วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ตัวอย่างหนังใหม่ Hall Pass ฮอลล์ พาส

ตัวอย่างหนังใหม่จาก www.youtube.com
ชื่ออังกฤษ Hall Pass

ชื่อไทย ฮอลล์ พาส
ประเภทหนัง Comedy
ผู้กำกับ Bobby & Peter Farrelly
ผู้แต่ง -
วันที่เข้าฉาย 03 March 2011
ความยาวหนัง -
นักแสดง Owen Wilson, Jason Sudeikis


ตัวอย่างหนังใหม่ Hall Pass ฮอลล์ พาส | เรื่องย่อ
เมื่อชีวิตสมรถของทั้งคู่ กับมีความรู้สึกเฉย ๆ ไม่มีอะไรหวือหวา ทั้งคู่ (Owen Wilson - Jenna Fischer) ได้เปิดโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมหนึ่งที่ถือได้ว่า เป็นการท้ายทายชีวิตของเข้าทั้งคู่

A married man is granted the opportunity to have an affair by his wife. Joined in the fun by his best pal, things get a little out of control when both wives start engaging in extramarital activities as well.



“แอนนี่” พ้องานหดหลังหมดกระแส ปลื้ม “น้องคากิ” มีรอยยิ้ม-หน้ายาวเหมือนพ่อ

“แอนนี่” ทำใจ หลังกระแสหมดงานก็หดตาม อ้อนผู้จัดละครของานแสดง ลั่นมีความสุข “น้องคากิ” ยิ่งโตยิ่งขี้อ้อน ปลื้มมีรอยยิ้มและรูปหน้ายาวเหมือนพ่อ ซึ่งคนใกล้ตัวก็รู้ว่าเป็นใคร

ถึงกับโอดครวญกับโชคชะตาที่เจอมรสุมรุมเร้า สำหรับดาราสาวฉายา ม่ายดีเอ็นเอ “แอนนี่ บรู๊ค” ที่ปีนี้ต้องเผชิญกับข่าวคาวหนักที่สุดในชีวิต แต่ในความโชคร้ายนั้นทำเจ้าตัวตาสว่าง รู้แจ้งว่าใครเป็นเพื่อนที่แท้จริง นอกจากนี้ดาราสาวยังตัดพ้อเรื่องงานว่า พอตนหมดกระแส งานก็หายตามไปด้วย ตอนนี้ก็เก็บบุญเก่ากินกับทางบริษัทเวิร์คพ้อยท์ พร้อมอ้อนของานละครจากผู้จัดฯ

“สำหรับปี 2553 ถือว่าเป็นปีที่หนักสุดในชีวิตแล้ว ไม่คิดว่าชีวิตเราต้องมาเจอแบบนี้ แต่ทุกอย่างที่ผ่านมาแอนนี่คิดดีแล้วถึงทำ แล้วอีกอย่างเรื่องที่ผ่านมาถึงจุดนี้เหมือนมันถูกบีบบังคับจากหลายๆ ทาง ถูกบีบมาให้ไปซ้ายหรือขวา แต่เราก็ทำให้ดีที่สุด ซึ่งมันก็ทำให้เราได้รู้จักคนมากขึ้น ได้เห็นน้ำใจ ถ้าเราไม่เจอวิกฤติหรือความทุกข์จะไม่รู้เลยว่าใครเป็นเพื่อนแท้ แล้วก็น้ำใจที่หลั่งไหลเข้ามา ใครเป็นตัวตั้งตัวตีที่จะอยู่เคียงข้างเรา ตอนที่เราแย่ ก็มีลูกคอยเป็นกำลังใจให้ แล้วก็แม่ของแอนนี่ แล้วก็เพื่อนๆ ที่ยังไม่ทิ้งกัน ซึ่งก็มีเพื่อนๆ ที่ทิ้งเหมือนกันนะ เพราะว่าไม่กล้าเข้าใกล้กลัวเป็นข่าวกลัวเป็นเรื่อง ตรงนี้มันทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายในอนาคตว่า เราจะอยู่เคียงข้างกับเพื่อนคนไหนได้บ้าง”

“ส่วนเรื่องงาน อย่างที่บอกงานอีเว้นท์ไม่ค่อยมีแล้ว อย่าง 2-3 งานก่อนหน้านี้มันเป็นไปตามกระแส พอหมดกระแสก็หมดกัน ใครที่บอกว่าแอนนี่งานเยอะ จริงๆ แล้วไม่เยอะเลยตรงกันข้ามมากกว่า จากละครที่กำลังมีเข้ามาก็ไม่มีเลย งานหนังที่เคยเล่นมา 4-5 เรื่องตอนนี้ก็ไม่มีเลย งานอื่นๆ ก็ไม่มีเลย ตอนนี้ตกงาน มันกระทบมากเลย ยิ่งกว่าตอนที่ยังไม่มีน้องอีก”

“ส่วนงานกับเวิร์คพ้อยท์ก็เป็นงานเก่าที่เราเคยทำมาก่อนแล้ว เขาก็ยังเมตตาสงสารให้เราเล่นต่อ แต่ว่ามันก็ยังไม่มีงานไหนเพิ่มขึ้น เหลือประจำแค่งานนี้ เรื่องงานอะไรต่างๆ แอนนี่พร้อมรับตลอด ฝากทางพี่ๆ สื่อมวลชนด้วยว่าแอนนี่อยากทำงานแล้วนะ แต่เราก็เข้าใจประเด็นหลักๆ ที่เป็นข่าวอยู่ว่า ทำไมเราถึงไม่มีงาน เรื่องข่าวที่ผ่านมาเหนื่อยกายยังไม่เท่าไหร่นะ แต่เหนื่อยใจมากกว่า ถ้าเราเลี้ยงลูกแล้วถ้ามันไม่มีอะไรอยู่ในใจมันก็คงดี แต่ตอนนี้มีความสุขมากได้เห็นลูก ตอนนี้หน้าตาน่าตีจะตาย (หัวเราะ) ขี้อ้อน อ้อนแม่เป็นแล้ว เริ่มอ้อแอ้”

แย้มคนใกล้ตัวรู้ดีว่าพ่อของ “น้องฑีฆายุ” เป็นใคร ยิ้มลูกชายยิ่งโตยิ่งเหมือนพ่อ โดยเฉพาะรอยยิ้มและใบหน้าที่ยาว

“นอกจากแอนนี่ที่รู้ว่าใครเป็นพ่อน้องคากิแล้ว ก็จะมีคนใกล้ตัว มีคนรู้ค่ะว่าเขาเป็นใคร อย่างที่คุณระเบียบรัตน์ได้พูดว่า คนเป็นพ่อก็ต้องเป็นไปตลอด แต่ถามว่าน้องมีอะไรเหมือนพ่อเขาไหม ก็คงจะเป็นรอยยิ้ม ตาเขาเหมือนแอนนี่ไง แต่หน้าเขายาวเหมือนพ่อ เพราะแอนนี่หน้าสั้น”

ขอบคุณข่าวแซ๋บจากผู้จัดการออนไลน์

โดนอีกแล้ว “แดน วรเวช” เจอหมอดูทักปีหน้าทำผู้หญิงท้อง

“แดน” เมินหมอดูทักทำผู้หญิงท้อง ไม่เชี่อแต่ไม่ลบหลู่ ฝากบอกหมอดูอย่าทายดวงคนอื่นทำให้เสียชื่อและรุนแรง เพราะเจ้าตัวไม่ได้ไปดูเอง รับช่วงนี้งานเยอะไม่มีเวลาเจอ “แพตตี้” แต่แฟนสาวเข้าใจว่าตนกำลังสร้างอนาคต


ปีก่อนตอนยังโสดเคยถูกหมอดูทักจะทำผู้หญิงท้องมาแล้ว แต่นักร้อง-นักแสดงหนุ่ม “แดน วรเวช ดานุวงศ์” ก็พิสูจน์ตัวให้เห็นว่าไม่เคยทำพลาดหรือเป็นไปตามคำทำนาย ล่าสุดใครๆ ก็รู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองว่า นักร้องหนุ่มกำลังคบหาดูใจอยู่กับดาราสาว “แพตตี้ อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา” แต่จู่ๆ กลับมีหมอดูมาทักอีกว่า ปีหน้าหนุ่มแดนจะทำผู้หญิงท้องอีกแล้ว ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวบอกชาชิน ไม่เชื่อเรื่องดวงแต่ก็ไม่ลบหลู่

“โดนทายมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ปีที่แล้วก็ไม่เห็นท้อง ใครจะทายอะไรก็ทายไปครับ คนในวงการก็โดน แต่เขาก็ต้องมีการเดินทางไปในแบบของเขา ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรชินมาก คือหมอดูเป็นอะไรที่ต้องเข้ามาในวงการนี้อยู่แล้วครับ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่คนอ่านก็ต้องเข้าใจนะครับผมว่า เพราะสุดท้ายแล้วทายดวงมันก็มีเปอร์เซ็นต์ถูกแค่สิบยี่สิบเปอร์เซ็นต์แค่นั้น มันเป็นการคาดคะเน ผมไม่ลบหลู่ แต่ไม่เชื่อครับ เพราะคนเราทำอะไรก็ต้องขึ้นอยู่ที่ตัวเอง”

“ถ้าจะให้ฝากบอกอะไรกับหมอดู ผมก็ไม่รู้จะฝากบอกอะไรครับ ทายก็ทายไป จะทายก็ทายประมาณนึงแล้วกัน อย่าทายให้เขาเสียชื่อเสียง เพราะว่าเขาไม่ได้เดินไปดูกับคุณอย่างจริงจัง กลางๆ ไว้ก็โอเค อย่ารุนแรงกันมาก ลุยงานของคุณต่อไป”

เผยช่วงนี้ลุยงานหนักไม่ได้เจอหรือเที่ยวกับแฟนสาวเลย แต่อีกฝ่ายเข้าใจว่ากำลังทำงานสร้างอนาคต

“สำหรับตอนนี้กับน้องก็ไม่ค่อยได้เจอกันครับ เวลาไปเที่ยวด้วยกันน้อยมาก แต่น้องก็เข้าใจ และน้องก็โตพอที่จะรับรู้แล้วครับ เพราะผมก็ไม่ได้ไปเกเรที่ไหน ผมก็ทำงาน เรากำลังสร้างอนาคตและก็กำลังสร้างความมั่นคง ถ้าวันๆ เราเอาแต่เที่ยวเสพความบันเทิงอย่างเดียว เขาน่าจะห่วงเรามากกว่าอีก”

“ส่วนที่ถามว่าจะมีโอกาสชวนแพตตี้มาเล่นละครเป็นนางเอกคู่กันหรือเปล่า อันนี้ผมคิดว่ามันน่าจะมีบทที่เหมาะสม และทีมงานต้องเห็นว่าบทมันใช่ และก็รวมไปถึงท่านผู้ชมด้วยว่าบทเหมาะสมหรือไม่ ในเรื่องงานก็คือเรื่องงาน น้องเขาก็เป็นนักแสดงคนหนึ่ง ถ้าทีมงานเห็นว่าน่าจะเป็นน้อง ก็ต้องมีการคุยกันอีกที”

ขอบคุณข่าวแซ๋บจากผู้จัดการออนไลน์

“พีเค” แอบเซ็งแฟนบินเรียนญี่ปุ่นมี.ค.54 ทำใจถ้ารักแท้แพ้ระยะทาง

“พีเค” แอบเซ็ง “น้องใหม่” เตรียมบินเรียนต่อญี่ปุ่นปีหน้า แต่พร้อมสนับสนุนเพื่ออนาคตของแฟนสาว มั่นใจไร้ปัญหาเรื่องการติดต่อสื่อสาร แต่ถ้ารักแท้จะแพ้ระยะทางก็รับได้ เพราะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว

