก็หันมาตอบดีๆ ว่า “ผมมากับคณะเค้าครับ” แล้วสุดท้ายก็ตัดคิวกันทั้งกลุ่มและเดินเข้าไปก่อน ในขณะที่ประชาชนคนอื่นๆ ก็ยืนรอกันต่อไป”

“หลังจากที่คุณแม่ของรินและกลุ่มที่ไปด้วยกัน check in เสร็จ ก็ต้องผ่านกับจุดที่เป็นจุดตรวจหนังสือเดินทาง คุณแม่รินและคุณป้าก็รีบเข้าไปกันก่อนเพราะอยากจะรีบไปซื้อเครื่องสำอาง ในขณะที่พี่ชายของรินตามมาทีหลัง คุณแม่รินเมื่อตรวจหนังสือเดินทางเสร็จก็เดินเข้ามาก่อน แต่ก็ยืนรอพี่ชาย (เนื่องจากจะรอบอกเค้าว่าเข้ามาก่อนแล้ว จะไปรีบไปซื้อเครื่องสำอาง) พอพี่ชายของรินผ่านจุดตรวจหนังสือเดินทางเข้ามา ก็พบว่ากลุ่มนักร้อง Bodyslam ยืนดักรออยู่ (ในขณะนั้นมีกันอยู่ประมาณ 4-5 คน ไม่มีพี่ตูน) เมื่อกลุ่มนักร้องเห็นพี่ชายริน ตัวพี่ที่เป็นมือกลองก็เดินปรี่เข้ามาและ “กระชากคอเสื้”' พี่ชายของริน พร้อมกับพูดว่า “เมื่อกี้มึงพูดว่ายังไงนะ... พ่อมึงเป็นใคร” คนในกลุ่มก็มีเข้ามาห้ามแล้วบอกให้ปล่อย พี่มือกลองจึงปล่อยคอเสื้อ ก่อนจะหันมาพูดกับพี่ชายรินว่า “ระวังตัวไว้ให้ดี จะไปเมืองไหน กูมีพวกอยู่ทุกเมือง ระวังตัวไว้ให้ดีเหอะ” ก่อนจะเดินไป ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ทั้งคุณแม่รินและคุณป้าเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด”

สำหรับวงร็อกชื่อดังบอดี้สแลมนั้นได้กลับจากการทัวร์คอนเสิร์ตที่ต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในค่ำวันนี้จะมีคิวขึ้นคอนเสิร์ต “ยามาฮ่า พรีเซนต์ คอนเสิร์ต เทพ” ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งความจริงจะเป็นอย่างไร? ผู้สื่อข่าวจะติดตามมานำเสนอต่อไป


ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

“สีดา” สะอื้นไห้ ดีใจศาลยกฟ้องคดีฉ้อโกง “โก้” ด้านโก้ลั่นจะอุทธรณ์ถึงที่สุด

“สีดา” ดีใจศาลยกฟ้องคดีฉ้อโกง “โก้ ธีรศักดิ์” กรณีกู้เงินไปทำละคร “แม่นาคพระโขนง” แล้วไม่คืน เจ้าตัวเผยทั้งน้ำตาสุดโล่งที่พ้นมลทิน อย่างน้อยก็รู้ว่าฟ้ามีตา ด้านศาลชี้ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมลงทุนทำละครด้วยกันแต่ไม่สำเร็จ จึงไม่เข้าข่ายหลอกลวง อีกทั้งไม่มีเจตนาทุจริตจึงไม่ถือเป็นความผิดฉ้อโกง ขณะที่โก้กร้าวจะอุทธรณ์คดีต่อจนถึงที่สุด

สืบเนื่องจากกรณีที่อดีตนักแสดง “โก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา” ได้ออกมาแจ้งความดำเนินคดีกับดารารุ่นเก๋า “สีดา พัวพิมล” แม่ของดาราหนุ่มผู้ล่วงลับ “อ๊อฟ อภิชาติ พัวพิมล” ในข้อหาฉ้อโกงเงินรวม 5.5 แสนบาท เพราะอ้างว่าจะเอาเงินไปทำละครเรื่อง “แม่นาคพระโขนง” ให้กับบริษัทเจเอสแอล แต่สุดท้ายพอสอบถามไปยังเจเอสแอลกลับได้คำตอบว่าโปรเจกต์ละครเรื่องนี้ถูกพับไว้ไม่มีกำหนด จึงเป็นเหตุทำให้โก้ตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว

