วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เขียน blogger ยังไงให้ได้ 50+ Backlink ตอนที่ 1


บทความนี้ผมมีเทคนิคในการทำ SEO ใหม่ ๆ มานำเสนอ ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้คุณได้ Backlink ทุกครั้งที่เขียนบทความใหม่โดยใช้ บริการของ identi.ca และ twitterfeed

สอนทำบล็อก วิธีสร้างบล็อก แต่ง blog

หลักการของวิธีนี้คือเราจะใช้บริการของ twitterfeed ให้ส่งข้อมูลไปยัง MicroBlog ที่ชื่อว่า identi.ca ซึ่งเป็นแหล่งของการ update ข้อมูลข่าวสารที่ให้ Backlink กลับมาที่บล็อกของเราแบบ Dofollow ดังนั้นทุกครั้งที่เราเขียนบทความใหม่เราก็จะได้ backlink ทุกครั้งนั่นเองครับ

วิธีส่ง Feed การ Update บทความไปยัง identi.ca

ขั้นที่ 1 สมัครสมาชิกกับ identi.ca โดยเข้าไปที่
http://identi.ca
วิธีสร้าง Backlink ฟรี

และคลิก Register ทางขวามือด้านบน จากนั้นก็ลงทะเบียนให้สำเร็จ

สร้าง blog สอนทำ SEO

จากรูปด้านบนจะเห็นว่าคุณสามารถ Login ผ่าน twitter หรือ Facebook ได้ แต่สำหรับวิธีที่เราจะทำนี้ต้องการการลงทะเบียนโดยตรงเพื่อสร้าง Username และ password

ในขั้นแรกนี้ถ้าคุณยังไม่เคยลงทะเบียนกับ twitterfeed เลยก็ต้องลงทะเบียนกับ twitterfeed อีกแห่ง โดยไปลงทะเบียนที่
http://twitterfeed.com/
สอนแต่งบล็อก สอนสร้าง blogger blogspot



ขั้นที่ 2 เข้าไปใช้งาน twitterfeed.com

วิธีทำ SEO สอนทำ Backlink

2.1 หลังจาก Login เข้ามาแล้วคลิกที่ปุ่ม Create New Feed

2.2 เพิ่มชื่อ Feed และใส่ Feed จาก Blogger เข้าไปโดยเลือกใส่ชนิดของ Feed แบบใดแบบหนึ่งต่อไปนี้

Feed แบบ Atom
http://ชื่อบล็อก.blogspot.com/feeds/posts/default
หรือ Feed แบบ RSS
http://ชื่อบล็อก.blogspot.com/feeds/posts/default?alt=rss
หรือสำหรับคนที่ลงทะเบียนใช้งาน Feedburner ก็ให้ใช้ feed จาก Feedbuner จะดีกว่า เช่น feed ของผมคือ
http://feeds.feedburner.com/Hackublog
สอนใช้งาน Twitterfeed

Trick : ในส่วน Advance Setting คุณควรใส่ keyword หลักของบล็อกลงไปด้วย โดยใช้การเว้นวรรคคั่นระหว่างแต่ละคำ

สอนใช้งานเว็บ identi.ca

ทำบล็อก แต่งบล็อก สร้าง blog

2.3 เมื่อทำขั้น 2.2 จบแล้ว Continue to Step ต่อไป


ขั้นที่ 3 เพิ่มบัญชีของ identi.ca เพื่อรับ Feed

Twitterfeed ส่ง Feed บน blogger

3.1 คลิกที่ Statusnet เพื่อเพิ่ม identi.ca เข้าไปในรายการรับ feed พร้อมทั้งใส่ Username และ Password ที่ลงทะเบียนเอาไว้กับ identi.ca ในขั้นที่ 1

วิธีสร้าง Blog ทำให้บล็อกมี backlink เพิ่ม

3.2 ในส่วนของรายการอื่น ๆ อาจจะเว้นว่างไว้ได้ เสร็จแล้วคลิก Create Service และในขั้นถัดมาคลิก All Done!
สอนทำ Linkwheel

3.3 จบขั้นตอน enjoy!


หมายเหตุ ถึงแม้ว่าการส่งข้อมูลการ Update บล็อกยัง identi.ca ผ่าน TwitterFeed จะถูกย่อลิงค์ด้วยบริการของ bit.ly แต่คุณ Matt Cutts เจ้าพ่อ SEO ก็ได้เคยเขียนเอาไว้ว่า
"A “redirect” is a technique for making a web page available under many URLs. When you shorten a link with bit.ly, you are redirecting a click from bit.ly to the destination URL. A 301 redirect is the most efficient and search engine friendly method for webpage redirection, and is what bit.ly uses. Because bit.ly doesn’t re-use our links, we consider our redirects to be permanent."
แปลง่าย ๆ คือแม้ว่าลิงค์มันจะไม่ใช่ Full ลิงค์คือถูกย่อให้สั้นลงด้วยบริการของ bit.ly แต่เราก็ยังคงได้ Backlink และ คะแนน PR เช่นเดิมครับ

ก่อนจบบทความนี้ทิ้งท้ายว่าที่จริงแล้วผมต้องการเขียนบทความที่มีเทคนิคซับซ้อนกว่านี้ และได้ Backlink มหาศาลกว่านี้ แต่กลัวว่าคนอ่านจะเข้าใจยาก ผมจึงแยกเป็น 2 ตอนคือบทความนี้ใช้ปูทางให้ทำตามได้ง่าย ๆ ไปก่อน ถ้าคุณทำได้แล้วตามผมไปอ่านในบทความถัดไปเลยครับ

เขียน blogger ยังไงให้ได้ 50+ Backlink ตอนที่ 2


ต่อเนื่องจากบทความ เขียน blogger ยังไงให้ได้ Backlink ตอนที่ 1 ซึ่งโดยสรุปคือการส่ง Feed ไปยัง MicroBlog ที่ชื่อว่า identi.ca ทำให้คุณได้ backlink ทุกครั้งที่เขียนบทความ

50 backlink สอนทำบล็อก วิธีสร้าง blog

สิ่งที่คุณควรทราบเกี่ยวกับ identi.ca

identi.ca เป็น MicroBlog ที่โคลนมาจาก twitter ซึ่งถ้าคุณเคยใช้บริการตรง ๆ ก็จะทราบว่ามันใช้งานคล้ายกันมาก อีกอย่างหนึ่งที่คุณควรทราบอีกก็คือ identi.ca นั้นถูกสร้างจาก StatusNet ซึ่งมี Platform เป็น MicroBlogging ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถสร้าง MicroBlog จาก StatusNet ได้

เอาล่ะที่ผมพูดมายาว ๆ นี้เพื่อจะเชื่อมโยงให้คุณทราบว่า MicroBlog แบบ identi.ca ไม่ได้มีแห่งเดียวในโลก นั่นคือยังมี MicroBlog ชนิดเดียวกับ identi.ca อีกมากมายหลายร้อย (แต่คะแนน Pr อ่าจจะไม่เท่ากัน) พอดีผมได้เข้าไปอ่าน Forum ที่ blackhatworld แล้วพบ เซียน SEO ที่ชื่อว่า moronic_kaos ได้รวบรวม MicroBlog ชนิดนี้เอาไว้จำนวนมาก แต่ก็ยังมีบางแห่งใช้การไม่ได้ ซึ่งหลังจากที่ได้คัดแยกแล้วเหลือที่พอใช้ได้ดังนี้ครับ