ปกติจะเห็นพิธีกรหนุ่ม “พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร” ร่าเริงแจ่มใส แต่พักหลังมานี้ยิ่งใกล้วันที่แฟนสาวนักศึกษาอย่าง “น้องใหม่” ต้องไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนมีนาคมปี 54 ก็แอบเห็นเจ้าตัวเหงาหงอยไปเหมือนกัน แต่ก็ใจแข็งบอกว่าพร้อมที่จะสนับสนุนหวานใจ ที่จะต้องไปเรียนเพื่อกลับมาสานต่อธุรกิจของครอบครัว มั่นใจไม่มีปัญหาเรื่องการติดต่อสื่อสารข้ามประเทศ

“ความรักตอนนี้ก็ดีครับ ยังกินข้าว ช้อบปิ้งด้วยกันอยู่ปกติ แต่เร็วๆ นี้น้องเขากำลังจะไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นครับ ไปเดือนมีนาคมนี้ มีพูดรั้งไว้ไหมเหรอ ยังไม่ถึงเวลาหรอกครับ ผมไม่ชอบขโมยเวลาของปัจจุบันไปให้อนาคต เพราะเดี๋ยวพอเวลาอนาคตมาถึงเราจะไม่เหลืออดีตให้คิดถึง แต่ถ้าถามว่าเหงาไหมก็ต้องเหงาสิ แต่ก็ต้องทำใจให้เขาไปเจออนาคตที่ดีกว่าเพื่อที่จะได้กลับมา อีกอย่างเขาเป็นพี่คนโตด้วยครับ เขาก็จะได้กลับมาพัฒนาธุรกิจของครอบครัว ซึ่งก็น่าจะใหญ่อยู่ หรืออาจจะหาเส้นทางความฝันของเขาเอง อันนี้ก็แล้วแต่”

“เรื่องจะติดต่อกันไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ อย่างพวก face time หรือ Skype แล้วยังมี Face book มันมีวิธีการติดต่อเยอะแยะครับเดี๋ยวนี้ แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนมันก็ไม่ค่อยมีอ็อพชั่นเยอะอย่างนี้หรอก สมัยที่ผมรักข้ามทวีปกันใหม่ๆ ทุกอย่างเป็นการเขียนจดหมายด้วยปากกา แต่อันนั้นมันก็เป็นอะไรที่สัมผัสจับต้องได้นะ เอามาอ่านตอนนี้ 10-20 ปีทีหลังก็มาคิดว่า สมัยก่อนเราก็เป็นคนที่ซึ้งเหมือนกันนะ”

บอกไม่เคยกลัวเรื่องรักแท้แพ้ระยะทาง เพราะเคยเจอความเสียใจอย่างนี้มาเยอะแล้ว ถ้าจะต้องโดนอีกทีก็ยอมรับได้

“กลัวรักแท้แพ้ระยะทางหรือเปล่า คือเราก็ผ่านความชอกช้ำระกำใจความเสียใจมาเยอะแล้วครับ เพราะฉะนั้นถ้ามันเกิดขึ้นมันก็ไม่ใช่ครั้งแรก ไม่ใช่แผลแรกที่เคยโดน เพราะฉะนั้นถามว่าชอบไหม ไม่ชอบหรอก แต่ยอมรับมันได้ไหม ก็ยอมรับได้”

อุบฝ่ายหญิงเป็นคนที่ใช่แล้ว เพราะอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน

“คนนี้ใช่หรือยัง คำว่าใช่มันแล้วแต่ช่วงเวลา เพราะผมรู้สึกว่ากาลเวลาและสถานที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปได้เสมอ เพราะฉะนั้นอย่ายึดติดอะไรกับอนาคตมาก ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก่อนดีกว่า ถ้าถามถึงเรื่องจะมีครอบครัว ก็ยังครับ บ้านผมยังผ่อนไม่หมดเลย ผมมีความฝันอยู่ไม่กี่อย่าง คือผ่อนบ้านให้หมด แล้วก็ซื้อซุปเปอร์คาร์ ชีวิตมีแค่นี้(หัวเราะ) คือเราทำงานเรารู้เราขยันมาก เรามีตังค์ให้พ่อแม่ เราเลี้ยงตัวเองได้ เลี้ยงพ่อแม่ได้ ทุกคนรอบกายเราปลอดภัยแข็งแรง มีความสุข ไม่เบียดเบียนใคร แล้วผมเป็นคนที่รักรถมาก ความฝันตลอดก็คืออยากได้ซุปเปอร์คาร์แค่นี้เองชีวิตนี้”

“แต่ถึงทำฝันได้เสร็จ ก็ยังไม่รู้ว่าจะพร้อมแต่งเลยหรือเปล่าด้วยนะ อันนี้ยังไม่รู้ เอาให้ได้ถึงซุปเปอร์คาร์ก่อนค่อยคุยกัน จะบอกว่างานแต่งงานเป็นเรื่องง่าย ถ้าใจคุณพร้อม ทุนทรัพย์คุณพร้อม เซ็นกิ๊กๆ ที่อำเภอ จบแล้วคุณก็เป็นสามีภรรยากัน มันไม่ใช่เรื่องยาก แต่ทำยังไงให้หลังชีวิตแต่งงานอยู่อย่างเป็นสุข ทำยังไงไม่ให้คนที่เราต้องดูแลตลอดชีวิตไม่ต้องลำบาก บ้านผมไม่ต้องผ่อนแล้ว รถก็มี คอนโดก็มี เราหาเองมาด้วยน้ำพักน้ำแรงตลอด 10 ปีที่อยู่ในวงการ เพราะฉะนั้นอยากให้เขาสบาย ฉะนั้นการแต่งงานไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ แต่ความฝันผมเป็นเรื่องยากกว่า(หัวเราะ)”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

คลิปหลุดพระเอกระเบิดถังขี้/ซ้อ 7

ก่อนจะเข้าเรื่องลามกจกเปรต ก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้สูญเสียกรณีรถตู้โดยสารประสบอุบัติเหตุ และก็ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดโดยเร็วไว อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลหนีไปเมืองนอกอีกล่ะ

พูดแล้วก็แค้น แหม...ทีชาวบ้านหาเช้ากินค่ำล่ะตายไว แต่ไอ้พวกกินบ้านกินเมืองไม่เห็นมันตายห่าซักที หน้าด้านยังไม่พอหนังแม่มยังหนาอีกต่างหาก

สงสัยต่อไปคงต้องทำความชั่วให้มันเยอะๆ ชีวิตจะได้ยืนยาว เกิดชาติหน้าจะได้เป็นลูกคนโกง มีกินสบายไปทั้งชาติ แถมยังมีขี้ข้าใส่เสื้อแดงโง่เป็นควายคอยอารักขาอีกต่างหาก

พูดถึงเรื่องแดงๆ แล้วก็นึกไปถึง “ไอ้เหล่หัวล้าน” กุนซือปากหมามือวางเลียกระโปก “ซินาอ้า” อันดับ 1 ที่ก่อนหน้านี้ ออกแถเอ๊ย ! แถลงแก้ตัวให้ลูกพี่ทู๊กกรณี ไม่ว่าซินาอ้าจะชั่วซักแค่ไหน ไอ้เหล่หัวล้านก็จะทำหน้าที่กอบขี้คอยทำความสะอาดให้ทุกครั้ง แต่มาบัดนี้ปัญหาเรื่องขี้ๆ ดันมาเกิดกับไอ้เหล่หัวล้านซะเอง เล่นเอาเจ้าตัวถึงกับมึน

เพราะขี้ที่ว่านี้ ไม่ใช่อุปมาอุปไมยที่หมายถึงปัญหาที่ต้องปัดกวาด หากแต่เป็น “ขี้จริงๆ” ที่ออกจากตู๊ดคนนี่แหละว้อย

เห็นหน้าตาอุบาทว์หัวล้านขี้เหร่โคตรๆ แบบนั้น ใครจะเชื่อว่าแท้จริงแล้ว พี่แกจะมีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน แถมยังเล่นของสูงล่อตูดดาราอีกต่างหาก แหม..ก็จะใครที่ไหนล่ะ ก็ “พระเอกหน้าจืด” เด็กปั้นของ “ค่ายยักษ์ที่มีสื่ออยู่ในมือ” คู่นี้เค้าฟาดกันมานานแล้วถึงขั้นซื้อคอนโดฯ ย่านรัชดา ไว้เป็นของขวัญไว้ดูต่างไข่กันเลยทีเดียว

แต่ถึงจะมีคอนโดฯ เป็นของกำนัล แต่ก็เอาพระเอกหน้าจืดไม่อยู่ เพราะพระเอกหน้าจืด ยังคงเดินจะเรี้ยวโด่ไปแทงข้างหลังทะลุถึงลำไส้ใหญ่คนโน้นคนนี้อยู่เป็นประจำ ล่าสุดก็ป๊ะเทิ่งๆ กับ “พระเอกตี๋(รุ่น)ใหญ่” จะไปพบรักประสบตูดกันเมื่อไหร่ไม่ทราบด้วย รู้แต่ว่าคู่นี้ของเค้าแรงมาก สร้างวีรกามลั่นตึกช่องน้อยสีเลยทีเดียว

เหตุเกิดกลางดึก ขณะที่พนักงานทุกคนกลับบ้านแล้ว แต่กลับมีไอ้หนุ่มคนหนึ่งโชคซวยดวงจะเป็นตากุ้งยิง ดันลืมของไว้ที่ห้องแต่งตัว ก็เลยต้องถ่อไปที่ห้องดังกล่าวท่ามกลางความเงียบสงัด แต่พอใกล้จะถึงจุดมุ่งหมายกลับได้ยินเสียงกุกๆ กักๆ สลับกับเสียงกระแทกโต๊ะดังตึ้งๆ เป็นระยะๆ เล่นเอาไอ้หนุ่มดวงซวยมองซ้ายมองขวาผีหลอกกูหรือเปล่าวะ จะกลับก็กลัวจะไม่ได้ของ ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว ว่าแล้วไอ้หนุ่มดวงซวยก็ตัดสินใจเปิดประตูป้าบเข้าให้....