ซึ่งหลังจากขึ้นศาลต่อสู้กันมาพักใหญ่ ล่าสุดวันนี้(28 มีนาคม) ที่ศาลจังหวัดพระโขนง ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องนางสีดา โดยพิพากษาว่า คดีนี้มูลเหตุเกิดจากคู่ความทั้งสองตกลงร่วมลงทุนทำละคร เรื่อง แม่นาคพระโขนงกัน แต่ไม่สำเร็จ จึงไม่เข้าข่ายเป็นการหลอกลวงโจทก์ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ เพื่อให้ได้ทรัพย์สิน อีกทั้งจำเลยไม่มีเจตนาทุจริต จึงไม่ถือเป็นความผิดฐานฉ้อโกง พิพากษายกฟ้อง

หลังจากฟังคำพิพากษาแล้ว “โก้ ธีรศักดิ์” คู่กรณีได้กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า จากนี้ตนจะยื่นอุทธรณ์คดีต่อไปจนถึงที่สุด ด้าน “สีดา พัวพิมล” ได้เปิดเผยด้วยด้วยดีใจว่า ตนรู้สึกโล่งใจที่พ้นมลทิน เพราะที่ผ่านมาถูกคนในวงการบันเทิงมองในทางลบ จนไม่มีงานแสดงละครเข้ามาอีก

“ความรู้สึกหลังจากที่ศาลตัดสิน ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากค่ะ เราไม่ได้ไปฉ้อโกงหรือหลอกลวงใคร เราไม่มีอาชีพไปหลอกลวงใคร ศาลท่านก็มีคำสั่งยกฟ้องให้เราชนะคดีเพราะเราเองก็มีเอกสาร ท่านยกฟ้องหมดแล้วก็ว่ากันไปตามความจริง ถามว่าหายเหนื่อยไหมกับเรื่องราวที่ผ่านมาเป็นปี เหนื่อยมากค่ะ กับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึง มันเหนื่อยมาก ถ้าเป็นคนอื่นคงตัดสินปัญหาชีวิตไปแล้ว แต่เราไม่ใช่คนหนีปัญหา อะไรเป็นความจริงก็คือความจริง เราต่อสู้กันในทางที่ถูกต้อง”

“เราก็รู้สึกโล่งที่พ้นข้อกล่าวหา ความรู้สึกของเรามันแย่มากกับการที่ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงเขา หลอกลวงเขา มันเสียมาก เสียจนมีข่าวออกมาโดยการที่เขาให้ข่าวออกมาแบบนี้ เราก็เสียทั้งเงินเสียทั้งงาน เสียทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เราก็ไม่ได้โทษใคร ชาติที่แล้วเราอาจไปทำเวรกรรมกับใครเขาไว้ เราไม่โกรธใครหรอก เราเชื่อว่าเกิดมาพ่อแม่เราสั่งสอนให้เราเป็นคนดีอยู่แล้ว สลึงเดียวเรายังไม่โกงใครเลย”

“ทางคู่กรณีก็ไม่ได้ติดต่อมาเลยค่ะ ต่างคนต่างแยกย้ายไม่มีอะไร ตอนที่เขามาฟังคำตัดสินเขาก็ไม่มีท่าทีอะไรนะ เขาก็เฉยๆ แต่ถามว่าเขาจะยื่นฟ้องอุทธรณ์ต่อนั้น อันนี้เราไม่ทราบค่ะ เพราะไม่ได้คุยอะไรกับเขา ศาลพิพากษาออกมาว่ายกฟ้องเราชนะ ก็ดีใจแล้ว ยิ้มทั้งน้ำตาเลย”