http://bleeper.de
http://pbj.ca
http://www.TweeTsTer.info
http://naijapulse.com
http://eastasia.status.net
http://microblog.ourcoffs.org.au
http://stable.stubbornmule.net
http://www.tweetcn.com
http://me.umiss.com.cn
http://watsup.campusfever.com *******ต้อง Confirmemail*******
http://buzz.scc.ne.jp
http://Hunihan.com
http://Plimy.com
http://g3ng.com *******เป็น pligg*******
http://ohiklan.com
http://thelooser.status.net
http://whatstheboggle.com
http://plasr.com
http://slamka.com
http://identica.cat
http://spip.org *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://www.cleantechnetwork.fr
http://gazouilland.fr
http://miggi.fi *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://bartle.doomicile.de *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://bleeper.de
http://iberliner.de
http://microdeo.de
http://mb.milaro.net
http://deutschland.status.net
http://s.wuerzblog.de *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://www.ghesboro.it *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://micro.fit-factor.net *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://pubbli.ca *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://www.twitita.com/mublog *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://wlafi.ca *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://eter.mk
http://o.mrblog.nl *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://www.wiewatenwaar.nl
http://geektalk.nl *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://facebuszek.status.net
http://clicar.com
http://www.omaigot.com
http://4alliens.com
http://officebuzz.se
http://fffff.at/fucktwitter *******เฉพาะ invited people*******
http://gaming.status.net
http://wowtweet.net
http://twexxx.com
http://wlafi.ca *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://www.fantasygirlstwitter.com/microblog
http://www.darteros.com
http://projectwrz.com
http://www.celebblurb.com
http://www.micronewsblog.com
http://www.tennisfeed.com
http://www.travelfeed.net
http://www.0bw.com
http://ardourtv.status.net *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://biggestregrets.com *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://brainbird.net *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://grupr.us
http://haktweet.com
http://kcrazy.com
http://lastminute.telematicsfreedom.org *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://mb.0nl1ne.at
http://menti.name/laconica
http://micro.br3nda.com *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://micro.ciarang.com *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://micro.dajobe.org
http://micro.rorbuilder.info
http://prez.be *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://shoppingonline.status.net *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://www.sodetailed.org *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://waka.me
http://wwwrealtime.com
http://www.qwip.it
http://laconica.superuser.com.au *******ไม่เปิดลงทะเบียน*******
http://laconica.svenbilt.com
http://micro.orient-lodge.com
http://tweet.ie
http://micro.bherville.com
http://omniblab.dogphilosophy.net/laconica *******เฉพาะ invited people*******

ขั้นตอนการส้ราง 50+ Auto Backlink

การอธิบายวิธีการผมจะอธิบายขั้นตอนคร่าว ๆ เพราะว่าได้แสดงขั้นตอนที่ละเอียดไปในบทความ เขียน blogger ยังไงให้ได้ Backlink ตอนที่ 1 ดังนั้นก่อนอ่านขั้นตอนข้างล่างนี้ควรจะกลับไปอ่านที่บทความตอนที่ 1 เสียก่อน

ขั้นที่ 1 ให้สมัครสมาชิกกับ MicroBlog ตามรายการลิงค์ที่แสดงข้างบน
ในการสมัครจะต้องใช้เวลามากและต้องเหนื่อยมาก ดังนั้นผมแนะนำให้ค่อย ๆ สมัครไปเรื่อย ๆ อย่าหักโหมเพราะจะทำให้เครียด
แนวทางdการสมัคร
1.1 สมัครวันละ 10 แห่ง
1.2 เราสามารถเพิ่มรายการใน twitter feed ได้เรื่อย ๆ
1.3 ถ้าสมัครมากก็จะได้ backlink มาก
1.4 การสมัครควรใส่ URL ของบล็อกตรงช่อง Homepage เพื่อให้ได้ Backlink จาก profile ด้วย

แต่ง blog ทำblog สร้างblog

1.5 สำหรับบล็อกที่ปิดการรับสมัครก็สามารถสร้าง backlink ได้โดย Login ผ่าน twitter และเข้าไปโพสข้อความ tweet ตรง ๆ ครับ
1.6 ควรใช้ Username+Password เดียวกันทั้งหมดเพื่อให้ง่ายต่อการสมัครและการจำ


ขั้นที่ 2 เข้าไปเพิ่มรายการบล็อกที่สมัครแล้วใน TwitterFeed

2.1 Log in เข้าไปที่
http://twitterfeed.com
2.2 คลิก edit ที่รายการ feed ของเดิมที่เราทำเอาไว้จากบทความที่แล้ว

สอนสร้างblogger blogspot

2.3 ไม่ต้องแก้รายการ feed ของเดิมที่มีอยู่ แต่ให้คลิก Continue to Step 2

วิธีทำ blog

2.4 ถ้าทำตามผมมาตั้งแต่บทความตอนที่ 1 คุณก็จะพบ Statusnet ที่มีอยู่แล้ว 1 รายการ ซึ่งรายการนั้นก็คือ identi.ca ที่เราได้ทำไว้ในตอนที่ 1 ให้คุณคลิกที่ Statusnet

สร้าง backlink ฟรี

แล้วเปลี่ยนชื่อรายการ จาก identi.ca เป็นชื่อของ Microblog ที่ได้สมัครเอาไว้ในขั้นที่ 1 โดยให้ใส่เฉพาะโดเมน นั่นคือให้ตัด http:// ออกกอ่นที่จะเติมลงไป เช่นในตัวอย่างนี้ผมจะใส่ http://bleeper.de ก็ต้องตัดให้เหลือ bleeper.de

สอนทำ SEO

2.5 ทำซ้ำขั้นตอน 2.4 จนครบทุกรายการที่คุณได้ไปสมัครเอาไว้

2.6 ถ้าหากคุณเหนื่อยและต้องการหยุดพักก็สามารถกลับมาเพิ่มรายการภายหลังได้ โดยทำซ้ำขั้นตอนที่ 2.1 ถึงขั้นตอนที่ 2.5



ขั้นที่ 3 ยืนยัน
เมื่อเพิ่มรายการในขั้นที่ 2 ครบแล้วคลิก All Done!

SEO บน Blogger

สอนแต่งบล็อก

ที่เหลือลองศึกษาเพิ่มเติมดูครับ

การทำแบบนี้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ ทุกครั้งที่คุณเขียนบล็อกการ update ของคุณจะถูกส่งผ่านตัวกลาง twitterfeed ไปยัง Microblog ที่เป็นโคลนของ twitter ซึ่งคุณจะได้ backlink เท่ากับจำนวนบล็อกที่คุณสมัคร ในทุก ๆ ครั้งที่เขียนบทความโดยคุณไม่ต้องออกแรงอะไรเพิ่มอีกเลยครับ สวัสดีครับ

Quick indexed Backlink ด้วย Yahoo Pipes


หัวใจสำคัญของการทำ SEO ที่ขาดไม่ได้คือการสร้าง Backlink ให้กับบล็อกและเว็บไซต์ของเราอย่างสม่ำเสมอและเป็นธรรมชาติซึ่งสิ่งที่ตามมาควบคู่กับ Backlink ก็คือการทำสะพานบอท เพราะเป็นช่วยให้ One way link ที่เราไปสร้างไว้ตามที่ต่าง ๆ ถูก indexed และกลายเป็น backlink ในที่สุด

อ่านเนื้อหาเรื่องสะพานบอทที่
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,156214.0.html

บทความนี้ผมจะนำเสนออีกหนึ่งเทคนิคในการทำสะพานบอทสำหรับ Free blog หรือ WPmu ที่มีฟังก์ชันการส่งออกของ Feed ให้ถูก indexed ได้เร็วขึ้น โดยใช้ Yahoo Pipes เป็นเครื่องมือ โดยใช้หลักการคือ นำ Feed ไปรวมไว้ที่ Yahoo Pipes และกรองเอาเฉพาะ Feed ที่ต้องการ จากนั้นนำ Feed ที่ได้จากการรวมไป Submit ตาม Feed directory และนำ Page จากการ Submit ไปโปรโมทอีกต่อหนึ่ง

ขั้นตอนการ ส่ง Feed ไปที่ Yahoo Pipes

ขั้นที่ 1. ไปที่
http://pipes.yahoo.com/
จากนั้น Login ด้วย yahoo id ของคุณ

SEO


ขั้นที่ 2 เมื่อเข้าระบบแล้ว คลิกปุ่ม Create a pipe ที่อยู่บริเวณด้านบนของหน้า ซึ่งอาจจะพบกล่องข้อความแนะนำ ไม่ต้องสนใจปิดไป

Yahoo Pipes submit Feed

ขั้นที่ 3 ใช้วิธี Drag (ลาก) Module ทางซ้ายมือเอามาวางใน frame เพื่อสร้างตัวรับ feed โดย

3.1 ลาก Fetch Feed แล้วใส่ Feed URL ของ Free Blog หรือ WPmu เข้าไป

เช่น
http://hackublog.wordpress.com/feed/

การใส่ URL เพิ่มให้กดเครื่องหมายบวก แนะนำว่าควรใส่ไม่เกิน 20-25 URL เพื่อไม่ให้ขนาด Feed ใหญ่เกินไป