เล่นเอาเจ้าตัวช็อกยิ่งกว่าเจอผีหลอก เพราะภาพที่เห็น ก็คือ พระเอกหน้าจืดกำลังยืนโก้งโค้งยึดโต๊ะแต่งหน้าไว้แน่น โดยมีพระเอกตี๋รุ่นใหญ่กำลังขะมักเขม้นบึ๊ดจ้ำบึ๊ดซ๊วบดากพระเอกหน้าจืดฉึกๆ ดีกรีความแรงกี่กิโลเมตรต่อชั่วโมงไม่ทราบได้ รู้แต่ว่าแรงสั่นสะเทือนของจังหวะการพิชิตรูทวารมันกระแทกโต๊ะดังปั้งๆ คงจะทำให้ทั้งคู่หูดับไปชั่วขณะ หรือไม่ก็กำลังจะถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของตุ๊ดเกย์ ถึงได้หูอื้อตาลายไม่รู้ว่า มีคนเปิดประตูมาเห็นภาพกำลังป๊ะกันอยู่

เป็นคนอื่นคงร้องกรี๊ดแล้วก็วิ่งหนีป่าราบด้วยความตกใจ แต่ไอ้หนุ่มดวงซวย ไม่ใช่สิต้องบอกว่า “ดวงจู๋” กลับคิดอุตริพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ถอยหลังไปหลบที่หน้าประตูทางเข้าแล้วก็งัดโทรศัพท์ออกมาถ่ายวิดีโอ บันทึกภาพเริงสวาทของสองพระเอกไว้อย่างจะจะ กว่าทั้งคู่จะบรรเลงเพลิงดาบกันจบ ไอ้หนุ่มดวงจู๋ก็เผ่นแน่บไปเรียบร้อยโรงเรียนโรคจิต

วันต่อมาเรื่องนี้ถูกเมาท์กันสนุกปากว่า พระเอกหน้าจืดโดนพระเอกตี๋รุ่นใหญ่ เสียบคาห้องแต่งตัว และมีคนถ่ายคลิปไว้ได้เตรียมจะขายให้กับนักข่าว แต่บางกระแสก็บอกว่า เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด กลายเป็นข่าวทอล์กออฟเดอะทาวน์ ที่พูดต่อๆ กันไป จนกระทั่งเรื่องไปถึงหูพระเอกหน้าจืด กับพระเอกตี๋รุ่นใหญ่ เล่นเอาเจ้าตัวก้นร้อนเป็นไฟ รีบบึ่งไปเจรจาลับๆ กับเจ้าหน้าที่เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดเป็นการส่วนตัว

พอเพลย์ภาพกลับไปวันที่ซ๊วบตูดกันเท่านั้น เจ้าหน้าที่ถึงกับร้อบจ๊ากด้วยความตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าพระเอกมาดแมนของตูจะเป็นได้ขนาดนี้ เล่นเอาพระเอกตี๋รุ่นใหญ่หันมามองค้อนยังกะญาติใครเป็นตะปู ก่อนจะสั่งให้รีบเพลย์ภาพไปพร้อมกับออกคำสั่งให้ลบภาพดังกล่าว และก็ควักเงินหมื่นออกมากองไว้ตรงหน้าเพื่อเป็นค่าปิดปาก ยังไม่ทันที่เจ้าหน้าที่จะลบก็ปรากฏภาพของไอ้หนุ่มดวงจู๋อยู่บนจอกำลังยกมือถือบันทึกภาพสยองคนแทงกัน

เท่านั้นแหละพระเอกตี๋รุ่นใหญ่ ถึงกับควันออกหู ออกตามล่าหาไอ้หนุ่มดวงจู๋ทันทีก่อนจะลากตัวออกมาด่าๆๆๆๆ และก็สั่งให้ลบภาพในโทรศัพท์ พร้อมกับเอาเงินฟาดหัวไปหลายหมื่นบาท พร้อมประกาศลั่นว่า ถ้าคลิปนี้หลุดออกไปเมื่อไหร่เมิงตาย เล่นเอาไอ้หนุ่มดวงจู๋ถึงกับขี้หดตดหาย

ก็อย่างว่าแหละเป็นใครก็เสียว โดนฆ่าตายยังพอว่า แต่โดนแทงตายคงสยอง...จึ๋ย

ปัจจุบันนี้คลิปดังกล่าวถูกลบไปเรียบร้อยแล้วก่อนจะถึงมือนักข่าว แต่จะมีก๊อบปี้หรือเปล่าอันนี้คงต้องลุ้นกันอีกที

อีกซักดอกส่งท้ายปีเก่าก็แล้วกัน หลังจากที่มีข่าวรักๆ เลิกๆ กันมานาน ล่าสุด คู่ของ “พระรองไฮโซดำ” กับ “น้องจิ๋มเทอร์โบ” ผู้เคยสร้างประวัติศาสตร์ฟาดทั้งซินาอ้า กับลูกชายมาแล้ว ก็มีอันเลิกรากันไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่ว่าเข้ากันไม่ได้ หรือทำงานหนักจนไม่มีเวลาเหมือนที่ดาราบางคนชอบยกมาเป็นข้ออ้างให้ชาวบ้านเค้าฮาขี้แตก

แต่ก็อย่างว่าแหละใครจะกล้าพูดว่า ชั้นมันดอก(ไม้)ค่ะ อาวไม่รู้จักพอ 55555

ส่วนคู่ของพระรองไฮโซดำ กับนางเอกลูกครึ่งนั้น เลิกกันเพราะครอบครัวของฝ่ายชายไม่ปลื้ม บอกให้ช่วยทำธุรกิจอะไรก็ไม่ช่วย อ้างว่างานเยอะบ่ายเบี่ยงโน่นนี่ พอจี้หนักๆ เข้าน้องจิ๋มเทอร์โบก็เลยหลุดปากสันดอนโผล่ “ทีตอนอยู่กับ ลูกคนรวย” ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย หางโผล่สันหลังยาวซะขนาดนี้ใครจะเอาไปเป็นลูกสะใภ้ ครอบครัวของพระรองไฮโซดำก็เลยสั่งห้ามยุ่งกับน้องจิ๋มเทอร์โบเป็นเด็ดขาด ประกอบกับธุรกิจของครอบครัวกำลังย่ำแย่ น้องจิ๋มเทอร์โบก็เลยยินดีชิ่งชนิดไม่เห็นฝุ่น

เห็นแล้วก็ปลงไม่ทราบว่านั่น “จิ๋ม” หรือ “เครื่องคิดเลข” ถึงได้คิดทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองซะขนาดนั้น อยากได้ผัวรวยแต่ไม่ขยันทำมาหากิน ใครมันจะเห็นค่า ชาตินี้คงทำได้แค่ขายกะปิ๊แลกเงินละวะ

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

Yang Pa - 천국의 눈물 (Tears Of Heaven OST)

ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2554

รูปน่ารัก ๆ ของ 3 พี่น้อง “The Moon Brothers” เผยออกมาแล้ว

ตัวอย่างล่าสุดจากละครเรื่อง “Dream High” เผยออกมาแล้ว

Kang Ho Dong คว้ารางวัลแดซางในงานประกาศรางวัล SBS Entertainment ปี 2010

ศิลปิน SidusHQ มอบความรักให้แฟน ๆ ต้อนรับปีใหม่

วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553

“ก้อย” แจงภาพส่องหวอ มั่นเซฟดีไม่มีโชว์กกน.เรืองแสง

“ก้อย” งงภาพโชว์หวอ มั่นเซฟดีทุกครั้งไม่น่าจะมีโผล่ให้เห็น เชื่อใส่ซับในสีเนื้อทำเข้าใจผิด ปัดใส่กางเกงในเรืองแสง มั่นเป็นแสงแฟลชสะท้อน ลั่นต่อไปเพิ่มมาตรการเซฟ 5 ชั้น ส่วนปีใหม่ “ตูน” ติดเล่นคอนเสิร์ตเคาท์ดาวน์ แย้มจะจูงกันเที่ยวไทยสวีตหวานหลังปีใหม่แทน


ปกติเป็นจอมซูเปอร์เซฟ ไม่ค่อยมีภาพหวอโผล่ออกมาให้เห็นบ่อยสักเท่าไหร่ แต่ล่าสุดในงานหนึ่งนางเอกสาว “ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ” ก็พลาดท่าให้กับช่างภาพมือฉมังส่องหวอมาให้เห็นกันจนได้ เมื่อไปสอบถามเจ้าตัวถึงเรื่องนี้ “ก้อย” ทำหน้างงๆ บอกยังไม่เห็นภาพ เชื่อเป็นการเข้าใจผิด เพราะตนเซฟอย่างดีแน่นหนาทุกครั้ง

“ก้อยยังไม่เห็นภาพนะคะ แต่จำได้เลยว่าวันนั้นใส่ชุดยังไง น่าจะเป็นงานยามาฮ่า ซึ่งเสื้อจะเป็นซีทรูสีดำ แล้วเขาทำซับในให้เป็นซับในสีเนื้อ ด้วยความที่เป็นสีเนื้อเลยอาจทำให้เข้าใจผิดว่าไม่ใส่หรือเปล่า แต่ปกติเวลาก้อยใส่อะไรที่เป็นซีทรูหรือกระโปรง-กางกงขาสั้น ก้อยเซฟแน่นอนค่ะ แล้วก้อยก็จำได้ว่าวันนั้นเซฟแน่นอน แล้วไม่ได้ติดไฟข้างใน เป็นกางเกงในเปล่งแสง (หัวเราะ) อาจจะเป็นเพราะแสงแฟลชหรือเปล่า แต่ต่อไปอาจจะต้องเซฟมากขึ้น อาจจะต้องใส่ 2-3 ชั้น แต่ถ้ามีใครแน่ใจว่าเห็นก็คงต้องเพิ่มเป็น 5 ชั้นเลยค่ะ (หัวเราะ)”

เมื่อถามถึงแพลนเที่ยวปีใหม่ จะจูงแฟนหนุ่ม “ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย” หรือ “ตูน บอดี้สแลม” ไปสวีตหวานกันที่ไหน เจ้าตัวเผยว่า

“ปีใหม่ก้อยยังไม่มีแพลนไปเที่ยวไหน ส่วนพี่ตูนมีคอนเสิร์ตค่ะ เขาต้องเล่นคอนเสิร์ตเคาท์ดาวน์ปีใหม่ ก็คิดกันเอาไว้ว่าหลังปีใหม่ค่อยไปเที่ยวกัน (หัวเราะ) ก็คงจะไปเที่ยวภายในประเทศนี่แหละค่ะ คงไม่ไปไหนไกล”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

Yonghwa และ Seohyun ในมิวสิควีดีโอ ‘Banmal’ จากใจแฟนเพลง

MinAh (Girl’s Day) ร่วมกับหนุ่มจีน HIT-5 ปล่อยมิวสิควีดีโอเพลง “Afraid of You” ออกมาแล้ว

Kim Dong Wan วง Shinhwa จะกลับมาจัดรายการวิทยุอีกครั้ง

วันพุธที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553

[MV Teaser] DBSK - Why (Keep your head down)























DBSK - Why (Keep your head down) Teaser


“เต็ม” ทำใจคดีโจรขึ้นบ้านไม่คืบ ห่วง “เป้ย” แนะให้ซื้อคอนโด

“เต็ม วุฒิสิทธิ์” เซ็งคดีตีนแมวขึ้นบ้าน ยกเค้าทรัพย์สินสูญนับแสนไม่คืบ รู้เป็นคนแถวบ้าน แต่ไม่มีตำรวจมาดูแล ห่วงความปลอดภัย “เป้ย” เบรกซื้อบ้านให้เปลี่ยนเป็นคอนโดแทน แย้มปีใหม่ควงกันไปสวดมนต์ข้ามปี

ออกอาการเซ็งกันเลยทีเดียว สำหรับอดีตนักร้องวง UHT "เต็ม วุฒิสิทธิ์ สืบสุวรรณ" หวานใจของนางร้าย "เป้ย ปานวาด เหมมณี" ที่ก่อนหน้านี้โดนโจรขึ้นบ้านขโมยทรัพย์สินไปหลายรายการ ทั้งคอมพิวเตอร์ พระพุทธรูปและลำโพงไอพอด ฯลฯ ซึ่งรวมมูลค่าแสนกว่าบาท แต่คดีกลับไม่คืบหน้าเท่าที่ควร เจ้าตัวเลยได้แต่ทำใจอย่างเดียว

"ตัวผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากนะครับ พอจะทราบว่าจับคนร้ายไม่ได้ ผมก็เดินคุยกับคนแถวๆ บ้าน ก็พอรู้ว่าเป็นคนในละแวกนั้นแหละ ซึ่งแถวบ้านจะมีอาชญากรรมเยอะ คงทำใจนะครับ เพราะผมแจ้งความไปแล้วที่สน. วังทองหลาง บ้านผมอยู่ซ.มหาดไทย ลาดพร้าว 122 แต่พื้นที่ที่ดูแลไม่มีใคร(ตำรวจ)มาดูที่บ้านเลย ซึ่งทรัพย์สินที่หายก็มีคอมพิวเตอร์ พระพุทธรูปหนึ่งองค์ มีลำโพงไอพอด อันนี้เสียดายมาก เพราะมันหาซื้อไม่ได้แล้วรุ่นนี้ แล้วก็เอฟเฟกต์กีต้าร์ ราคารวมแล้วก็เป็นแสนกว่าบาท"

เผยเบรก “เป้ย” แฟนสาว หลังมีโครงการจะซื้อบ้าน แนะให้ซื้อคอนโดดีกว่าจะได้ปลอดภัย ส่วนแพลนปีใหม่จะควงกันไปสวดมนต์ข้ามปี

"ผมเห็นเขาดูบ้านอยากมีเนื้อที่ พอผมขโมยขึ้นบ้านก็เลยแนะนำเป็นคอนโดดีไหม จะได้ปลอดภัยนิดนึง เพราะเขาผู้หญิงคนเดียว อยู่คอนโดก็มีคนดูแลให้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสื้อผ้าก็มีคนทำให้ หากมีของมาฝากก็มียามฝากได้ ตอนนี้เขาก็ดูๆ อยู่ก็หลายจิตหลายใจมาก อยากได้ทั้งคอนโดทั้งบ้าน”

“ส่วนปีใหม่เราคงจะไปสวดมนต์ข้ามปี เพราะก็ไม่รู้จะไปไหน ก็ไม่มีแพลนด้วย ก็เอออยู่กรุงเทพฯ ก็จะนัดๆ กันไปครับ"

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

นิชคุณและ Victoria จะขึ้นแสดงคอนเสิร์ตร่วมกันใน Gayo Daejun

Heechul กับท่าเต้นศรรักปักลงกลางหัวใจ

วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

JYP เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของ J.Tune

“แดน” ย้ำไม่เคยชวน “บีม” ซบโซนี่ แค่เปรยอยากมีงานทำร่วมกัน

“แดน” ยังยันไม่เคยเอ่ยปากชวน “บีม” ย้ายซบโซนี่ บอกแค่เปรยๆ อยากมีงานทำร่วมกัน หรือมีโปรเจกต์เพลงพิเศษ รอจังหวะและโอกาส ปีใหม่แพลนจูง “แพตตี้” เที่ยวพร้อมก๊วนเพื่อน




แม้ปากจะบอกว่ายังเคารพและรักต้นสังกัดอย่างอาร์เอส แต่มีเปอร์เซ็นต์เป็นไปได้สูงที่นักร้องหนุ่ม “บีม กวี ตันจรารักษ์” จะไม่ต่อสัญญาที่กำลังจะหมดลงราวกลางปีหน้า ซึ่งเจ้าตัวก็มีแอบพูดเปรยๆ ออกมาเป็นนัยๆ ให้ได้ยินบ้างแล้ว เมื่อผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอ “แดน วรเวช ดานุวงศ์” ที่เคยอยู่ร่วมวงดีทูบีกับหนุ่ม “บีม” จึงกระแซะถามว่า ได้มีการพูดชักชวนนักร้องรุ่นพี่ไปอยู่ร่วมชายคาโซนี่ บ้างหรือไม่ เจ้าตัวตอบปฏิเสธ บอกแค่คุยเปรยๆ กันว่าน่าจะมีโปรเจกต์งานที่ทำร่วมกัน

“คือผมจะไปกินข้าว ก็ได้เจอได้พูดคุยกันบ้าง แต่ตัวผมกับพี่บีมจะไม่ค่อยได้คุยกันเรื่องงานสักเท่าไร หมายความว่าใครจะไปทำอะไร แต่ละคนก็มีการตัดสินใจเอง อย่างพี่บีมเองก็มีคุณพ่อคุณแม่ มีครอบครัวของเขาที่จะปรึกษากัน สำหรับเราแค่เคยคุยกันว่า ถ้ามีโอกาสอยากจะร่วมทำงานด้วยกันจังเลย แต่ไม่ได้บอกว่าจะมาทำงานกันที่ไหนอย่างไร แค่บอกว่าเป็นพิธีกรร่วมกันก็ได้ หรือว่าทำรายการ เล่นหนังเล่นละคร หรือว่ามีโปรเจกต์พิเศษทำเพลงกันไหม ก็คุยกันประมาณนั้น แต่จะไม่บอกว่ามาทำที่นี่ มาทำอันนี้กัน ยังไม่ถึงขั้นนั้นนะครับ”

“ส่วนโปรเจกต์ที่จะทำร่วมกัน เรายังไม่ได้คิดว่าเป็นอะไร เรายังไม่ได้คุยกัน เหมือนเราทานข้าวแล้วคุยกันว่า เออ..ถ้ามีก็ดีสิ ที่พูดถึงเรื่องนี้เพราะตอนเราร้องเพลงก็สนุกด้วยกัน แล้วก็พูดว่าก็คงแล้วแต่โอกาสและจังหวะแค่นั้นเอง”

เผยปีใหม่งดจูง “แพตตี้ อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา” แฟนสาวเคาท์ดาวน์สองต่อสอง

“กำลังคิดกันอยู่กับเพื่อนๆ ก็หลากหลายความคิดกันอยู่ คือเราคงไม่ได้ไปกันสองคน คงจะไปตามกระแสมากกว่า หมายถึงว่าพวกเราว่าไง เพื่อนว่าไง น้องเขาก็คงไปตามนั้น”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

JEA (Brown eyed girls) - 니가 따끔거려서

วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553

โปรดิวเซอร์ “1N2D” ออกมาขอโทษที่ตัดต่อผิดพลาด

“ลีเดีย” แกล้งมึนยังไม่ได้ค่าตัว “ระบำดวงดาว” โบ้ยถามผจก.ส่วนตัว

“ลีเดีย” ปัดย่องเซ็นสัญญาโพลีพลัสแล้ว แจงต้องรอหมดสัญญากับอาร์เอสก่อนถึงค่อยคิด ทำมึนไม่รู้ยังไม่ได้ค่าตัวจากละคร “ระบำดวงดาว” โบ้ยให้ไปถามผู้จัดการส่วนตัวเอาเอง



เห็นเข้าๆ ออกๆ บริษัทโพลีพลัสถี่ เลยพาลนึกว่านักร้องสาว “ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา” จะเปลี่ยนใจแอบย่องเซ็นสัญญาไปเสียแล้ว งานนี้เจ้าตัวเลยออกมาการันตีอีกครั้งว่า สัญญากับทางอาร์เอสยังไม่หมด เลยยังไม่คิดจะเซ็นสัญญากับค่ายไหน ส่วนข่าวเมาท์ที่ว่าละคร “ระบำดวงดาว” อวสานไปแล้ว แต่เธอยังไม่ได้รับค่าตัว ลีเดียแกล้งมึนโบ้ยให้ไปถามผู้จัดการส่วนตัว

“ตอนนี้เดียยังไม่ได้ตัดสินใจจะไปไหน เพราะสัญญากับทางอาร์เอสยังไม่หมด กับทางโพลีพลัสก็ไม่มีอะไรคืบหน้าค่ะ เรายังไม่ได้ตัดสินใจอะไรตอนนี้จริงๆ ต้องรออัพเดตอีกที ส่วนเรื่องเงินค่าตัวของ ระบำดวงดาว ที่ยังไม่ได้ อันนี้เดียไม่ทราบจะจริงหรือเปล่า ต้องไปถามผู้จัดการส่วนตัวค่ะ”

แย้มปีใหม่อยากพาครอบครัวไปเคาท์ดาวน์ต่างประเทศ แต่ถ้าไปไม่ได้ก็อยากไปภูเก็ตแทน

“ปีใหม่ก็อยากจะพักผ่อน อยากไปต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมาทำงานทุกวันเลย ถ้าไม่ได้ไปต่างประเทศก็อยากจะไปเที่ยวภูเก็ต ไปกับครอบครัว ถ้าพี่แมทธิวว่างก็คงชวนไปด้วย แต่ช่วงนี้พี่เขาถ่ายละครเรื่อง เสาร์ 5 เวลาได้เจอกันก็พอมีบ้าง ได้เจอเรื่อยๆ แต่เดียไม่ได้มีโอกาสเข้ากองเสาร์ 5 เลยนะ เพราะเดียเองก็ต้องวิ่งรับงานอีเว้นท์ก่อน”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

Yonghwa และ Seohyun ปล่อยเพลง ‘Banmal’ ออกมาแล้ว

‘Because You Sting’ มิวสิควีดีโอตัวล่าสุดจาก Jea (Brown Eyed Girls)

วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2553

SHINee จะเดบิวต์ในประเทศญี่ปุ่นมีนาคมปีหน้า

ตัวอย่างหนังใหม่ Friday Killer มือปืน ดาว/พระ/ศุกร์

ตัวอย่างหนังเข้าใหม่หนังก่อนโรงจาก www.youtube.com
ชื่ออังกฤษ Friday Killer
ชื่อไทย มือปืน ดาว/พระ/ศุกร์
ประเภทหนัง Action/Drama
ผู้กำกับ ยุทธเลิศ สิปปภาค
ผู้แต่ง -
วันที่เข้าฉาย ยังไม่กำหนดวันเข้าฉาย
ความยาวหนัง -
นักแสดง เทพ โพธิ์งาม, สายป่าน อภิญญา, พลอย จินดาโชติ



ตัวอย่างหนังใหม่ Friday Killer มือปืน ดาว/พระ/ศุกร์ | เรื่องย่อ
At first glance FRIDAY KILLER looks, feels and smells just like KILLER TATTOO and most probably is another crude work of the director with eccentric storyline, humor and action. The next two movies will be called (surprise!) SATURDAY KILLER and SUNDAY KILLER. Starring Ploy Jindachote and comedian Suthep Po-Ngam.