“ข่าวนี้มันทำให้สังคมเข้าใจมากขึ้นไหม คืออันนี้เราก็รู้ในส่วนของเราว่าเราพ้นมลทิน อะไรที่ค้างไว้ก็พ้นแล้ว เราเองก็ไม่เคยออกสื่อให้ข่าวโต้ตอบอะไร เราคิดว่าฟ้ายังมีตานะ เราก็ได้แต่พูดในใจคนเดียว ถ้าเบื้องบนเห็นว่าเราถูกก็ว่าไปตามถูก ถ้าท่านเห็นว่าเราผิดก็ว่าไปตามผิด”

“ชีวิตตอนนี้ยังทุกข์เหมือนเดิม ยังไม่มีงานไม่มีเงิน เพราะข่าวนี้ทำให้เราหมดเลยจริงๆ นะ อนาคตหมด ชื่อเสียงก็เสีย ถามว่าหลังหลังจากที่ศาลตัดสินจะมีงานเข้ามาไหม ก็ไม่ทราบค่ะ ไม่กล้าตอบ ก็แล้วแต่ใครจะเมตตา เราก็ยินดี จะให้ไปทำอย่างอื่นก็ไม่มีเงินสำรอง ไม่มีทุน (ร้องไห้) เราอยากจะทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่มีเงิน เราอยากทำอย่างอื่นเล็กๆ น้อยๆ เพื่อปลดหนี้ เราพูดจริงๆ ไม่อยากเป็นหนี้ใคร การที่เราต้องเป็นหนี้คนเขา ก็คือเราเป็นหนี้เรื่องงานจริงๆ การทำงานมันต้องมีพลาด มีการลงทุนแต่เราไม่ได้เอาเงินใคร ไม่ได้โกง ไม่ได้เล่นการพนัน เข้าบ่อนไม่ใช่อย่างนั้น อย่ากล่าวหาเรา คนที่ว่าเราเขาไม่เคยเห็นซะหน่อย”

“เรามีสมองมากพอที่จะเอาสมองทำงานมากกว่าหมกมุ่นกับการพนัน เราคงไม่ทำแบบนั้น การเป็นหนี้เรามีเหตุผล เรามีอะไรก็แก้ไขปัญหาคนเดียวต่อสู้คนเดียว เราก็เป็นคนสู้นะ สู้ชีวิตมาแต่ไหนแต่ไร เราไม่มีทุนอะไรเลย ไม่มีเลย (ร้องไห้) ตั้งแต่ข่าวออกไปก็ยังไม่มีเพื่อนพ้องในวงการช่วยเหลือ แต่เราก็ไม่เป็นไร แต่คำว่าไม่เป็นไรนี่แหละ อะไรก็ได้ชีวิตมันถึงได้เป็นแบบนี้ ทำงานไม่ต้องมีสัญญาก็ได้เดี๋ยวออกทุนเองไปก่อนก็ได้ เจ้าแล้วเจ้าเล่ามันถึงได้เป็นแบบนี้ การทำงานมันต้องมีการลงทุน เรามีค่าของความเป็นคนอยู่เหมือนกัน เราอยู่ในมุมมืดมันทำให้เราได้เห็นอะไรได้ชัดเจนขึ้น ชัดมากๆ”

ขอบคุณข่าวแซ๋บจากผู้จัดการออนไลน์

"ชมพู่" หวนคืนบท "เรยา" ใน "เรยา เดอะ มิวสิคัล"

"ชมพู่" พูดเองแสตนด์บายนิ้วนางรอ แหวน "น็อต" พร้อมเตรียมกลับมาสวมบท "เรยา" อีกครั้งใน "เรยา เดอะ มิวสิคัล" เจ้าตัวรับสุดท้าทายแต่จะขอทำดีที่สุด เชื่อเป็นโอกาสเดียวของชีวิต

โด่งดังสุดๆ เพราะบท "เรยา" จากละคร "ดอกส้มสีทอง" ล่าสุดทางฟากของนักแสดงสาวงานชุก "ชมพู่ อารยา" ก็เตรียมที่จะรับบทดังกล่าวอีกครั้งหากแต่เป็นในรูปแบบของละครเวที "เรยา เดอะ มิวสิคัล" โดย "แมงโก้ทีวี" ช่วงเดือนกันยายนนี้ ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเจ้าตัวได้เผยถึงรายละเอียดว่า...