SEO Facebook


4. ต่อไปกรองเอาเฉพาะ Feed ที่มี Keyword ที่เราต้องการโดยใช้ Operators Filter เข้าไปโดย
4.1 คลิกที่ข้อความ Operators ทางซ้าย แล้วลากตัว Filter ออกมา

Yahoo Pipe Module SEO

4.2 จากนั้นตั้งค่าต่าง ๆ ดังรูป (อาจจะดัดแปลงตามความต้องการของคุณเองก็ได้)

SEO Filter
ในช่องสุดท้ายให้ใส่ keyword ที่คุณต้องการกรองลงไปเพื่อคัดเลือก Feed ที่มี keyword ที่คุณต้องการโปรโมทเท่านั้น

ขั้นที่ 5 ในขั้นนี้เราจะจัดเรียงการนำเข้า Feed อีกนิดโดยใช้ Operators Sort

Sort SEO

ให้ลาก Operators Sort ออกมาแล้วตั้งค่าตามรูป

SEO Facebook

จากนั้นให้ลากเส้นเชื่อมต่อทุก Module เข้าด้วยกันและเชื่อมมายัง Output ก็จะได้ผลดังรูป

SEO Facebook Pipes


ขั้นที่ 6 เมื่อจบขั้นที่ 5 เราจะพบว่า Pipes สมบูรณ์แล้ว ต่อไปก็ทำการบันทึก ตั้งชื่อ Pipes และ run pipe

SEO Facebook Pipes

Feed Pipes

Yahoo Pipes

ซึ่งขณะที่ run หาก URL ใด detect feed ไม่พบ ระบบจะขึ้นข้อความก็จะแจ้งให้เราทราบด้วย

SEO Facebook



ขั้นที่ 7 เมื่อ run pipe และแก้ไขจนสมบูรณ์แล้วให้ กด Publish

SEO Facebook


กรณีต้องการแก้ไข Pipe ในภายหลังก็สามารถสามารถทำได้โดยเข้าไปที่ My Pipes และคลิก Edit Sourse ครับ

SEO Feeds

ขั้นตอนที่ 9 เมื่อนำ Feed มารวมที่ Yahoo Pipe สำเร็จแล้วต่อไปก็ต้องโปรโมทครับ

การโปรโมท Pipe ทำได้หลายวิธี

เช่น
9.1 นำ URL ของ Pipes ไปโปรโมทโดยตรง หรือทำสะพานบอท
9.2 ใช้ rss feed จาก Pipes ที่สร้างไปโปรโมท

วิธีนี้ค่อนข้างจะยั่งยืน

Rss Feed

วิธีโปรโมท Feed ให้ศึกษาได้จากบทความ การโปรโมทบล็อกตอนที่ 2 : การ Submit Feed และ Ping และ บทความ FeedBurner ตัวช่วยให้ Feed แรง!!!

9.3 Bookmark และ Share Pieps ไปยัง Social media

Quick indexed

9.4 นำ feed ที่ได้ไป add กับ Statusnet Micro blogging และ twitter ผ่าน Twitterfeed วิธีนี้ให้ศึกษาจากบทความ วิธีส่ง Feed บทความจาก blogger ไปยัง Twitter และ Facebook และบทความ เขียน blogger ยังไงให้ได้ 50+ Backlink ตอนที่ 2


ทิ้งท้าย : การใช้งาน Yahoo Pipes ยังมีประโยชน์มากมายกว่าที่กล่าวมาข้างต้น ตัวผมเองก็ยังใช้งานได้ไม่ชำนาญนัก แต่จะพยายามศึกษานำลูกเล่นที่มีประโยชน์มาเผยแพร่ต่อไปครับ

สำหรับท่านที่รอ E-book จากผมอยู่น่าจะเขียนเสร็จทันเป็นของขวัญปีใหม่แน่นอนครับ ตอนนี้งานประจำก็ยุ่งมากนาน ๆ เขียนบทความต้องขออภัยด้วยผู้อ่านทุกท่านด้วยครับ สวัสดี

LinkWheel SEO: ประเภทของ LinkWheel และเทคนิคการทำ LinkWheel


ในบทความ LinkWheel Project for Blogger ผมได้นำเสนอ Concept ของการทำ LinkWheel และรูปแบบของการทำ LinkWheel อย่างง่ายไปแล้ว แต่ในทางปฏิบัติการทำ LinkWheel ยังมีรายละเอียดที่เราควรทราบเพื่อให้ทำ LinkWheel มีประสิทธิภาพมากขึ้น และใช้งานได้คุ้มค่ามากขึ้น บทความนี้ผมจะนำเสนอประเภทของการทำ Linkwheel หลาย ๆ แบบซึ่งเกิดจากประสบการณ์ที่ได้พบเห็นมาสรุปได้ดังนี้


LinkWheel โดยใช้ Networked ส่วนตัว

การทำ Linkwheel ด้วยวิธีนี้ค่อนข้างมีต้นทุนสูง และทำได้ในกรณีที่มี Networked ส่วนตัว เช่นเป็นเจ้าของ Hosting หลาย ๆ แห่ง หรือมีเงินเช่า Web Hosting ที่ต่าง Class C กันในหลาย ๆ แห่ง (ปัจจุบันก็มี Host บางแห่งเสนอ Class C ให้ลูกค้ามากกว่า 1 Class C เป็นการส่งเสริมการขายด้วย) ซึ่งบางแห่งก็เอามาเปิดให้บริการสำหรับการทำ LinkWheel ก็มี

LinkWheel ด้วยวิธีร่วมด้วยช่วยกัน Wheel

กรณีนี้ผมพบเห็นใน ThaiSEOborad หลักการคือการนำ Network ของแต่ละคนมาแชร์กันเป็นกลุ่มเป็นวง โดยในกลุ่มนั้นก็อาจจะมี Class C ซ้ำกันบ้าง แต่ละคนก็จะต้องยอมให้ผู้อื่นเข้ามาใช้งานเพื่อสร้างเป็น LinkWheel การใช้วิธีนี้เป็นวิธีมีประสิทธิภาพมากเพราะเป็นวงใหญ่ แต่มักจะมีปัญหาเรื่องกฎระเบียบ กติกาการใช้ คนใช้งาน ปัญหาเรื่องการใช้งาน และความถาวรในการใช้งานร่วมกัน

Linkwheel Freeblog

วิธีนี้โดยความเห็นส่วนตัวของผมก็ยังเป็นวิธีที่ยังไงผมก็ยังชอบ เพราะเป็นวิธีที่ค่อนข้างง่ายควบคุมได้ ส่งผลต่อ Page rank และ Ranking มาก ทำแล้วคุ้มค่าเพราะบล็อกหนึ่งบล็อก สามารถสร้างได้หลายบทความ (Webpage) และถ้าเรานำบทความที่มีความสัมพันธ์กันในแต่ละบล็อกมาเชื่อมต่อกัน สิ่งที่ได้จะเป็น LinkWheel ระหว่างบทความ(Webpage) 1 วง ซึ่งถ้าเราทำแบบนี้กับหลาย ๆ บทความสลับกันไปมา และไขว้กันบ้างก็จะได้ LinkWheel อีกหลาย 100 วง เนื่องจากเราสามารถเขียนบทความในบล็อกได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องไปสมัครใหม่บ่อย ๆ ทำให้ผู้ให้บริการ Free Blog ไม่เดือดร้อน

Linkwheel Pligg Profile

วิธีนี้เป็นวิธีสร้าง LinkWheel ที่ง่ายที่สุด และเรียกบอทได้มาก เพราะธรรมชาติของ Pligg นั้นจะมีการ Update บ่อย Bot เข้ามาเก็บข้อมูลบ่อยดังนั้นเมื่อพบ Profile ของเราก็จะวิ่งต่อไปยัง Profile ถัดไปและวิ่งมาที่ Money site หรือ Target Site ของเราด้วย แต่วิธีนี้ก็ยังมีข้อเสียคือ ถ้าเราไปสมัครเอาไว้เฉย ๆ Bot จะไม่มาง่าย ๆ ถ้าเราไม่ Vote บทความที่คนอื่น ๆ มา Submit ไว้ หรือนำบทความไป Submit ก็จะทำให้ Bot เข้าถึงพบ Profile เราได้ยาก