ไหนว่าไม่กล้าจีบ! “แพนเค้ก” หนี “เวียร์” โผล่ดูหนังใหม่กับ “เป้”

“เป้” ปัดเป็นมือที่สาม “แพนเค้ก-เวียร์” บอกไม่กล้าจีบมองไม่เหมาะสมกัน รับจุ๊บฝ่ายหญิงจริงในละคร ลั่นงานนี้ไม่ต้องเคลียร์ “เวียร์” ด้านนางเอกแก้มป่องหนีแฟนโผล่มาให้กำลังใจ “เป้” ดูหนัง “สุดเขต สเลดเป็ด”

อยู่ดีๆ งานก็เข้าพระเอกหนุ่มมาดเซอร์ “เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ” อย่างจัง หลังกำลังมีงานละครเรื่อง “เธอกับเขาและรักของเรา” และมีฉากกุ๊กกิ๊กเลิฟซีนคู่กับนางเอกแก้มป่อง “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” ที่มีข่าวระหองระแหงถึงขั้นเลิกราแฟนหนุ่ม “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารส” อยู่ งานนี้หนุ่มเป้เลยถูกจับตามองต้องเป็นมือเสียบ ฉกสาวแพนไปจากอกเวียร์แน่ๆ ซึ่งเจ้าตัวนั่งยันนอนยันว่า ไม่มีอะไรในกอไผ่กับนางเอกสาว ลั่นไม่คิดจีบเพราะมองไม่เหมาะสมกัน

“ข่าวเป็นมือที่สามระหว่างแพนเค้กกับพี่เวียร์ ไม่มีอะไรแน่นอนครับ เป็นการทำงานกันเฉยๆ ไม่มีการไปกินข้าวอะไรกันแน่นอน ถามว่าถ้าแพนโสดคิดที่จะจีบไหม คงไม่กล้าหรอก ผมคิดว่ามันอาจจะไม่เหมาะกันด้วยหรือเปล่า ผมตอบไม่ถูกเลยครับ ว่าทำไมผมถึงไม่กล้าจีบ แต่ผมคิดว่าเขาคงไม่ชอบเรา ดังนั้นผมคงไม่จีบ เราคงทำงานด้วยกันเฉยๆ ส่วนที่ผมเคยให้ดอกไม้แพน เพราะเขาเปิดร้านขายตุ๊กตา แล้วพอดีแม่น้องเขาให้การ์ดเชิญมา ผมก็เลยไปครับ ก็ไปแสดงความยินดี มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนะ”

“กับฉากเลิฟซีนที่เล่นกับแพนในละคร ก็เป็นการจุ๊บกันครับ โดนจริงครั้งเดียวผ่าน เพราะเราทั้งคู่เครียด เลยจะเอาให้ผ่านไปเลยให้จบได้ในครั้งเดียว ซึ่งมันก็ทำได้ครับ ถามว่าต้องโทรขอพี่เวียร์ก่อนหรือเปล่า จะโทรไปขอพี่เวียร์ทำไม และไม่ต้องฝากอะไรถึงด้วย มันเป็นการทำงานครับ ซึ่งพอมีข่าวออกมาผมก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะมันเป็นเรื่องไม่จริง กับแพนเรื่องนี้ผมก็ไม่ได้คุยกัน มันไม่มีอะไรเลยไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องคุยกันเพื่ออะไร”

ปัดกิ๊ก “ยิปโซ รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์” หลังร่วมงานกันในหนัง “สุดเขต สเลดเป็ด” รับสนิท แต่โอกาสพัฒนาสัมพันธ์ไม่มี

“ข่าวเป็นกิ๊กกับยิปโซก็ไม่จริงครับ ผมคิดว่าพอเราทำงานกับใคร เราก็เป็นข่าวกับคนนั้นอยู่แล้ว คือเราสนิทกันในระดับหนึ่งนะ และเราก็ไปกินข้าวด้วยกัน ก็ถ้าถามว่าออกไปไหนมาไหนด้วยกันไหม ก็ตอบว่าไป เพราะก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงให้มันถูกครับ แต่ความจริงไม่มีอะไร เป็นพี่น้องกัน ส่วนโอกาสพัฒนาก็ไม่มีครับ”

ปากบอกไม่ได้เป็นมือที่ 3 และไม่กล้าจีบ “แพนเค้ก” แต่ไหงวันงานรอบสื่อมวลชนภาพยนตร์เรื่อง “สุดเขต สเลดเป็ด” ที่หนุ่ม “เป้” เป็นพระเอกนำแสดง สาวแพนถึงได้สวมเสื้อแดงแจ๋โผล่มาให้กำลังใจและร่วมชมภาพยนตร์ที่ห้างสยามพารากอนด้วย มีภาพมายันเป็นหลักฐานมัดตัวแบบนี้ ขี้จุ๊เบ่เบ๊ไม่ดีนะจ๊ะ....เป้จ๋า!!







ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553

นิชคุณสร้างเซอร์ไพรส์ให้ Victoria ในรายการ “We Got Married”

ทีมนักแสดงจาก ‘Dream High’ ขึ้นแสดงในรายการพิเศษ “Jo Sumi’s Christmas Present”

ตัวอย่างหนังใหม่ True Grit ทรู กริท

ตัวอย่างหนังเข้าใหม่หนังก่อนโรงจาก www.youtube.com
ชื่ออังกฤษ True Grit
ชื่อไทย ทรู กริท
ประเภทหนัง Drama/Thriller
ผู้กำกับ Joel & Ethan Coen
ผู้แต่ง -
วันที่เข้าฉาย 24 February 2011
ความยาวหนัง -
นักแสดง Jeff Bridges, Matt Damon, Josh Brolin, Hailee Steinfeld, Barry Pepper



ตัวอย่างหนังใหม่ True Grit ทรู กริท | เรื่องย่อ
หลังจากที่พ่อของเธอถูกฆาตกรรมโดยมือสังหารรับจ้าง ทอม เชนนีย์ (จอช โบรลิน) เด็กสาวบ้านไร่วัย 14 ปี แม็ตตี้ รอส (เฮลีย์ สไตน์เฟลด์) ก็หมายมั่นที่จะจับตัวฆาตกรรายนี้ให้ได้ สำหรับผู้ช่วยเหลือเธอ เธอได้ว่าจ้าง นายทหารอเมริกันที่ทรหดที่สุดเท่าที่จะหาเธอได้ เป็น “คนจริง” เขาก็คือ รูเบน เจ. “รูสเตอร์” ค็อกเบิร์น (เจฟฟ์ บริดเจส) แม็ตตี้ ยืนกรานที่จะติดสอยห้อยตามค็อกเบิร์น ผู้ซึ่งพฤติกรรมขี้เหล้าเมายา ขี้เกียจสันหลังยาวและไร้ศีลธรรม ซึ่งตัวตนของเขาไม่ได้ทำให้เธอเกิดศรัทธาในตัวเขาเลยซักนิด แม้เขาจะไม่เต็มใจ เธอก็ได้ร่วมเดินทางกับเขาเพื่อตามหาเชนนีย์ในถิ่นของพวกอินเดียแดงให้เจอ ก่อนที่ทหารเรนเจอร์เท็กซัสที่ชื่อ ลาบัฟ (แมตต์ เดม่อน) ที่ต้องการตัวเชนนีย์ เพื่อจะนำตัวกลับไปที่เท็กซัสในคดีสังหารชายอีกคนหนึ่ง ทั้งสามต่างก็ได้พบทั้งอันตรายและเรื่องที่ท้าทาย ระหว่างการเดินทางและแต่ละคนต่างก็ถูกทดสอบความเป็นคน “จริง” ของตัวเอง

Following the murder of her father by hired hand Tom Chaney, 14-year-old farm girl Mattie Ross sets out to capture the killer. To aid her, she hires the toughest U.S. marshal she can find, a man with "true grit," Reuben J. "Rooster" Cogburn. Mattie insists on accompanying Cogburn, whose drinking, sloth, and generally reprobate character do not augment her faith in him. Against his wishes, she joins him in his trek into the Indian Nations in search of Chaney. They are joined by Texas Ranger LaBoeuf, who wants Chaney for his own purposes. The unlikely trio find danger and surprises on the journey, and each has his or her "grit" tested.


Orange Caramel ขึ้นร้องในเพลง ‘Because of You’ ในรายการ “ICON”

Hyomin วง T-ara พบรักแรกในเกมออนไลน์

Jo Kwon และนิชคุณ ทำเพลงให้กับภรรยาใน We Got Married

Song Joong Ki และ Shin Min Ah ถ่ายโฆษณาด้วยกัน

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ตัวอย่างหนังใหม่ The Rite เดอะ ไรต์

ตัวอย่างหนังเข้าใหม่หนังก่อนโรงจาก www.youtube.com
ชื่ออังกฤษ The Rite
ชื่อไทย เดอะ ไรต์
ประเภทหนัง Drama
ผู้กำกับ Mikael Håfström
ผู้แต่ง -
วันที่เข้าฉาย 10 February 2011
ความยาวหนัง -
นักแสดง Anthony Hopkins


The Rite เดอะ ไรต์ | เรื่องย่อ
เรื่องราวของพระหนุ่มชาวอเมริกา Michael (แสดงโดย Colin O’Donoghue) ที่เดินทางมาร่วมพิธีไล่ผีอันลึกลับด้วยความไม่เต็มใจ ที่อิตาลี และได้พบเจอกับ พระนักบวชรุ่นใหญ่ (Anthony Hopkins) ที่ได้ชักชวนเข้าสู่ ศาสตร์มืดของมนต์ดำในการขับไล่ภูติผีปีศาจ !!




MBLAQ & 4minute จะขึ้นแสดงด้วยกันในงาน “2010 Gayo Daejun” ของสถานี SBS

วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ตัวอย่างหนังใหม่ Pra-Teng พระเท่งนักเลงโหน่ง

ตัวอย่างหนังเข้าใหม่หนังก่อนโรงจาก www.youtube.com
ชื่ออังกฤษ Pra-Teng

ชื่อไทย พระเท่งนักเลงโหน่ง
ประเภทหนัง Comedy
ผู้กำกับ ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข, พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ
ผู้แต่ง -
วันที่เข้าฉาย 03 February 2011
ความยาวหนัง -
นักแสดง ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข,  พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ

Pra-Teng พระเท่งนักเลงโหน่ง | เรื่องย่อ
เมื่อโชคชะตาชวนศรัทธามาร่วมกันผ่าวิกฤต กับสถานการณ์ที่พร้อมพลิกและผันอยู่หลายตลบ ทําให้พระเท่ง ที่หลบลี้หนีความวุ่นวายไปจําศีลภาวนาอยู่ที่ต่างประเทศหลายปี น่าจะได้มีโอกาสกลับมาจําวัดที่ประเทศไทยอย่างสะดวกโยธิน ถ้าตั๋วเครื่องบินโดยสารไม่เกิดเต็มไปเสียก่อน เฉกเช่นกับที่ เสี่ยโหน่ง(เรียกว่านักเลงน่าจะเหมาะกว่า) พ่อค้าอัญมณีเศรษฐีผู้มั่งคั่งและมากล้นไปด้วยอิทธิพล ไม่บังเอิญมาติดต่อธุรกิจที่นี่พอดี จึงตัดสินใจนิมนต์พระเท่งให้โดยสารเครื่องบินแบบเช่าเหมาลําเดินทางกลับมาพร้อมกัน นําไปสู่การเดินทางผจญภัยฝ่าสารพัดวิบากกรรมที่ครั้งหนึ่งจะเกิดขึ้นในชีวิตของคนที่เกิดมาเป็นพระ และอีกคนที่เกิดมาเป็น นักเลง เมื่อทุกสรรพสิ่งในโลกล้วนมี เกิด ก็ย่อมมีดับ มี โชค ก็ต้องมี เคราะห์ แถมอยู่ใกล้กันเพียงแค่พลิกผ่ามือ

ภาพยนตร์ไอเดียฮาที่มีธรรมเป็นตัวขับเคลื่อน พร้อมพุ่งทะยานขึ้นฟ้าด้วยความสนุก คลุกเคล้ารอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แถมมีพระ, เสี่ย(เรียกนักเลงจะเหมาะกว่า), เครื่องบิน, โจรป่า มาพัวพันกันอย่างอีรุงตุงนัง ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้น จงอยู่กับปัจจุบัน



ของขวัญวันคริสมาสต์อีฟจาก SNSD กับ “Snowy Wish”

Hyunseung & Kikwang (B2ST) ปล่อยเพลง ‘Let It Snow’ ออกมาแล้ว

วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ZIA - 겨울에 내리는 눈물

Hyun Bin จะร้องเพลง That Man เวอร์ชั่นผู้ชายประกอบละครเรื่อง Secret Garden

Sanctum แซงทัม

ตัวอย่างหนังเข้าใหม่หนังก่อนโรงจาก www.youtube.com
ชื่ออังกฤษ Sanctum

ชื่อไทย แซงทัม
ประเภทหนัง Action/Thriller
ผู้กำกับ Alister Grierson
ผู้แต่ง -
วันที่เข้าฉาย 03 February 2011
ความยาวหนัง -
นักแสดง Richard Roxburgh, Alice Parkinson, Rhys Wakefield, Dan Wyllie, Christopher Baker, Allison Cratchley, John Garvin, Sean Dennehy



Sanctum แซงทัม | เรื่องย่อ
ภาพยนตร์ฝีมือการกำกับของ Alister Grierson ที่ได้ James Cameron มาทำหน้าที่ executive producer ให้

เมื่อคณะสำรวจใต้ทะเลชุดหนึ่ง เดินทางไปสำรวจถ้ำที่ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงกับความงามของมัน แต่แล้วกลับถูกโจมตีด้วยพายุ ทำให้คนในคณะต้องเข้าไปหลบกันอยู่ในถ้ำ แต่แล้วพวกเขาก็ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดกับระดับน้ำที่คอยจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พวกเขาต้องเอาตัวรอดโดยการคลานหลบไปตามซอกหินในถ้ำ เพื่อค้นหาทางที่จะออกไปสู่ทะเล โดยที่ไม่รู้ว่างนั่นคือทางใด!!