"ก็จริงๆ เรื่องเพิ่งสรุปเมื่อวานเองค่ะ เมื่อวานไปคุยกันเรื่องเวลา เรื่องคิว รายละเอียดต่างๆ ก็น่าจะชัวร์แล้วค่ะ น่าจะเริ่มซ้อมจริงๆ ประมาณเดือนพฤษภาคมชมต้องไปเรียนร้องเพลงค่ะ แล้วก็ซ้อมเข้าคิวประมาณเดือนกรกฏาคม"

"ตื่นเต้นมาก (ลากเสียง) คือมันท้าทายค่ะ แคสติ้งคนอื่นๆ เขาเป็นนักร้องโอเปร่าหมดเลย (กังวลตรงไหนที่สุด?) ก็อยากร้องให้ดีที่สุดค่ะ เราก็งูๆ ปลาๆ เนอะ เราก็ไม่เคยไปเรียนแบบจริงจัง ก็คิดว่าเป็นช็อตบังคับต้องเรียนแล้วค่ะ จริงๆ หลายปีก่อนเคยเล่นละครเวทีมาแล้ว แต่ก็นานแล้ว"

เชื่อไม่กระทบกับงานอื่นๆ..."อันนี้คือเคลียร์แล้วค่ะ ตอนนี้ชมถ่ายละครอยู่ 2 เรื่องคือเรื่องรักคุณเท่าฟ้า และหนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ซึ่งก็จะปิดกล้องประมาณเดือนพฤษภาคมนี้ และพอเดือนพฤษภาคมจะเปิดกล้องละครของพี่นก-จริยา (แอนโฟเน่) เรื่องสามีกำมะลอ น่าจะเล่นคู่กับคุณโฬม (พัชฏะ นามปาน) ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงค่ะ"

"ซึ่งเท่ากับว่าชมจะเหลือสัปดาห์นึง 4 วันไปจนถึงปลายปีเลย ชมก็ใช้เวลาตรงนี้ที่มีมาซ้อมและเล่นละครเวที พอปิดจากละครเวทีก็เปิดกล้องละครอีก 2 เรื่องค่ะ"

คิดว่าตัวของ "เรยา" จะกลับมาสร้างกระแสได้อีกครั้งหรือไม่?
"คือชมไม่ได้มองเรื่องกระแสเป็นหลัก เราก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ถ้าได้รับความสนใจก็ดี แต่คิดว่าเท่าที่คุยกับทุกฝ่าย เขาก็มีความตั้งใจที่จะทำออกมาให้ดีที่สุดค่ะ ส่วนตัวก็รู้สึกว่าเป็นโอกาสเดียวในชีวิตที่จะได้ทำ คิดว่าถ้าเราไม่ได้ทำครั้งนี้ก็คงไม่มีแล้วค่ะ"

"แล้ววิธีการเล่าก็จะแตกต่างไปจากละครค่ะ ดีเทลบางอย่างต้องลดไปอยู่แล้วเพราะว่าเรื่องมันต้องจบภายใน 2 ชั่วโมง แต่ว่าชมเชื่อว่าเรื่องดอกส้มสีทองคนจะรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นยังไง น่าจะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องราวเป็นยังไง ก็คงมีวิธีการถ่ายทอดและมุมมองที่แตกต่างจากละครโทรทัศน์ เพราะอันนี้มันเป็นมุมมองของอาจารย์ถ่ายเถา (สุจริตกุล) จริงๆ ค่ะ"

ถามไปถึงเรื่องของความรักกับแฟนหนุ่ม "น็อต วิศรุต" เจ้าตัวเผยอีกฝ่ายเพิ่งไปต่างประเทศมาพร้อมซื้อของมาฝากหลายอย่าง ทั้ง รองเท้า ต่างหู สร้อย ส่วนแหวนที่นิ้วกลางนั้นตนซื้อเอง..."อันนี้ไม่เก๊นะ ชมซื้อเองค่ะ อุตส่าห์ใส่นิ้วกลางแล้วนะ (แล้วเมื่อไหร่จะถึงคราวนิ้วนาง) นิ้วนางสแตนด์บายอยู่ (ยิ้ม)...ก็สแตนด์บายน่ะ เข้าใจแล้วนะ (ยิ้ม)"