ข้อแนะนำสำหรับการทำ LinkWheel สำหรับ Pligg Profile
1. อย่าสมัครเฉย ๆ เพื่อหวังทำ Linkwheel เพราะมันเป็นการเพิ่มภาระให้ฐานข้อมูลของผู้ให้บริการ
2. อย่า SPAM Submit อยู่แห่งเดียว ให้ใช้สิทธิ์เหมือน ๆ กับสมาชิกคนอื่นแล้วคุณจะไม่ถูกต่อว่าและไม่ถูกลบบัญชีจากผู้ให้บริการ
3. บทความที่นำไป Submit ควรเลือกให้ตรงหมวดหมู่ และควรจะมีคุณภาพ
4. เป็นไปได้ไม่ควรไมปยุ่งกับ Web Pligg ของไทยเลยจะดีมาก เพราะ Pligg ต่างประเทศมีมากมาย
5. ข้อมูลการทำ Pligg Profile ที่แนะนำมี 2 กระทู้จาก ThaiSEOboard ลองเข้าไปศึกษาดูครับ (มีข้อสงสัยสอบถามที่นี่ได้)
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,85517.0.html
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,128583.0.html

Linkwheel SMF/PHPboard Profile and Signature

วิธีนี้ดูเหมือนเป็นวิธีที่ง่าย แต่ที่จริงยากกว่าทุกวิธี เริ่มจากเลือก SMF Board ที่สามารถ View Profile ได้โดยไม่ต้อง Login เมื่อสมัครแล้วก็จะต้องศึกษากติกาและเนื้อหาที่ค่อนข้างแตกต่างของแต่ละแห่ง การติด Signature และการโพสหรือตอบกระทู้ก็ต้องทำในลักษณะที่เหมาะสม จึงจะได้ Bot มาเข้า Profile และ Signature ซึ่งถ้าใช้วิธี Spam ก็จะทำให้เจ้าของ Board เดือดร้อน และคุณอาจจะถูกแบนในที่สุด แต่ถ้าจะสมัครทิ้งไว้เฉย ๆ ก็ไม่ได้ผลต่อการทำ LinkWheel เท่าไรนัก จึงเป็นความขัดแย้งและยากลำบากสำหรับวิธีนี้

ถ้าคุณสนใจการทำ Linkwheel SMF Profile and Signature ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,126870.0.html
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,131303.0.html

Linkwheel Statusnet

รูปแบบนี้.ใช้หลักการคล้ายกับการทำ LinkWheel Pligg Profile โดยเปลี่ยนจากการใช้ Pligg Profile เป็นการใช้ Profile ของ StatusNet ซึ่งเป็นรูปแบบ MicroBlog ที่มีการใช้งานคล้ายกับ Twitter รูปแบบของ LinkWheel ชนิดนี้เหมาะสำหรับการทำให้ Blog ใหม่หรือเว็บไซต์ใหม่ ๆ ถูก Index ได้เร็วขึ้น เพราะธรรมชาติของ StatusNet จะมีการ update เช่นเดียวกับ Twitter ซึ่งหลังจากสร้างเป็น LinkWheel เสร็จแล้ว อยากให้เว็บไซต์หรือบล็อกที่เพิ่งสร้างใหม่ใด Index เร็วขึ้นก็ให้เข้าไปทำการ Post Notice (ทำเหมือนใช้งาน Twitter)

ถ้าคุณสนใจลองทำดูก็ศึกษาได้ที่กระทู้ที่ผมได้นำเสนอไว้ที่ ThaiSEOboard
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,133520.0.html

Linkwheel แบบลูกผสม

การทำ LinkWheel ไม่ได้สำเร็จรูปและไม่มีรูปแบบตายตัว ดังนั้นเราควรใช้รูปแบบต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นให้ผสมผสานกัน เพื่อไม่ให้ Google ตรวจพบได้ว่าเราเป็นผู้สร้าง Backlink ให้ตนเอง

เช่น ใช้ Pligg profile+StatusNet +SMF Board Profle and Signature +Freeblog เอามาผสมผสานเป็น LinkWheel ก็ได้ ลองดูตัวอย่างการออกแบบที่ผมออกแบบเองในรูปด้านล่าง

LinkWheel  สอนทำ การสร้าง Linkwheel Blogger

รูปด้านบนเป็นการทำ LinkWheel แบบผสมอย่างง่ายอธิบายได้ดังนี้

1. สีน้ำเงินเป็น FreeBlog ที่จะอยู่ใน PlateForm ใดก็ได้ จำนวน 6 บล็อกเป็นวงหลักของ LinkWheel ชุดนี้

2. เพื่อให้ FreeBlog ตัวหลัก 6 บล็อกมี Bot เข้ามาสม่ำเสมอ และ indexed ได้ง่าย ผมจึงใช้ Pligg และ Microblog เป็นตัว Submit บทความของ Freeblog และ Money Site (ดูสี่เหลี่ยมเล็กสีม่วง)

3. ผมมี 2 Profile ของเว็บบอร์ดที่ใช้งานบ่อย ๆ จึงนำมาสานเข้าเป็นวงกับ Pligg และ Microblog (ดูสี่เหลี่ยมสีม่วง)

4. เพื่อป้องกันการขาดช่วงของ Pligg และ Microblog และ SMF ผมจึงใช้ Free Blog ที่มี PlateForm เป็น WPmu อยู่รอบนอกเพื่อเป็นสะพานบอท (ดูสี่เหลี่ยมสีแดง)

หมายเหตุ นี่คือตัวอย่างหนึ่งของการทำ LinkWheel แบบผสม ซึ่งไม่ได้แปลว่าดีที่สุด คุณเองก็อาจจะออกแบบเองได้ดีกว่านี้ก็ได้



ข้อแนะนำในการทำ LinkWheel จาก Mr.Hackublog


1. พยายามทำ LinkWheel โดยใช้รูปแบบผสมผสานเพื่อไม่ให้ Google ตรวจพบได้ว่าเราเป็นผู้สร้าง Backlink ให้ตนเอง

2.ในกรณีใช้บล็อกฟรี เช่น WPMU ให้ทำ LinkWheel ระหว่าง Page และบทความด้วย อย่าใช้แค่ Homepage ทำ LinkWheel อย่างเดียว มิฉะนั้นก็จะใช้บล็อกฟรีที่สมัครไว้ไม่คุ้มค่า

3. บล็อกฟรีที่สมัครพยายามทำให้มัน Indexed เร็วที่สุด เพราะถ้า Index แล้วมันจะส่งผลดีต่อ Ranking ของ Money site เร็วขึ้น

4. การยิงไปที่ Money Site ไม่จำเป็นต้องยิงไปที่ Home Page แต่สามารถยิงไปที่หน้าสินค้า หรือ Webpage ที่ต้องการโปรโมทก็ได้

5. การทำ LinkWheel ไม่ใช่การกักขัง Bot ไม่ให้ออกไปไหนแต่มันเป็นการทำให้บอทเข้ามามากขึ้น เร็วขึ้น อยู่นานขึ้น เก็บข้อมูลในเว็บไซต์หรือบล็อกได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น

6. การทำ LinkWheel อย่าเน้นปริมาณ ให้เน้นคุณภาพเป็นหลัก เช่นถ้าคุณมี Pligg profile, StatusNet Account ,SMF Board Profle and Signature และ Freeblog อยู่ในมืออย่างละ 10 ก็ลองออกแบบและเชื่อมโยงสิ่งเหล่านี้เข้าด้วยกัน ซึ่งอาจจะวาดลงในกระดาษก่อนแล้วค่อยลงมือทำจริง

7. ตอนนี้ถ้าคุณนึกอะไรยังไม่ออกให้ไปสมัคร Freeblog และและใส่บทความแนะนำตัวลงไปสัก 1 บทความก่อนเพื่อให้อายุโดเมนนานขึ้น อย่ารอเวลา พอนึกออกว่าจะใช้งานก็ไปหยิบมาปรับแต่งได้เลย

8. การสมัครบล็อกฟรีแนะนำให้ใช้บล็อกภาษาอังกฤษ และทำบล็อกเป็นภาษาอังกฤษ เหตุผลอ่านต่อข้อ 9