คณะสำรวจที่ประกอบไปด้วย หัวหน้าทีม Frank McGuire (Richard Roxburgh), ลูกชายวัย 17 ปีของ Frank อย่าง Josh (Rhys Wakefield) และเจ้าของเงินลงทุนครั้งนี้อย่าง Carl Hurley (Ioan Gruffudd) พวกเขาจะรอดจากเหตุการณ์นี้ไปได้หรือไม่ !!!


The 3-D action-thriller Sanctum follows a team of underwater cave divers on a treacherous expedition to the largest, most beautiful and least accessible cave system on Earth. When a tropical storm forces them deep into the caverns, they must fight raging water, deadly terrain and creeping panic as they search for an unknown escape route to the sea. Master diver Frank McGuire has explored the South Pacific's Esa-ala Caves for months. But when his exit is cut off in a flash flood, Frank's team-including 17-year-old son Josh and financier Carl Hurley are forced to radically alter plans. With dwindling supplies, the crew must navigate an underwater labyrinth to make it out. Soon, they are confronted with the unavoidable question: Can they survive, or will they be trapped forever?



“เจนี่” เผย “ฟิล์ม” โทร.หาหลังสึก รับตายด้านไม่หวังได้แต่งงานเหมือน “พอลล่า”

“เจนี่” ทำตัวไม่ถูก ปีนี้อดได้ฉายา ชม “พ่อฟิล์มฉึกฉึก” น่ารักดี เผย “ทิดฟิล์ม” โทร.หาแล้วหลังสึก บอกยังรักษาศีลดูนิ่งขึ้น อ้างติดถ่ายละครอดเจอหน้าฝ่ายชายก่อนบินเรียนต่อนอก ลุ้นชุดเพื่อนเจ้าสาวเสร็จทันไปงานแต่ง “พอลล่า” ส่วนงานวิวาห์ตัวเองขำๆ ตายด้านไปแล้ว

ปีก่อนได้ฉายา “แอ๊บแบ๊วจอมฉก” แต่มาปีนี้นางเอกสาว “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” ไร้วี่แววติดโผฉายาดาราของสมาคมนักข่าวบันเทิง พอเจ้าตัวทราบข่าวก็ได้แต่หัวเราะ บอกไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีที่ไม่ติดโผ ชมฉายา “พ่อฟิล์มฉึกฉึก” ของทิด “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” น่ารักดี

“ที่เจนี่ไม่มีฉายาในปีนี้ ก็จะดีใจหรือเสียใจดี (หัวเราะ) เจนี่ควรจะเป็นไงดี พี่ช่วยบอกหน่อย (หัวเราะ) ถามว่าโล่งใจไหม ก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี แต่เท่าที่ได้ยินฉายาคนอื่น เจนี่ว่าดูเป็นอะไรที่น่ารักดี แซวๆ กันมากกว่า เหมือนเล่นๆ ก็เห็นฉายาฟิล์มเหมือนกัน เจนี่ก็เอ๊ะ...มันแปลว่าอะไร คือเอามาจากคำในโฆษณาใช่ไหม น่ารักดี (หัวเราะ)”

“ฟิล์มสึกแล้วก็มีโอกาสได้คุยกันค่ะ เห็นเขาบอกได้อะไรเยอะ แต่เจนี่ไม่ได้ถามรายละเอียดว่าเป็นยังไง เหมือนเขายังอยู่ในศีลอยู่ เขาก็โทร.มาเล่าให้ฟัง พอเขาสึกปุ๊บโทร.มาหาเจนี่เลยมีคนจับตามอง อืม...ก็เหมือนเราเป็นเพื่อนกัน ปกติเจนี่ก็ปฏิบัติธรรมบ้าง ก็ปฏิบัติค่อนข้างสม่ำเสมออยู่แล้ว เขาก็ไม่ได้ชวนไปปฏิบัติธรรมที่ไหน หรือไม่ได้สอนหรือให้แง่คิดอะไร ไม่มีเลย (หัวเราะ) จากที่ได้คุยก็ดูเขานิ่งๆ ดีค่ะ ยังรักษาศีลอยู่ ส่วนที่เขาจะบินไปเรียนต่อเจนี่ก็ยังไม่รู้เลย ถามว่าจะนัดเจอกันไหม ตอนนี้เจนี่ถ่ายละครทุกวันเลยค่ะ”

ส่วนที่เพื่อนซี้ “พอลล่า เทเลอร์” กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับแฟนหนุ่ม “เอ็ดเวิร์ด บัทเทอรี่” ช่วงเย็นวันนี้ (22 ธ.ค.) ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล “เจนี่” บอกกำลังลุ้นให้ชุดเพื่อนเจ้าสาวของตนเสร็จทันเวลางาน ส่วนงานแต่งตัวเองตายด้านไปแล้ว

“ชุดเพื่อนเจ้าสาวจนวินาทีสุดท้ายยังไม่เสร็จเลย รอมาสองรอบแล้ว เขาบอกให้ไปรับก่อนเข้างานเลยค่ะ (หัวเราะ) ที่ไม่เสร็จ เพราะมันติดตรงที่ช่างคนเดียวทำ แต่เขาตัดให้หลายคน ชุดจะหรูหราอลังการแค่ไหนก็ให้ไปรอดูในงาน ส่วนเรื่องปาร์ตี้สละโสดก็เรียบร้อยไปแล้วเมื่อคืน สนุกค่ะ”

“ส่วนงานแต่งของตัวเอง เจนี่ ว่า มันตายด้านไปแล้ว (หัวเราะ) มันเลยจุดนั้นมาแล้ว คิดจนไม่คิดแล้วค่ะ เฉยๆ แล้ว ปีใหม่เพื่อนๆ ไปเป็นคู่กันหมด เราก็เป็นคี่ค่ะ (หัวเราะ) เจนี่ยังไม่รู้จะไปเคาท์ดาวน์ที่ไหน อาจจะไปแทรกเพื่อนคนใดคนหนึ่ง คนไหนยินดีให้ไปก็ไป จริงๆ นะไม่นานาก็พอลล่าคู่ไหนคู่หนึ่งค่ะ แต่นานาโดนบ่อยแล้ว เอาพอลล่าบ้าง (หัวเราะ)”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

“กฤษณ์” ไม่สะท้านฉายา “ปลิงปากหวาน” โต้ทำคุณไสยฯ-ขู่แบล็คเมล์ “มาช่า”

“กฤษณ์” หุบปากได้ฉายา “ปลิงปากหวาน” อ้างรู้เป็นธรรมเนียม โต้ทำคุณไสยฯทำของใส่ ทั้งยังขู่แบล็คเมล์ “มาช่า” แขวะไม่ใช่หนังฮอลลีวูด ถ้าทำจริงคงต้องไปแข่งอาจารย์หนูแล้ว แจงเหตุม่ายสาวนิ่งวันแถลง เพราะเหนื่อยกับการทำงาน

ไม่พลาดที่จะติดโผได้รับฉายาประจำปีนี้ไปกับเขาด้วย สำหรับดีเจหน้าตี๋ “กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์” จากกรณีข่าวฉาวโฉ่เลิกกับม่ายสาว “มาช่า วัฒนพานิช” เพราะเรื่องเงิน ดีเจหน้าตี๋เลยได้ฉายา “ปลิงปากหวาน” เป็นของขวัญรับปีใหม่สักดอก แต่เจ้าตัวขอหุบปากไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ในเรื่องนี้ อ้างเข้าใจเป็นธรรมเนียมที่ต้องมีฉายาดาราทุกปี

“ฉายาก็ได้ยินแล้วครับ แต่ไม่ขอออกความคิดเห็นแล้วกัน ผมเฉยๆ ไม่อยากพาดพิงหรือแสดงความคิดเห็นอะไร ก็เข้าใจว่าการตั้งฉายามีขึ้นทุกปี เป็นธรรมเนียมอยู่แล้ว อยู่ตรงนี้ผมรู้อยู่แล้วว่าต้องมี อ่านข่าวก็เข้าใจ ผมไม่ดูด้วยว่าที่มาของฉายามาจากไหน คือคนอื่นอาจจะตื่นเต้นกับฉายาที่ได้รับ แต่ผมอ่านข่าวบันเทิงมาเยอะ เลยคิดว่ามันเฉยๆ เราก็ไม่เคยคิดนะว่าจะติดโผและได้ฉายา แต่ก็เข้าใจว่าคนที่ติดก็คงเป็นคนที่อยู่ในกระแสข่าว ส่วนคุณช่ายังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ แต่เขาก็ทราบแล้ว”

โต้เล่นคุณไสยฯทำของใส่ “มาช่า” พร้อมแบล็คเมล์ขู่จะแฉกลับ เป็นเหตุทำให้ม่ายสาวดูนิ่งและพูดน้อยในวันแถลงข่าวคู่กัน

“ถ้าผมทำของได้ ผมก็ไปแข่งกับอาจารย์หนูแล้ว (หัวเราะ) ไม่หรอกครับ ไม่ได้มีของอะไร ปกติดี ที่คุณช่านิ่งๆ เพราะเวลาที่เป็นงานอะไรแบบนี้ เขาก็จะเฉยๆ ครับ เราก็ไม่อยากจะไปออกอารมณ์ จริงๆ แล้วเราสองคนไม่ได้รู้สึกอะไรกับข่าวที่เกิดขึ้น ไม่ได้เครียด เพราะเราก็อยู่ในวงการมานานแล้ว เราเข้าใจมากกว่าว่าอะไรเป็นอะไร ก็พยายามแก้ไขและทำออกมาให้ดีที่สุด”

“ส่วนที่บอกว่าผมจะแบล็คเมล์ คุณช่าเลยพูดน้อยและต้องแถลงข่าวอย่างนั้น คือคงไม่ใช่หนังฮอลลีวูด มีแบล็คเมล์อะไร ไม่มีหรอกครับ ผมว่ามันลิเกไปหน่อย ที่คุณช่าดูนิ่งมากวันแถลงข่าวคงเพราะพักผ่อนน้อยด้วย เขาทำงานเยอะ เราก็คงไม่จำเป็นต้องทำหน้าร่าเริงอะไร เพราะจริงๆ เนื้อเรื่องมันไม่ได้มีอะไร หลักฐานก็บ่งบอกแล้ว ก็เป็นคำตอบอยู่แล้วว่าอะไรคืออะไร เราก็โชว์ทุกอย่างให้เห็นแล้ว ผมว่าดูที่การสัมภาษณ์หรือหน้าตาเป็นเรื่องรองดีกว่า ความจริงเป็นยังไงเป็นเรื่องสำคัญ”