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

ปิดตำนานรักฉิ่งฉาบ “จิ๊บ ปกฉัตร” เลิก “ปุ้ม” แล้ว หลังคบกัน 6 ปี

“จิ๊บ ปกฉัตร” เปิดใจเลิกสาวหล่อ “ปุ้ม” มา 2 เดือนแล้ว หลังคบกัน 6 ปี ลั่นตอนนี้สถานะเหลือแค่เพื่อนสนิท อุบสาเหตุเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ยกที่ผ่านมาเป็นความทรงจำที่ดี พร้อมโต้หันไปกิ๊กหนุ่ม “สตาร์บัค”

คบหากันมา 6 ปี แต่แล้วคู่รักฉิ่งฉับ “จิ๊บ ปกฉัตร เทียมชัย” กับสาวหล่อ “ปุ้ม” มือกลองวง “ทอม แอนด์ สตรอเบอร์รี่” ก็ถึงทางตันซะแล้ว ล่าสุดทั้งคู่ได้ควงกันออกมายอมรับในงานรอบสื่อมวลชนภาพยนตร์เรื่อง “รัก 555 อย่าท้าก๋อย” ที่ทั้งคู่ร่วมแสดงด้วยกัน โดยทั้ง “จิ๊บ” และ “ปุ้ม” ต่างประสานเสียงยืนยันว่าเป็นการจากกันด้วยดี

ปุ้ม “ปกติแล้วก่อนหน้านี้เราก็อยู่กันมาแบบนี้อยู่แล้ว เราเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน อาจจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ดูแลกันแต่อยู่ในฐานะเพื่อน เหมือนช่วงนี้จิ๊บเองเขาค่อนข้างที่จะยุ่ง ส่วนปุ้มเองก็มีต้องดูแลคิวเพื่อนๆ ในกลุ่มด้วย เหมือนต่างคนก็ต่างทำงาน แต่ยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ยังไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนเดิม”

จิ๊บ “เพียงแต่ว่าเราสนิทกันน้อยลง แค่ลดระดับความสัมพันธ์ลงมา แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกันเหมือนเดิม”

ปุ้ม “ตอนนี้ก็เรียกว่าเป็นเพื่อนสนิท ก่อนหน้านี้เราดูใจกันมา 6 ปีไง”

จิ๊บ “ที่เราลดความสัมพันธ์ลงด้วยเรา 2 คนเองก็อยู่ด้วยกันมานาน มันก็มีปัญหาอะไรหลายอย่างที่แบบ....”

ปุ้ม “มันเป็นเรื่องเซ้นซีทีฟ พูดยาก”

จิ๊บ “เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ วงดนตรีที่เราทำด้วยกันก็ยังอยู่เหมือนเดิม เรายังทำงานด้วยกัน เราก็ยังเจอกันได้ มาสัมภาษณ์คู่กัน(ปุ้มทำท่าจะจุ๊บๆ สาวจิ๊บ) ถามว่าเสียดายเวลามั้ย ไม่นะคะ จิ๊บว่ามันเป็น 6 ปีที่มีค่า ตลอดเวลาที่ผ่านมามันเป็นความทรงจำที่ดี เป็นประสบการณ์ที่ผ่านมา จิ๊บไม่เคยรู้สึกเสียดายเวลาที่คบกับปุ้มมาเลย”

ปุ้ม “ที่ผ่านมาเราเองก็มีการพยายามปรับจูนกันแล้ว แต่มันนานมากแล้ว คนเรามันต้องก้าวต่อไป ถ้าเรามัวแต่อยู่ตรงนี้เราก็จะอยู่แค่ตรงนี้ แต่ถ้าเราเลือกที่จะก้าวต่อไปเราก็จะมองเห็นอะไรอีกมาก อนาคตอะไรจะเกิดขึ้นบ้างเราก็ยังไม่รู้ เพราะฉะนั้นเราเลือกทำวันนี้ให้ดีดีกว่า”

จิ๊บ “เราใช้เวลาปรับจูนความเป็นเพื่อนในเวลาสั้นๆ เพราะยังไงเราก็รู้ว่าเราต้องเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว ก็เป็นเพื่อนกันไปอย่างนี้”

ส่วนที่หลายคนมองว่าอยู่ๆ มาประกาศเลิกกันตอนหนังออกฉายพอดี เป็นการเลิกสร้างกระแสหรือเปล่า? กับเรื่องนี้ปุ้มเคลียร์ว่า...