9. การหาบทความลงในบล็อกไม่ใช่เรื่องยากให้คุณค้นหาบทความที่ตรงกับ Keyword ที่คุณต้องการในภาษา กรีก ฝรั่งเศส หรือ อิตาลี เพราะโครงสร้างทั้ง 3 ภาษานี้ค่อนข้างดี แล้ว Translate กลับมาเป็นภาษาอังกฤษและตรวจไวยกรณ์เล็กน้อย จากนั้นก็สร้างบทความทำเป็น LinkWheel ของบทความและยิงจากบทความทั้งหลายไปยัง Webpage หรือ Homepage ที่ต้องการโปรโมท

10. ศึกษาการใช้งาน iMacros เพราะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การทำ LinkWheel ง่ายและสะดวกขึ้น

11. รูปแบบของ LinkWheel นั้นไม่จำเป็นต้องวนเป็นวงกลมต่อ ๆ กันเสมอไป อาจจะมีการไขว้ สลับ วนกลับทิศบางก็ได้ อย่างที่เคยบอกไว้ในบทความก่อนหน้านี้ว่าเมื่อทำ ๆ ไปคุณจะรู้ว่าคุณถนัดแบบไหน แบบไหนทำได้ผลหรือแบบไหนที่ทำแล้วเสียเปล่า ซึ่งเมื่อทราบแล้วก็พลิกแพลงให้เป็น LinkWheel ตามแบบฉบับของคุณเอง

สุดท้ายก็ขอทิ้งท้ายว่าเมื่อสร้าง LinkWheel ขึ้นมา 1 วงแล้วก็ใช้งานให้คุ้มค่า เอาแบบที่พร้อมจะยิงเข้าสู่ทุกWebpage หรือ Homepage ที่ต้องการโปรโมทได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เหนื่อยครั้งเดียวแล้วทำให้คุ้มเผื่อว่าในเวลาที่เราต้องการขายอะไร ต้องการโปรโมทอะไรก็นำ Linkwheel ที่สร้างไว้ไปใช้งานได้ทันที

การทำ Linkwheel ยังมีรายละเอียดในขั้นปฏิบัติและรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น่าสนใจอีกมากและในบทความถัดไปจะสรุปการทำ Linkwheel เป็น Roadmap ให้ชัดเจนขึ้น สวัสดีครับ

Link Wheel และแนวทางการทำ Link Wheel ที่ชัดเจนที่สุด


การทำ SEO ในยุคปัจจุบันนี้นอกจากจะแข่งขันกันในเรื่องเนื้อหาแล้วยังแข่งขันกันในเรื่องของการสร้าง Backlink ยิ่งถ้าเราได้ Backlink จากเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาในเรื่องเดียวกัน หรือจากเว็บไซต์ที่มีคะแนน Page Rank สูง ๆ คุณภาพบล็อกของเราก็จะเพิ่มขึ้น อันดับการค้นหาก็ดีขึ้นตามไปด้วย

การจะได้มาซึ่ง Backlink ที่ทำได้โดยไม่ต้องเสียเงิน ก็คือการ Submit กับ Pligg ,Social Bookmark ,Directiry ,Comment ไซต์ หรือการ โพส/ตอบกระทู้ในเว็บบอร์ดหรือ Forum ที่เกี่ยวข้องกับบล็อกของคุณ เป็นต้น แต่ทุกอย่างก็จะต้องใช้ความอดทน และใช้เวลากว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ และบ่อยครั้งที่ผลลัพธ์ก็ไม่คุ้มกับแรงงานและเวลาที่เราใช้ไป

วิธีสร้างบล็อก วิธีสร้าง Link wheel สอนทำบล็อก

บทความนี้ผมจึงขอนำเสนอวิธีสร้าง Backlink ที่ทรงพลังที่คุณสามารถกำหนดเองได้ควบคุมได้ และให้ผลลัพธ์จากการทำที่ชัดเจนกว่าการสร้าง Backlink ตามปกติ Backlink ชนิดนี้เรียกว่า Link Wheel

ผมไม่ใช่คนแรกที่พูดถึง Link Wheel แต่ผมคิดว่าผมเป็นคนแรกที่นำเสนอการสร้าง Link Wheel ในภาคปฏิบัติ จากการทดลองทำ Link Wheel ด้วยตัวเองมาประมาณ 2 สัปดาห์ พบว่าบาง keyword ที่ผมเคยอยู่หน้า 2-3 ของ Google ก็ขึ้นมาอยู่หน้า 1 ในหลาย ๆ keyword ด้วยการทำ LinkWheel อย่าง่าย

การนำเสนอการสร้าง LinkWheel ของผมจะมุ่งเน้นไปที่การทำ LinkWheel สำหรับ Blogger สำหรับท่านที่ทำกับบล็อกชนิดอื่น ๆ หรือจะนำไปใช้กับเว็บไซต์ก็สามารถใช้แนวคิดที่นำเสนอในบทความนี้ได้เช่นกัน และวิธีการทำ LinkWheel กับบล็อกหรือเว็บไซต์อื่น ๆ ก็คล้ายคลึงกันกับที่ผมจะนำเสนอในบทความนี้


LinkWheel ภาคทฤษฎี


รู้จัก Web 2.0 หรือยัง?
เอาแบบสั้น ๆ ง่าย ๆ ครับ web 2.0 คือเว็บที่มีการโต้ตอบกันระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการได้โดยไม่ต้องเข้าถึง server หรือมี Admin คอยควบคุม ตัวอย่างเช่น เว็บบล็อก ได้แก่ blogger, wordpress,Squidoo,Live.space,exteen blog,bloggang ,บล็อกของผมนี่ก็ใช่, เว็บรับฝากรูป รับฝากไฟล์นี่ก็ใช่ ,เว็บ Pligg ,Soicial Bookmark , Soicial network จำพวก facebook ,Myspace เป็นต้น

รู้จัก Class C หรือยัง?
Class C ที่จะพูดถึงในที่นี้เป็น Class C ในเรื่อง SEO ซึ่งมีความหมายต่างจาก Class C ในเรื่อง IP Adress ซึ่งบังเอิญเขียนเหมือนกัน โดยความหมายของ Class C ในที่นี้คือ Class C Blocks หรือ กลุ่ม IP ที่อยู่ใน Subnet 255.255.255.0 ( Subnet= Sub Network หรือเครือข่ายย่อย เป็นการจับกลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน) ซึ่งจะเข้าใจง่ายขึ้นถ้าดูจากชุดของ IP ต่อไปนี้

111.222.333.44
111.222.345.44
111.234.333.4
123.222.333.44
111.222.333.55

จากชุดตัวเลขข้างบน การดู Class C Blocks ให้ดูตัวเลขสีแดง 3 ชุดแรกของแต่ละแถว ซึ่งจะเห็นว่า IP ที่ 1 ถึง 4 ถือว่าเป็น Class C blocks ที่ต่างกันเพราะตัวเลขสีแดง 3 ชุดแรกของแต่ละแถว ไม่ซ้ำกันเลย แต่ จะเห็นอีกว่า IP ที่ 1 และ 5 มี Class C ที่เหมือนกัน

การทำ Link Wheel หรือแม้แต่กระทั่งการทำ Backlink ชนิดอื่นเราจะต้องการ Difference Class C blocks นั่นคือไม่ควรสร้าง Backlink ที่มาจาก IP ของ Host ที่ตนเองได้มา หรืออยู่ในกลุ่ม Class C block เดียวกัน เพราะอาจจะทำให้ถูกเพ่งเลงจาก Serch Engine ว่าเป็นการสร้าง backlink ขึ้นมาเอง และอาจจะถูก de-index ได้

ถ้าคุณอยากทราบว่าHost หรือ เว็บหรือบล็อกที่คุณจะใช้มี Class C ต่างกันหรือไม่ตรวจได้ที่
http://www.seochat.com/seo-tools/class-c-checker

Link Wheel คืออะไร?
Link wheel เป็น Backlink ชนิดหนึ่งที่สร้างโดยใช้การเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่าง web 2.0 ที่มีการเชื่อมโยงถึงกันลักษณะเป็น loop หรือเรียกง่าย ๆ ว่า วง ลองดูรูปด้านล่างให้เข้าใจง่ายขึ้น

วิธีทำ blog วิธีสร้าง blog

จากรูปจะเห็นได้ว่า เราทำให้การเชื่อมโยงของ Web 2.0 ลักษณะเป็นวง และทุกจุด (node) ในวงก็จะส่ง Backlink มายัง เว็บไซต์หรือบล็อกที่เราต้องการ ซึ่งส่วนใหญ่ตรงกลางของวงก็จะเป็นบล็อกทำเงิน หรือเป็นบล็อกที่เราต้องการให้ได้อันดับที่ดีในผลการค้นหา