“ถามว่าเราจบกันด้วยดีหรือเปล่า จริงๆ เราไม่ได้จบด้วยดีนะครับ เพราะไม่ได้มีอะไรกัน ผมย้ำไปหลายทีแล้วว่าเราสองคนไม่ได้ทะเลาะกัน แต่สิ่งที่ออกไปผมว่ามันเป็นสัจธรรมของวงการบันเทิง เราก็เข้าใจ บางคนก็บอกว่าเราจะมาเคลียร์กัน คือเราไม่ได้เคลียร์กัน เพราะเราไม่ได้ทะเลาะกัน หลายคนก็ผิดหวังนะครับนึกว่าเราจะตีกัน (หัวเราะ) เลยเซ็งเลย ไม่มีข่าวเล่นเลย ก็เราไม่ได้ทะเลาะกันนะครับ อยากจะย้ำ”

ส่วนความสัมพันธ์กับดาราสาว “รัน ณัทธมนกาญจน์ ศรีนิกรโชติ” ที่มีคนตาดีเห็นควงกันไปเที่ยวเชียงใหม่ และวันนี้ก็มาร่วมงานกิจกรรมเลี้ยงปีใหม่ให้กับทหาร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับบาดเจ็บ ที่รพ.พระมงกุฎฯ ด้วยกัน ดีเจหน้าตี๋ตอบเพียงสั้นๆ ว่า

“ผมไม่รู้นะว่าน้องรันมา ก็เพิ่งรู้ แต่ผมกับรันไม่มีอะไรนะ อย่าไปจับโยงกันเลย เดี๋ยวจะมาเลอะเทอะไปกันใหญ่”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

“รัน” ทำตัวไม่ถูกป๊ะ "กฤษณ์" ยันไม่ฉกแย่งจากอก "มาช่า"

“รัน” ยันไม่ใช่มือที่ 3 ฉก “กฤษณ์” จาก “มาช่า” ควงลั้นลาเชียงใหม่ เผยไม่รู้จักฝ่ายชายเป็นการส่วนตัว ทั้งตนไม่ได้ไปเชียงใหม่เลย คาดคงเป็นคนหน้าคล้ายที่ดีเจตี๋ควงไป รับทำตัวไม่ถูกต้องป๊ะหน้าอีกฝ่าย หวั่นเป็นประเด็นไม่เลิก วอนจบเพราะข่าวทำตนเสียหาย

งานเข้าดาราสาว “รัน ณัทธมนกาญจน์ ศรีนิกรโชติ” อย่างจัง หลังมีคนตาดีระบุว่า เห็นเธอควงดีเจหน้าตี๋ “กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์” ไปลั้นลาเที่ยวเชียงใหม่ หลังฝ่ายชายเพิ่งประกาศเลิกม่ายสาว “มาช่า วัฒนพานิช” อย่างเป็นทางการ ทำให้สาวรันเจอข้อหาเป็นมือที่ 3 ทันที และวันก่อนดาราสาวได้ไปร่วมงานเดียวกันกับดีเจหน้าตี๋ ในงานกิจกรรมเลี้ยงปีใหม่ให้กับทหาร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับบาดเจ็บ ที่รพ.พระมงกุฏฯ เลยทำให้ถูกจับตามองจากสื่อมากเป็นพิเศษว่า ทั้งคู่จะมีปฏิกิริยาต่อกันอย่างไร แต่ปรากฏต่างฝ่ายต่างทำเชิดใส่เหมือนมองไม่เห็นกันซะงั้น ผู้สื่อข่าวจึงไปสอบถามรันถึงความสัมพันธ์กับกฤษณ์ เจ้าตัวชี้แจงให้ฟังว่า

“รันทราบว่าเรามีข่าวด้วยกัน แต่ไม่ทราบว่าพี่เขามาร่วมงานด้วยกัน จะบอกว่ามันเป็นข่าวที่ไม่น่าจะมีมูลเลย เพราะรันไม่เคยไปเชียงใหม่กับพี่กฤษณ์ แค่เคยเจอกันที่งาน แล้วก็ไม่เคยรู้จักนอกจากการทำงานด้วยกันค่ะ สันนิษฐานว่าที่มีข่าวออกมาน่าจะเป็นวันที่รันไปช่วยขายไอศกรีมที่งาน EFM แล้วพี่เขาต้องไปร่วมงานอยู่แล้ว อาจจะเป็นตอนนั้นมั้งคะที่พี่เขาเดินเข้ามาคุยด้วยหน้าบูธ อาจจะเป็นภาพนั้นหรือเปล่า มีคนถ่ายภาพนั้นไปแล้วก็ไปสันนิษฐานว่า เฮ้ย...ไปเจอกันข้างนอกหรือเปล่า ซึ่งต้องบอกว่าไม่เคยเจอข้างนอกค่ะ เจอกันในงานแค่นั้นเอง”

“พอมีข่าวออกมาว่าเราไปเชียงใหม่ด้วยกัน ก็ยอมรับว่างงค่ะ จริงๆ ตอนแรกเห็นข่าวก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องเป็นราวอะไรขนาดนั้น คิดว่าสงสัยจะเป็นการเขียนแบบแซวเล่นๆ เพราะรันเคยโดนกรณีนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่บอกแล้วกันว่าเป็นใคร แต่เป็นกรณีว่าเห็นรันไปงานกับพี่คนหนึ่ง ซึ่งเขาเพิ่งเลิกกับคนหนึ่งมา แต่สุดท้ายผลสรุปคือไม่ใช่รัน แต่ เป็นคนหน้าคล้าย รันก็ถือว่าโอเคไม่เป็นไร เพราะมันไม่ใช่อยู่แล้ว แต่ว่าครั้งนี้มันกลายเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องเลย เพราะไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว”

“และจริงๆ รันไม่ได้ไปเชียงใหม่เลย ช่วงนี้รันอยู่กรุงเทพฯ แล้วก็มีไปทำงานที่ลำปาง แล้วก็ไปเชียงคาน แต่ไม่ได้ไปเชียงใหม่เลยแน่นอน คงจะเห็นใครที่หน้าคล้ายรันหรือเปล่า รันว่าถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง เดี๋ยวก็เงียบไปเอง แต่ว่าไม่อยากให้เป็นประเด็นขึ้นมา เพราะพี่เขาก็มีข่าวค่อนข้างแรงอยู่แล้ว รันว่าพี่กฤษณ์ก็คงอยากจบข่าวเรื่องผู้หญิง รันก็ไม่อยากให้เป็นข่าว เพราะพอมันเสีย เราก็เสียด้วย มันก็กลายเป็นมือที่สาม ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่ค่ะ ไม่รู้จักพี่กฤษณ์เป็นการส่วนตัวค่ะ”

ยอมรับหลังมีข่าวเกิดขึ้นทำให้วางตัวไม่ถูกกับ “ดีเจกฤษณ์” เพราะหวั่นเป็นประเด็นต่อเนื่องไม่จบสักที

“ก่อนหน้านี้รันเจอพี่เขาที่งาน ก็คุยกันนะ ก็สวัสดี แต่ว่าพอมีข่าวขึ้นมา รันก็เลยไม่รู้จะต้องทำตัวยังไง ถึงจะไม่ให้มันกลายเป็นเรื่องต่อไป ถ้าเกิดเราเดินไปสวัสดีเนี่ย มันจะกลายเป็นประเด็นต่อหรือเปล่า พี่ๆ จะถ่ายรูปกันไปแล้วจะกลายเป็นเรื่องต่อไป รันก็อยากจะให้มันจบ และรันเชื่อว่าพี่กฤษณ์ก็คงไม่อยากจะให้มีข่าวเรื่องนี้หรอก”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

“ขวัญ” ปล่อยลูกนายพล แค่คนผ่านมาแล้วผ่านไป

“ขวัญ” โต้หลบมุมสวีตหนุ่ม แจงเป็นเพื่อนในกลุ่มที่กำลังมีปัญหา ยันไม่ใช่ “เอ” ลูกชายนายพล บอกสื่อให้ปล่อยอย่าพูดถึงฝ่ายชายอีก เหตุเฟดตัวออกห่างกันแล้ว ลั่นเป็นคนดีแต่ไม่ใช่สำหรับตน โวตอนนี้เป็นผู้หญิงสวยและโสดเหมือนเดิม


ห่างหายจากข่าวหนุ่มๆ ไปนาน แต่ก่อนจะหมดปีนี้นางเอกสาว “ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์” ยังไม่วายขอทิ้งทวนมีข่าวกับหนุ่มให้กระชุ่มกระชวยหัวใจสักหน่อย ซึ่งล่าสุดมีตาดีเห็นขวัญควงหนุ่มไปนั่งหลบมุมสวีตที่ลานแอบโซลูทพาร์ค พารากอน หลายคนเลยเพ่งเล็งว่า จะใช่ลูกชายนายพลนามว่า “เอ” ที่มีข่าวกำลังกระแซะหัวใจนางเอกสาวอยู่หรือเปล่า แต่งานนี้ขวัญได้ออกโรงโต้ยันไม่ใช่เอ แต่เป็นเพื่อนในกลุ่มที่กำลังมีปัญหามาให้เธอช่วยเคลียร์

“อ๋อ ไม่ใช่หนุ่มค่ะ แต่เป็นเพื่อน คือขวัญเรียนจบแล้วทำงานเต็มที่ ก็เลยขอเวลาพักผ่อนบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายนะ เพื่อนกันหมด ที่เขาบอกว่ามีคนเห็นไปแอบยืนคุยกับหนุ่มตอนงานเลิกแล้ว มันไม่มีอะไรเลยค่ะ คุยกันเฉยๆ คนนั้นเป็นเพื่อนขวัญ เป็นเพื่อนในกลุ่มที่อยู่มาด้วยกัน รู้จักกันมาตั้งนานแล้ว ก็เลยนัดเจอกัน วันนั้นก็ไม่ได้แอบไปคุยกัน คือเรามีปัญหากันในกลุ่มแล้วก็ต้องเคลียร์กัน แต่มันไม่ใช่เรื่องของขวัญ เป็นเรื่องของเพื่อนๆ แล้วขวัญเป็นคนกลาง เราก็ทำหน้าที่ช่วยปรับความเข้าใจให้ มันเป็นปัญหาของเด็กทั่วๆ ไป ก็ต้องมีทะเลาะกันบ้าง แต่มันก็ไม่เชิงทะเลาะกัน เป็นการคิดมากมากกว่า”

เมื่อผู้สื่อข่าวซักต่อว่า สรุปเพื่อนชายคนนั้นไม่ใช่ “เอ” ลูกชายนายพล นางเอกสาวรีบแย้งทันที

“พี่เอก็ไม่ได้อะไรกับขวัญมากมาย คือตอนนี้ไม่มีใครสำคัญกับขวัญมาก เท่าครอบครัวและเพื่อนอีกแล้วค่ะ ส่วนข่าวที่ออกมาว่าแม่ปลื้มพี่เอมาก คือแม่ขวัญจะปลื้มกับทุกคนที่ดีกับขวัญ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง ทอม ดี้ ใครดีกับขวัญ แม่ขวัญก็ดีกับทุกคน ไม่ได้มีใครที่ให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ”