ปุ้ม “เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์นะว่าข่าวนี้จะสร้างกระแสให้หนังรึเปล่า คือมันเป็นอะไรที่ประจวบเหมาะพอดีกันพอดี คนเลยอาจจะมองว่ามันเป็นการสร้างกระแส แต่ขอถามหน่อยว่าถ้าคนรู้ว่าเราเลิกกันแล้ว เขาจะเข้ามาดูหนังเราเหรอ มันก็ไม่ใช่ คือถ้าคนอยากมาดูเขาก็ดูเองแหละค่ะ”

ด้านสาว “จิ๊บ” โต้ได้หนุ่ม “สตาร์บัค พงศ์พิชญ์ ปรีชาบริสุทธิ์กุล” ดามใจ หลังมีโอกาสได้ร่วมงานกัน ลั่นตอนนี้ต่างคนต่างโสด มุ่งมั่นทำงนอย่างเดียว

จิ๊บ “ไม่มีค่ะ อันนี้งานหยาบเลย เป็นเพื่อนที่รู้จักกัน เรื่องชู้สาวไม่มีแน่นอน ตอนนี้ก็ไม่ได้ปิดตัวเอง จิ๊บเองก็ทำงานเยอะ ก็ไม่สามารถบอกได้หรอกค่ะว่าอนาคตจะเป็นยังไง จะยังสเปคเดิมชอบสาวหล่ออยู่รึเปล่าต้องดูไปเรื่อยๆ แหวนที่ปุ้มซื้อให้ก็ยังใส่อยู่ ใส่ติดมือจนลืมไปแล้วเหมือนเป็นส่วนนึงไปแล้ว”

ปุ้ม “ก็ใส่มันไปอย่างนั้นแหละ คือชีวิตคนเราก็ยังต้องเจออะไรเยอะแยะมากมาย วันนี้มีคนมาทำดีกับเราเราก็ดีกับเขา ส่วนความสัมพันธ์มันจะเป็นยังไงก็เป็นเรื่องของอนาคต ปุ้มกับจิ๊บมีอะไรเราก็ยังเล่าให้กันฟัง ตอนนี้เหมือนต่างคนต่างทำงาน ไม่ได้มีใคร แต่ถ้าวันนี้จิ๊บจบแล้วจิ๊บจะเปิดตัวใครปุ้มไม่มายด์เลย แต่ปุ้มอยากให้เขาเจอคนดี อยากให้เขารักจิ๊บที่เป็นจิ๊บเพราะปุ้มเองก็เป็นห่วงเขามาก ปุ้มเชื่อในตัวจิ๊บว่ายังไงเขาก็จะเจอสิ่งที่ดีสำหรับเขา”

จิ๊บ “ยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกัน อยากให้เขาเจอคนดีๆ คนที่รักปุ้มจริงๆ ทำให้ปุ้มมีความสุขได้”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

ไม่คุยเรื่อง "โจ๊ก" "หลิว" ลั่นคนเดียวก็เลี้ยงลูกได้

"หลิว" ปัดไม่ขอตอบ "โจ๊ก" มาหาลูกบ้างหรือไม่ เจ้าตัวลั่นคนเดียวก็เลี้ยงลูกได้สบาย ก่อนบอกขำๆ ไม่ขอปิดกั้นตัวเอง ถ้าใครเข้ามาตนก็กล้าเปิดรับ

หลังจากแต่งงานกันไม่ทันไรก็ต้องมีเหตุทำให้แยกทางกันไปสำหรับนักแสดงสาว "หลิว มนัสวี กฤตานุกูลย์" และพระเอกหนุ่มมาดเซอร์ "โจ๊ก อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ" โดยมี "น้องแฟรี่" เป็นพยานรักทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าซึ่งพอมีโอกาสได้เจอแม่ลูกในงาน ZEN Megastore Returns Super Party เลยต้องอัพเดทเรื่องราวชีวิตครอบครัวเสียหน่อยว่าเป็นอย่างไร?