หลักการของ Link Wheel เป็นอย่างไร?
ผมจะยกตัวอย่างเทียบเคียงให้ลองนึกภาพตามดู และดูภาพข้างบนประกอบไปด้วยจะได้เข้าใจง่าย ๆ

สมมติว่า Bot ของ Google ไปเชียงใหม่ ถามคนเชียงใหม่ว่าก๋วยเตี๋ยวที่ไหนอร่อย ถ้าคนเชียงใหม่ตอบว่า ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา ถ้าไม่เชื่อลองไปถามคนที่สงขลาดูก็ได้ จากนั้น Bot ของ Google ไปสงขลา คนสงขลาก็ตอบเหมือนกันว่า ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา ถ้าไม่เชื่อก็ไปถามคนที่อุบลดูจากนั้น Bot ของ Google ก็ไปอุบล … ไป ชลบุรี …ไปขอนแก่น … และย้อนกลับมาถามคนเชียงใหม่ … ก็ยังพบคำตอบเดียวกันหมด คือ ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา Bot ของ Google จึงเชื่ออย่างสนิทใจว่า ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาอร่อย และทำการจัดอันดับความอร่อยขึ้นไปอยู่ในอันดับต้น ๆ

จากตัวอย่างนี้ก็สรุปได้ว่าหลักการของ Link Wheel คือการทำให้แหล่งอ้างอิงของ backlink เราน่าเชื่อถือที่สุด ควบคุมจำนวน Bot ที่วิ่งเขามายังบล็อกของเราให้มากที่สุด และนานที่สุดด้วย โดยการสร้างสะพานเชื่อมโยงให้ Bot วิ่งเป็นวง (loop) ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ Bot วิ่งวนไปมาหลายรอบ และวิ่งเข้าหา เว็บไซต์หรือบล็อกที่เราต้องการนานขึ้น และมาในปริมาณมากขึ้นด้วย

นอกจากนี้การทำ Link Wheel เราจะต้องใช้การเชื่อมโยงระหว่าง Web 2.0 ที่มี Class C ต่างกัน เช่น เราจะไม่ใช้ Blogger 10 บล็อกมาสร้างวงเพียงอย่างเดียว เพราะ Blogger แต่ละบล็อกก็ถือว่าอยู่ใน Class C เดียวกัน ควรจะเลือกบล็อกจากหลาย ๆ แหล่งบริการ เช่นใช้ Blogger ,Wordpress, Live.space ,คละ ๆ กันไป เป็นต้น

LinkWheel ภาคปฏิบัติ

เราจะเริ่มลงมือทำ Link Wheel ให้บล็อกของเราจริงๆ กันในขั้นนี้ โดยตัวอย่างที่จะแนะนำในที่นี้คือ การทำ Link Wheel แบบง่าย ซึ่งจะให้ทำเป็นวงเล็ก ๆ

ขั้นที่ 1 สมัครบล็อกฟรีเพื่อนำมาสร้างเป็น Link Wheel
ให้คุณไปสมัครบล็อกฟรีจากรายการด้านล่างนี้ โดยเลือกที่มีขั้นตอนสมัครไม่ยุ่งยากนัก และเอาที่คุณสามารถที่จะใช้งานได้อย่างไม่ยากลำบาก เพราะการทำ Link Wheel จะต้องออกแรงมากในตอนแรก แต่เมื่อเห็นผลแล้วก็นับว่าคุ้มค่ามาก

รายชื่อบล็อกฟรีที่มี Class C ต่างกัน
ภาษาไทย
http://wordpress.com
http://home.spaces.live.com
http://www.blogger.com
http://exteen.com
http://www.oknation.net
http://www.bloggang.com

รายการด้านล่างนี้สำหรับท่านที่ต้องการเขียนเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษได้
http://blog.com
http://blogetery.com
http://blogetery.com/wp-signup.php
http://bloghost.name/wp-signup.php
http://bloglines.co.za/wp-signup.php
http://blogrox.com
http://blogs.bankruptcyhelp.org.uk/wp-signup.php
http://blogs.xanco.com
http://blogster.com
http://bloguni.com/wp-signup.php
http://burfunkle.com/register/
http://clearblogs.com
http://clickdeindia.com/wp-signup.php
http://cognosnetwork.com/net/register
http://dagdigdug.com/wp-signup.php
http://diarybabe.com/register
http://dukeblogmu.com/wp-signup.php
http://eblog.lt/wp-signup.php
http://edublogs.org
http://envendee.com/register
http://forargyll.org/wp-signup.php
http://manyaklari.com/register
http://maxblog.com/wp-signup.php
http://microbloghost.com/register
http://mublogs.org/wp-signup.php
http://multiply.com
http://noiblogger.com/wp-signup.php
http://onblogme.com/register
http://paidtoblog.com/wp-signup.php
http://poetrysocial.com/register
http://publice.net/wp-sign.php
http://pulse.yahoo.com
http://qinqiblog.com/wp-signup.php
http://researchblog.org/wp-signup.php
http://roadoflove.com/register
http://squarespace.com
http://ufem.com
http://weebly.com
http://wloger.com/wp-signup.php
http://www.bigadda.com/signup
http://www.blogabond.com
http://www.blogcheese.com
http://www.blogladder.com
http://www.blogr.com
http://www.blogsome.com
http://www.blogspirit.com/en/index.php
http://www.blogth.com/signup.php
http://www.blogyx.com
http://www.bloki.com
http://www.bravenet.com/webtools/journal
http://www.busythumbs.com
http://www.etribes.com/index_etribes.php
http://www.freevlog.org
http://www.flixya.com
http://www.homeschoolblogger.com
http://www.greatestjournal.com
http://quizilla.teennick.com
http://www.insanejournal.com
http://www.journalfen.net
http://www.livejournal.com
http://www.myblogsite.com
http://www.mytypes.com
http://www.nodblog.com
http://www.netcipia.com
http://www.opendiary.com
http://www.rojo.com
http://www.shoutpost.com
http://www.soulcast.com
http://www.squidoo.com
http://www.sundaycook.com/wp-signup.php
http://www.theblogs.de
http://www.thoughts.com
http://www.terapad.com
http://www.trippert.com
http://www.tumblr.com
http://www.vox.com
http://www.wordcountjournal.com
http://www.xanga.com
http://www.yola.com
http://www.zoomshare.com
http://weblogs.us
http://yovia.com/blogs/wp-signup.php

บล็อกที่แนะนำให้สมัคร
1. Wordpress.com
2. home.spaces.live.com
3. blogger.com
4. www.livejournal.com

บล็อกทั้ง 4 บริการที่แนะนำเพราะว่าสามารถใช้โปแกรม Window Live Writer ช่วยเขียนเนื้อหาได้ มันจะทำให้งานของเราง่ายขึ้นอีกมาก

และโดยส่วนตัวที่ผมคิดว่าสมัครง่ายและใช้งานง่ายได้แก่ (ใช้ Window Live Writer ไม่ได้ )
1. Wordpress.com
2. blog.com (บอทแรงมาก)
3. www.squidoo.com (บอทแรงมาก)
4. blogetery.com
5. sumhua.com
7. oknation.net (บอทแรงมาก)
8. quizilla.teennick.com
9. exteen.com
10. bloggang.com (บอทแรงมาก)

ถ้าคุณมีข้อมูลการทำบล็อกเพิ่มเติมจากนี้ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน และถ้าผมพบว่าบล็อกจากบริการใดสามารถใช้ในการทำ LinkWheel ได้อีกก็จะนำมาเพิ่มเติมให้ที่บทความนี้ในภายหลัง

ขั้นที่ 2 วางแผนวาดวงล้อขึ้นมา
จากขั้นที่ 1 ผมคาดเดาว่าจากการสมัครคงพอทราบแล้วว่า บล็อกฟรีจากบริการใดใช้งานง่าย บล็อก ฟรีจากบริการใดใช้ยาก ดังนั้นในขั้นนี้ให้ตัดสินใจเลือกบล็อกที่จะนำมาทำเป็น Link Wheel และวาดรูปเอาไว้เพื่อดูขณะทำ

ตัวอย่าง
ในตัวอย่างนี้ผมเลือกบล็อกจากบริการต่าง ๆ 5 บล็อกดังนี้ (คุณอาจจะเลือกทำมากกว่านี้ เพราะยิ่งวงใหญ่ยิ่งดี)
1. Wordpress.com
2. home.spaces.live.com
3. www.livejournal.com
4. exteen.com
5. sumhua.com

เมื่อสมัครเสร็จแล้วก็นำบล็อกมาวางเรียงลำดับว่าจะให้บล็อกต่าง ๆ อยู่ลำดับใดในวงของ Link Wheel


แผนภาพ Link Wheel ที่สร้างจากการเลือกในตัวอย่างนี้

แต่ง blogspot โค้ดแต่งบล็อก

ขั้นที่ 3 เขียนบทความ
หลังจากเขียนแผนภาพเพื่อวางแผนการทำ LinkWheel แล้ว ขั้นต่อมาให้ใช้โปรแกรม Window Live Writer ดึงบทความจาก Blogger ของเราลงมา rewrite ใหม่โดยใช้เทคนิคและลำดับขั้นตอนดังนี้

3.1 เขียนบทความใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบล็อกหลัก ถ้าสามารถทำได้ไม่ยากนัก (ต้องเหนื่อยเพิ่ม) หรือ
3.2 ถ้า rewrite บทความจากบล็อกเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยใช้เทคนิคดังนี้
3.2.1 ให้รวม 2 บทความเป็นบทความเดียว และปรับแต่งข้อความเล็กน้อย เช่นเปลี่ยนคำ สลับประโยค เปลี่ยนชื่อบทความ เป็นต้น
3.2.2 ให้ตัดข้อความเดิมออกมาขยายความ และดัดแปลงการนำเสนอเล็กน้อย
3.2.3 แปลงบทความจากไทยเป็นอังกฤษ หรืออังกฤษเป็นไทยก็ได้
การทำตามข้อ 3.2 ก็เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน ของเนื้อหา (duplicate content) ที่ Search Engine ได้เคยมาเก็บไปแล้ว เพราะถ้าซ้ำ จะทำให้บล็อกเราเสียคะแนน และอาจจถูกจับได้ว่าเราสร้าง backlink ขึ้นมาเอง

3.3 สำหรับ Blog ที่ใช้โปรแกรม Window Live Writer เขียนได้ คุณสามารถใช้โปรแกรมนี้บันทึกบทความไว้ในเครื่องจากนั้นก็ดัดแปลงใหม่แล้วประกาศไปยังบล็อกต่าง ๆ เช่นในที่นี้ผมเขียนบทความและประกาศไปที่ Wordpress.com แล้ว ผมก็บันทึกเก็บเอาไว้ จากนั้นก็เปิดบล็อกของ spaces.live.com ขึ้นมาและเปิดบทความขึ้นมาดัดแปลงตามที่แนะนำไว้ในข้อ 3.2 จากนั้นก็ประกาสไปยัง spaces.live.com ก็จะได้บทความในทั้ง 2 บล็อกแบบไม่เหนื่อยมาก

3.4 เขียนแนะนำบล็อกเป้าหมายโดยตรง และสร้างลิงค์มาตรง ๆ พร้อมทั้งสร้างลิงค์เพื่อเป็นสะพานไปยังบล็อกอื่น

3.5 ถ้าคุณไปลอกบทความชาวบ้านเขามา ควรให้เขียนเครดิตแก่เขาไว้ในบทความ และโดยมารยาทก็ควรจะใส่ลิงค์กลับไปยังบทความเขาด้วย ผมเองก็เบื่อกับเรื่องแบบนี้เหมือนกัน (เรื่องลอก ๆ เนี่ย)

3.6 ควรจะเขียนบทความลงในบลอกที่สร้างขึ้นมาใหม่อย่างน้อย 10 บทความ อย่างสม่ำเสมอ

ขั้นที่ 4 เชื่อมโยงระหว่าง node ต่าง ๆ ของ Link Wheel
ถึงขั้นนี้คุณอาจจะสงสัยว่าแล้วเราจะเชื่อมโยงระหว่างบล็อกต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นมาได้อย่างไร ถ้าให้ผมอธิบายง่าย ๆ คือให้คุณทำ link โดยใช้รูปแบบของภาษา HTML ตรงใหนก็ได้ในหน้านั้น ๆ bot จะสามารถใต่ตามลิงค์มาได้หมดครับ และ 4 วิธีนี้คือแนวทางที่แนะนำ

4.1 เชื่อมโยงโดยกล่าวถึงในบทความ เช่นเมื่อบทความไปกล่าวถึงเรื่องอะไรก็ตามที่มีในบล็อกเป้าหมายของเราก็ให้ทำ link ไปได้เลย แต่อย่าใส่เยอะมากในบทความเดียวกันเพราะอาจถูกมองว่าเราเป็น Spam และการสร้าง Link ก็ควรจะใส่แบบ anchor text ด้วย

และตอนท้ายของบทความให้อ้างเครดิตมายังบล็อกเป้าหมาย พร้อมทั้งอ้างว่ามีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เราเขียนแล้วลิงค์ไปบล็อกถัดไปที่วางแผนไว้ในแผนภาพ ดังนั้นผลลัพธ์ตอนท้ายบทความจะเป็นหน้าตาแบบนี้

เครดิตข้อมูล : ทำลิงค์ไปบล็อกเป้าหมาย
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง : ทำลิงค์ไปบล็อกถัดไปที่เขียนเอาไว้ในแผนภาพ

การทำตามข้อ 4.1 เรียกว่าเป็นการสร้างสะพานให้ Bot วิ่งต่อ ๆ ไปเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าวงไม่ขาดผลก็จะเป็นเหมือนรูปที่เราวาดเอาไว้

4.2 วิธีที่ 2 ใส่ลิงค์ไปบล็อกอื่น ๆ โดยการสร้างเมนูขึ้นมา

4.3 ใช้ฟังก์ชัน Blogroll (ถ้าบล็อกนั้น ๆ มี) แล้วใส่ลิงค์เข้าไป 2 ลิงค์ ซึ่งทำคล้ายกับข้อ 4.1 เพียงแต่ไม่ได้ใส่ในบทความเท่านั้น

4.4 ใส่ footer ด้วย Link แบบ AnChor text

ถ้าคุณสร้างลิงค์ตามที่แนะนำเอาไว้ก็จะเกิดสะพานให้ Bot วิ่งได้แล้ว และถ้า Bot วิ่งได้แล้วก็จะวิ่งวนไปๆมาๆหลายรอบ backlink ที่คุณได้จะเป็นแบบ Spinning backlink ซึ่งจะดันให้อันดับของคุณสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และมั่นคง


ขั้นที่ 5 Submit บทความเพื่อเรียก Bot
บล็อกที่เราสร้างขึ้นมาใหม่นี้ไม่ต้องไปเสียเวลาทำ SEO ให้มันมาก เพราะคุณจะเหนื่อยเกินไป ให้ใช้วิธีนำบทความไป Submit กับเว็บ Pligg และ Social Bookmark เพื่อเรียก bot ซึ่งผลที่ได้แสดงดังรูป

สอนแต่งบล็อก สอนสร้างบล็อก

รูปข้างบนแสดงการนำบทความในบล็อกที่สร้างใน sumhua.com ไป Submit กับเว็บ Pligg และ Social Bookmark ซึ่ง Bot ก็จะวิ่งมายังสะพานที่เราสร้างไว้และวิ่งวนอยู่หลาย ๆ รอบ

ในทำนองเดียวกัน บทความในบล็อกอื่น ๆ ที่เหลือก็ควรจะนำไป Submit เช่นเดียวกับที่แสดงให้ดูในตัวอย่าง

ขั้นที่ 6 Link Wheel ในรูปแบบอื่น ๆ
ที่ทำให้ดูในตัวอย่างนี้เป็น Link Wheel แบบง่าย คุณสามารถดัดแปลงเป็นรูปแบบอื่น ๆ ได้อีก เช่น

6.1 ขยายวง

ทำบล็อก blogger

การขยายวงของ Link Wheel จะช่วยให้เพิ่มโอกาสให้ bot เข้ามามากขึ้น ใช้เวลาวิ่งนานขึ้น และ backlink นี้จะแข็งแกร่งขึ้น