"วันนี้พาน้องแฟรี่มาเดินแบบ แต่ที่จริงแฟรี่ก็เคยเดินมาแล้วตอน5เดือน แต่ตอนนั้นเขาหลับคาอก พอมาตอนนี้ก็อายุ1 ขวบ 9 เดือน ไม่หลับตื่นแล้วค่ะ แล้วก็ยิ้มสู้กล้องเขาชอบกล้อง ถามว่าถ้าเขาอยากเข้าวงการจะสนับสนุนไหม หลิวก็คิดว่าถ้าเขาอยากเข้าวงการก็แล้วแต่ ถ้าเขาอยากทำซึ่งท่าทางเขาชอบด้วย อย่างวันนี้เพื่อนๆหลิวก็มาช่วยเป็นกำลังใจให้เขา มีพ่อๆ แม่ๆ มาเยอะ"

"เรื่องพัฒนาการของแฟรี่ ก็ค่อนข้างเร็วเขาชอบเต้นได้ยินเสียงเพลงไม่ได้เลย ชอบแสดงออกอาจจะเพราะคนเยอะด้วย อย่างแม่ๆ แต่ละคนก็ใช้ได้อยู่ (หัวเราะ) หลิวก็ดีใจคนรักแฟรี่เยอะมาก อบอุ่นขอบคุณแทนลูก ถามว่าเลี้ยงคนเดียวเหนื่อยไหมจริงๆ หลิวก็ไม่ได้เลี้ยงคนเดียว มีพ่อแม่หลิวช่วยและเพื่อนๆ ที่ช่วยกัน ทุกคนว่างก็มาเจอลูก อย่างอาทิตย์ไหนที่ยังไม่ได้เจอแฟรี่กัน เขาก็นัดวันที่จะเจอน้อง"

เจ้าตัวไม่ขอตอบอดีตสามีมาหาลูกบ้างหรือไม่ ลั่นคนเดียวก็เลี้ยงลูกได้..."ส่วนทางโจ๊กมาหาลูกบ้างหรือเปล่าอันนี้หลิวขอไม่ตอบเลยดีกว่าเพราะว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ขอพูดดีกว่าอีกอย่างเราก็ไม่ได้เจอกันนานมาก ก็ต้องขอโทษด้วยเอาเป็นว่าไปถามทางนั้นเองดีกว่า เราก็เลี้ยงคนเดียวสบายมาก"

"แฟรี่น่ารักหลิวเองก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรด้วย ไม่เลยชีวิตมีความสุขแฮปปี้เลย เป็นซิงเกิ้ลมัม ถามว่าน้องถามถึงพ่อบ้างหรือเปล่า ตอนนี้เขายังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ แต่ถ้าถามก็บอกว่ายังอยู่ พ่อเขาก็ไม่ได้ไปไหน ถ้าเกิดพ่อเขาอยากเจอก็ให้เจอไม่ได้ปิดกั้น พ่อก็พ่อ แม่ก็แม่ เพราะเราเองก็ไม่ได้ทะเลาะกัน ถ้าเขาโทรมาคุยก็คุย เจอก็เจอ"

ไม่ขอปิดกั้นตัวเอง ถ้าใครกล้าเข้ามาตนก็กล้าเปิด แต่ต้องรักลูกตนเองมาเป็นอันดับหนึ่ง

"ก็เปิดนะคะ ถ้ากล้ามาก็เปิด (หัวเราะ) ถ้าเกิดเจอใครที่รักลูกเราก่อนที่จะมาเจอเราก็โอเค แต่ก็ยังไม่มีถ้ามีก็เปิดตัวเลย ก็อยากมีนะเพราะเหงาเหมือนกัน (หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้เพราะเราคิดอยู่กับเรื่องครอบครัวไม่ต้องมาหึงหวงใคร อยู่บนพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เกิดมา ถ้าให้ชีวิตบอกว่าชีวิตตอนนี้มีความสุขไหม หลิวบอกได้เลยว่าเกิน100เปอร์เซ็นก็ให้เต็มร้อยเลย มีความสุขท่วมท้นเลย เขาก็ไม่ขาดความรักเลยค่ะ"