6.2 วงซ้อนวง

วิธีทำ SEO Link Wheel


6.3 วงต่อวง

วิธีทำ blog แต่งบล็อก


6.4 ใช้ทฤษฎีกราฟในคณิตศาสตร์เข้ามาช่วยให้เป็น Link Wheel ในรูปแบบอื่น ๆ

การใช้รูปแบบกราฟทางคณิตศาสตร์ควรเลือกกราฟแบบไม่มี loop ที่จุด node หรือเรียกว่า Simple Graph

ตัวอย่างรูปแบบกราฟในทฤษฎีกราฟทางคณิตศาสตร์ รูปด้านล่างเรียกว่า Petersen Graph

ทำ blog SEO Link Wheel


6.5 คิดรูปแบบ Link Wheel ของตัวเอง
เมื่อเข้าใจรูปแบบและวิธีการเบื้องต้นแล้ว การประยุกต์ใช้ต่อไปก็อยู่ที่การลองถูกลองผิดของแต่ละคน ที่สำคัญคือคุณจะต้องเฝ้าสังเกตดูความเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอจึงจะสรุปได้ว่า สิ่งที่ได้ทดลองไปนั้นได้ผลหรือไม่ ผิดพลาดตรงไหน แล้วก็ปรับปรุงและทดลองซ้ำอีก

หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ สวัสดีครับ

Update : ผมได้เขียนข้อแนะนำเพิ่มเติมในการทำ Linkwheel อีก 1 บทความ อ่านต่อที่ ข้อแนะนำการทำ Linkwheel

Backlink และ LinkWheel จาก Blogger Profile



Backlink เป็นปัจจัยสำคัญในการทำ SEO เพราะทำให้ Ranking ใน keyword ที่เราต้องการให้อยู่ในลำดับต้น ๆ ของผลการค้นหาด้วย Search Engine ได้ พูดให้เข้าใจกันง่ายขึ้นก็แปลว่า ถ้าเราสามารถสร้าง Backlink ที่มีพลังให้กับเว็บไซต์หรือบล็อกได้มากเท่าไรการสร้างอันดับที่ดีใน keyword ที่เราต้องการก็ง่ายขึ้น

Backlink Linkwheel Blogger profile

แต่การหา backlink ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ก็มักเป็นปัญหาของเจ้าของบล็อกหรือเว็บไซต์ที่มีต้นทุนน้อย บทความนี้ผมจึงนำเสนอวิธีการหา Backlink ที่อยู่ใกล้ ๆ ตัวที่ Blogger หลายคนมองข้ามและละเลยอย่างน่าเสียดาย ซึ่ง Backlink ที่ว่านี้ได้มาจาก Blogger Profile ของคุณนั่นเองครับ

Backlink จาก Blogger Profile เป็น Backlink แบบ Dofollow สามารถสร้าง Backlink แบบ anchor text ได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสร้างปริมาณลิงค์ได้หลาย ๆ ลิงค์ด้วย

วิธีการสร้าง Backlink จาก Blogger proflie


ขั้นที่ 1 Login เข้าไปที่ www.Blogger.com หรือ draft.blogger.com
ขั้นที่ 2 คลิกแก้ไข Profile ของคุณ

Blogger Profile SEO

ขั้นที่ 3 ปรับแต่ง Profile ของคุณให้แสดง Link ที่ต้องการ

Backlink Create

3.1 ค่าส่วนบุคคล แนะนำให้ตั้งค่าตามรูปด้านบน นั่นคือตั้งค่าให้แสดงโปรไฟล์
3.2 จากรูปด้านบนให้เลือกแสดงผลเฉพาะบล็อกที่อยากให้ backlink หรือที่อยากแสดงให้คนอื่น ๆ เห็น


ขั้นที่ 4 ใส่ Anchor text เพื่อสร้าง backlink ให้กับเว็บที่ต้องการ

เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้วเลือนมาด้านล่างเล้กน้อยจะพบส่วนที่ต้องการให้กรอกข้อมูลดังรูป

Free Backlink

4.1 ในส่วน URL ของหน้าแรกจะเป็น URL แบบ Nofollow ให้ใส่ URL ของหน้าแรกไปตามปกติ

4.2 ส่วน URL ของสิ่งที่ปรารถนานั้นเป็น URL แบบ Dofollow ให้ใส่ URL ที่ต้องการ backlink ลงไปได้เลยครับ

4.3 จากนั้นเลื่อนลงมากรอกข้อมูลด้านล่างอีกนิดและใส่ Anchor text ที่ต้องการโปรโมทลงไปในช่อง เกี่ยวกับฉันซึ่งใส่ได้ทั้งสิ้น 1200 อักขระ

Backlink จาก Blogger Profile
หมายเหตุ
Anchor text คือ Text ที่เป็น Keyword ที่ใช้เป็น Link ไปยังบล็อกหรือเว็บที่ต้องการ ใช้โค้ดในรูปแบบ
URL">Keyword
เช่นข้อความ สถานที่ท่องเที่ยว เป็นต้น

และถ้าต้องการใส่หลายๆ ลิงค์ก็อาจจะใช้โค้ด
URL1">Keyword1
< a href="URL2">Keyword2
< a href="URL3">Keyword3
หรือถ้าต้องการให้เรียงตามแนวตั้งจะได้
  • URL1">Keyword1

  • < li>URL2">Keyword2
    < li>URL3">Keyword3

    5. เมื่อใส่ครบถ้วนแล้วบันทึกและคลิกดู Profile เพื่อเก็บ URL

    Linkwheel Blogger Profile

    กรณีต้องการ URL ของ Profile สามารถคัดลอกได้จาก Adressbar ของ Browser

    6. การใส่ลิงค์เข้าไปที่ Profile ยังไม่ทำให้ Bot มาพบ Profile ของเราง่าย ๆ ดังนั้นเราอาจจะทำให้ Bot มาพบ profile ของเราโดยการ Comments บล็อกบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นบล็อกของตนเองหรือบล็อกของคนอื่น ๆ แต่ต้องทำให้เป็นธรรมชาติ เพราะปัจจุบัน Blogger มีระบบกรอง Spam แล้วดังนั้นถ้าเราโพสลักษณะ Spam ก็อาจจะโดน Block จากระบบของ Blogger ได้ ซึ่งหลายคนที่ Comments ที่บล็อกผมแล้วไม่ขึ้นหรือหายไปก็เป็นเพราะสาเหตุนี้เช่นกัน

    ถ้าไม่รู้จะไป Comments บล็อกใครก็ Comment ที่บล็อกนี้ได้เลยครับ (Comment หลาย ๆ บล็อกดีกว่าบล็อกเดียว)

    7. เทคนิคนี้สามารถประยุกต์ไปสร้าง LinkWheel Blogger Profile ได้ด้วย แต่ผมจะไม่เล่าในที่นี้ เนื่องจากถ้าเผยแพร่ข้อความไปแล้วจะผิดนโยบายของ Blogger ที่ให้ใช้ Account เดียว ถ้าหากท่านใดอยากทำ LinkWheel Blogger Profile ก็ลองคลิกดู Profile ของผม แล้วดูแนวการทำครับ (เอา Blogger Profile ไปผสมกับ Profile อื่น ๆ เช่น SMF profile และ Pligg profile เพื่อให้ Class C ต่างกัน


    อย่างไรก็ตามการทำ SEO มีงานหลักอยู่ 2 ส่วนคืองาน Onpage กับงาน Offpage การสร้าง backlink ถือเป็นงาน Offpage ดังนั้นงาน Onpage เช่นการปรับ Title การ design รูปแบบและโครงสร้างของบล็อกหรือเว็บไซต์ การควบคุม link เข้า-ออก การปรับ meta tag รวมถึงการเขียนบทความก็ยังสำคัญอยู่เพราะการทำอันดับด้วย backlink ไม่ถาวรเท่ากับการสร้าง Content ที่ดีมีคุณภาพ หากวันหนึ่ง Google เปลี่ยน Algorithm เมื่อไร Content ที่ดีก็จะเป็นยันต์คุ้มภัยไม่ให้อันดับเราร่วงหล่นไปไหนได้

    ปล. ช่วงนี้ไม่ได้เขียนบทความห่างกันเป็นสัปดาห์เลยครับ เพราะรู้สึกอยากพักบ้าง ตอนนี้ก็กลับมาถ่ายทอดประสบการณ์ตามเดิมครับผม หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ สวัสดีครับ