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

เหน่อเป็นอุปสรรค “เปาวลี” รับก่อนพูดกลางต้องตั้งสติ

“เปาวลี” ดี๊ด๊าได้เป็นนางเอกละครเรื่องแรก เผยไม่กดดันต้องประกบรุ่นใหญ่ “กัปตัน” แต่ติดที่ตนพูดเหน่อจึงเป็นอุปสรรคในการทำงาน เจ้าตัวบอกก่อนจะพูดภาษากลางต้องตั้งสติก่อน

ทำเอานักร้องสาว “เปา เปาวลี พรพิมล” ออกอาการดี๊ด๊าดีใจ หลังมีโอกาสได้รับบทนางเอกละครเรื่อง “สายฟ้ากับสมหวัง” ของค่ายเอ็กแซ็กท์ ประกบคู่กับพระเอก “กัปตัน ภูธเนศ หงษ์มานพ” แต่ถึงตอนนี้ดูสาวเปาจะมีปัญหาเสียแล้ว ด้วยเหตุสำเนียงเสียงสุพรรณของตนนั่นเอง

“เป็นละครเรื่องแรกของหนูค่ะ เรื่องนี้มีเพลงเข้ามาด้วยก็เลยยิ่งสนุกมากๆ เป็นละครโรแมนติกคอมเมดี้ มันก็แตกต่างจากหนังเพราะว่าละครมีบทพูดเยอะ เราก็ต้องปรับตัวอยู่ ถามว่ารู้สึกกดดันไหมที่ต้องเล่นกับพี่กัปตัน ที่จริงก็ไม่รู้สึกกดดันค่ะ พี่กัปตันก็โตกว่าเหมือนส่งบทได้ดี เราก็ลองมาซ้อม มาต่อบทกัน พี่เขาก็ช่วยหนูได้เยอะ ที่จริงก็รู้สึกดีใจที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส เขาอาจจะมองแล้วว่าเราเหมาะสม”

“ถามว่าที่หนูติดพูดเหน่อมันเป็นอุปสรรคไหม คือหนูก็ต้องพูดภาษากลางด้วย เพราะในบทต้องมาอยู่ในกรุงเทพ แต่ทางผู้กำกับบอกว่าถ้าหลุดเหน่อมาก็ไม่เป็นไร ได้นิดหน่อย (หัวเราะ) ที่จริงหนูก็พูดภาษากลางได้นะ แต่เวลาพูดต้องตั้งสติก่อน ซึ่งยอมรับว่าอุปสรรคของหนูก็คือเรื่องภาษานี่แหละค่ะ”

“พูดกลางเวลาพูดต้องมีสติ ก็คงต้องมีหลุดบ้างล่ะ แต่ถ้าถามว่ากลัวการเปรียบเทียบฝีมือการร้องเพลงกับการเล่นละครไหม ก็อยากให้มองที่การแสดงที่หลากหลาย หนูจะได้เล่นอะไรที่หลากหลายขึ้น หนูติดใจการแสดงตั้งแต่เล่นหนังแล้วค่ะ แต่แค่การเล่นหนังหรือร้องเพลง หรือเล่นละครมันต่างกัน”

แย็บถามเรื่องหัวใจ เจ้าตัวบอก...“เรื่องหัวใจตอนนี้ยังว่างค่ะ เวลาไปไหนแม่ก็ตามไปตลอด เขาห่วงด้วยเรา เองก็เป็นเด็กผู้หญิงมาทำงานตรงนี้ต้องมาเจอคนเยอะขึ้น แต่ก็มีคนเข้ามาเยอะทั้งผู้หญิงผู้ชาย แต่จะให้เข้ามาจีบเป็นแฟนยังไม่มี แต่ถ้าจีบก็แค่มีมาพูดหวานๆ ถามว่าแม่หวงไหมก็อาจจะส่วนนึง แต่เราทำงานทุกวันเลยไม่มีเวลาทำอย่างอื่น”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์