“กับพี่เอขวัญว่าปล่อยเขาไปเถอะ เพราะเขาก็ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปค่ะ ก็เหมือนเรารู้จักกับพี่คนหนึ่ง ถามว่ามีปัญหากันหรือเปล่า ก็ไม่ใช่แบบนั้น แต่เป็นเรื่องที่ตอบไม่ถูก พอคุยมาถึงจุดหนึ่งแล้วมันไม่ใช่มากกว่า ไม่มีใครถอยออกไปก่อน ต่างคนต่างเฟดออกไปเอง เพราะรู้ว่าไม่ใช่ พี่เอเป็นผู้ชายที่ดี แต่ไม่ใช่ที่ดีสำหรับขวัญ คนเราไม่มีใครสีดำหรือสีขาว ทุกคนคือสีเทา ถามว่าทุกวันนี้ได้คุยกันไหม คุยก็ได้ ไม่คุยก็ไม่เป็นไร”

“ถามว่าไม่คุยกับเขามานานหรือยัง อันนี้ไม่ทราบ เพราะเขาไม่ได้สำคัญถึงขนาดว่าขวัญต้องมาคอยนับวัน คือคุยก็ได้ ไม่คุยก็โอเค ตอนนี้ก็โสดสนิทเหมือนเดิม ขวัญยังเป็นผู้หญิงสวยและโสดเหมือนเดิม (หัวเราะ) คือตอนนี้ขวัญมีครอบครัว งาน เพื่อน เรียนจบแล้วขวัญก็ขอให้เวลากับครอบครัว กับตัวเอง กับเพื่อน ขวัญว่าความรักแบบนี้มันบริสุทธิ์มากกว่า”

เผยมีหนุ่มเข้ามาจีบเรื่อยๆ แต่จะเลือกคุยกับเฉพาะที่เข้ามาดี โดยมีคนรอบข้างช่วยสกรีนให้

“เรื่องหนุ่มมาจีบ ก็คุยเรื่อยๆ คนไหนมาดีขวัญก็คุย คนไหนมาไม่ดีขวัญก็ไม่คุย ก็ไม่ได้เลือก แต่อยู่ที่คนรอบข้างมากกว่า ไม่ใช่ว่าใครจะเข้ามาหาเราได้ทุกคน อย่าพูดเรื่องผู้ชายเลย เปลี่ยนเรื่องดีกว่า(หัวเราะ)”

ชอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

หวิดตายคา “ตอ” /ซ้อ 7

เห็น “ม่ายจิ๋มเหล็ก” ควง “ตี๋ตาส่อน” ออกมาพล่ามผ่านสื่อแล้วอยากจะตบให้จิ๋มแยก หนอย…ขนหงอกไม่รู้กี่เส้นแล้ว ยังแหลไม่จบไม่สิ้น พวกตูไม่ได้กินหญ้านะว้อย

อย่างที่ซ้อขี้โม้ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เรื่องมันแดงเพราะความโง่ของม่ายจิ๋มเหล็ก ที่ดันเมาแล้วปากหมาแฉผัวตัวเอง ไม่อย่างนั้นคนนอก เค้าจะไปล่วงรู้เรื่องภายในช่องคลอดได้ไง จริงมะ กะว่าจะฉงฉานซะหน่อย ที่ต้องมาโดนผัวแมงดาแทงทั้งข้างหน้าแทงทั้งข้างหลัง แต่พอเห็นลีลาสะบัดสะบิ้งของอีที่ตีหน้าเป็นออกทีวี แล้วโยนขี้ให้คนอื่นว่าเป็นคนใส่ร้ายป้ายสีตี๋ตาส่อนแล้วจะอ้วก

เชอะ แม่คนดี แม่ไม่ชอบแฉคนอื่น……….

แล้วใครกันฟะ ที่โทรศัพท์ไปย้ำกับนักข่าวตอนตีสองอีกว่า มันขู่อย่างนั้น มันเลวอย่างนี้ แล้วยังมีการบอกให้ช่วยไปบอกนักข่าวให้เขียนด่าเยอะๆ แถมยังร้องห่มร้องไห้สะอึกสะอื้นยังกะผัวไม่เอาเป็นเดือน ทั้งๆ ที่ตอนโทร.มาตัวเองก็กกไข่ผัวฝรั่งอยู่คาปาก ดีนะที่โทร.มาตอนตีสอง นักข่าวคนนั้นเลยตั้งตัวไม่ทันเลยไม่ได้อัดเสียงไว้ ไม่อย่างนั้นคงมีเสียงริงโทนเวอร์ชัน โอ้วเยสๆ 55555

แล้วนี่ ไม่ใช่จะรั่วตอนเมาเท่านั้นนะ ขนาดหายเมาแล้วเจ๊แกยังเลวได้อีก แทนที่พอมีสติจะนึกอายตัวเอง แต่เปล่าเลย กลับโทร.ไปเล่นงานนักข่าวซะงั้น ทำไมลงข่าวเบา เสียของชิบเป๋ง นี่ถ้าเป็นหนังสือพิมพ์คู่แข่งคงบ้าจี้กว่านี้เยอะ ว่าแล้วอีก็วางโทรศัพท์ใส่หูไปด้วยความหงุดหงิด ทำเอาปลายสายเกาหัวแกรกๆ เพราะเง็งอารมณ์ม่ายจิ๋มเหล็ก

เห็นรึยังว่า ม่ายจิ๋มเหล็กมันเน่าตั้งแต่ปากบน ยันปากช่องคลอดเลยเจงๆ เรื่องของหมาสองตัวกัดกัน แล้วนักข่าวเป็นหมา!!

หญิงก็ร้าย ชายก็เลว นรกจัดสรรชัดๆ

ว่ากันว่า มีสองเหตุผลสำคัญที่ม่ายจิ๋มเหล็กรีบเปลี่ยนสีเป็นสัตว์เลื้อยคลาน เอ้ย เป็นจิ้งจก เหตุผลแรกเพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวโดนตี๋ตาส่อนขู่จะเอาคลิปอุบาทว์ออกมาประจาน ซึ่งไม่ใช่เรื่องเซ็กซ์เทปเหมือนดาราคนอื่นๆ เพราะรุ่นนี้แล้ว ลูกเต้าก็มี แถมประวัติก็แสนจะโสมม พูดง่ายๆ ว่า มั่วมากี่ร้อยผัวคนเค้ารู้จนชิน ฉะนั้นเรื่องแค่นี้ทำอะไรหล่อนไม่ได้

แต่ที่ทำเอาม่ายจิ๋มเหล็กสะดุ้ง เพราะอีไม่ได้ติดเซ็กซ์อย่างเดียว แต่ยังเคยติดยามาก่อนด้วย เรื่องนี้บรรดาผัวๆ ของม่ายจิ๋มเหล็กรู้ดี รวมไปถึงตี๋ตาส่อน ฉะนั้น ถ้าเรื่องนี้เล็ดลอดออกไปเมื่อไหร่ อนาคตในวงการบันเทิงคงชิหายยิ่งกว่าตอนแรดจนท้อง

โดนผัวเก่าจะแบล็กเมล์แบบนี้ ถ้าหล่อนเจียมตัวกว่านี้ก็คงจะมีคนเห็นใจอยู่หรอก เพราะเป็นถึงระดับตำนานวงการบันเทิง แต่ต้องตกที่นั่งหอยกระเจิงเพราะความเสี้ยนของตัวเอง รู้ถึงไหนอายเค้าถึงนั่น พูดแล้วก็อยากจะขำให้ขี้แตกว่ะ ก๊ากๆๆๆ

ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำเอาจิ๋มสะเทือน ก็เพราะงานนี้ตี๋ตาส่อนเล่นกำลังภายใน ใช้วิชาลิ้นสว่านง้างขาอ่อน “เจ๊ใหญ่” จนเข่าอ่อน เอ้ย ใจอ่อน …ก็แหมวัวเคยค้าม้าเคยขี่นี่หว่า

งานนี้ตี๋ตาส่อนก็เลยให้เมียเก่าที่เป็นถึงระดับผู้บริหารที่ชี้เป็นชี้ตายได้จัดการให้ นอกจากจะอ้อนจนได้สิทธิ์เปิดห้องให้ใช้เป็นสถานที่แก้ตัวแล้ว เมียเก่าแอนด์แก่ก็ยังไปกดดันผู้บริหารคนอื่นๆ ของม่ายจิ๋มเหล็ก เพื่อบีบให้ม่ายจิ๋มเหล็กจบเรื่องนี้แบบสวยๆ พูดง่ายๆ ว่าถ้าไม่ออกมาแก้ข่าว คราวหน้าก็เตรียมไปแหกปากเปิดนมให้ควายฟังกลางทุ่งนาโน่น ชิ้วๆ

จากที่เคยจิกด่าตี๋ตาส่อนกับนักข่าวว่า “ไอ้แมงดา” มันก็เลยออกมาเป็น “ดาร์ลิ้ง” อย่างที่เห็น

จะว่าไปก็แอบสมเพช เพราะเงินที่ถูกยืมไปก็ไม่รู้จะได้คืนรึเปล่า เห็นรอยตีนกาบนใบหน้าแล้วก็รู้ทันทีเลยว่าเจ๊แกกำลังเครียดหนัก ป่านนี้คงนอนเอาตีนก่ายหน้าผาก เพราะถ้าไม่มีงานทำ แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปทำรีแพร์ล่ะว่ามะ อิอิ

จะว่าไปแล้ว ปีนี้ดาราเสียหมาเพราะเรื่องทางเพศเยอะเป็นประวัติการณ์ เรียกว่า ตั้งแต่ต้นปียันสิ้นปีมีเรื่องออกมาประจานกันทั้งปี หน้าเก่าๆ เจ้าประจำก็มี ขณะที่หน้าใหม่ฉาวฝึกหัดก็เยอะไม่แพ้กัน ล่าสุด ที่ซ้อคันปากอยากโม้มากก็เรื่องกิจกรรมทางเพศของ “อีเตี้ยนักซิ่ง” กับผัว “ผัวฮิปฮอป” ขอบอกว่า โอ้วมายก็อด เลยล่ะ คริคริคริ

จุดเริ่มต้นที่ทำให้คู่นี้มาสปาร์กกันได้ ก็เพราะอีกคนเป็นพิธีกร ส่วนฝ่ายชายก็เป็นนักร้อง ก็เลยเป็นธรรมดาที่ทั้งคู่จะต้องโคจรมาป๊ะกัน แต่ตอนแรกที่ตกลงคบหา ด้วยความที่ฝ่ายหญิงชอบแอ๊บว่าเป็นคนไม่ทันคนอย่างโน้นอย่างนี้ จนเพื่อนฝูงเป็นห่วงคัดค้านไม่อยากให้คบ หนึ่งในนั้นก็คือ “นางเอกแอ๊บแบ๊วตาเหล่” ที่เป็นตัวตั้งตัวตีคอยเป็นไม้กันหมาให้ตลอด แต่ตอนหลังชักต้านพลังจรวดฮิปฮอปไม่ไหว นางเอกแอ๊บแบ๊วตาเหล่ก็เลยเปลี่ยนแผนใหม่ ในเมื่อห้ามเพื่อนไม่ได้ก็ขอรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาแทน ไม่ว่าจะเรื่องรักหรือเรื่องเซ็กซ์นางเอกแอ๊บแบ๊วเป็นเทรนให้หมด

ก็อย่างว่าแหละ คนมันเคย “กรำตอ” มาอย่างหนักประสบการณ์มันก็ย่อมจะปึ้กกว่า ไม่งั้นจิ๊มิ๊จะดำขนาดนั้นหรอ 555555

ส่วนอีเตี้ยนักซิ่งนี่ก็ทำตัวน่าหมั่นไส้ แหม ทำเป็นใส ที่ไหนได้ก็ขาตะลุยดงกล้วยกับนางเอกแอ๊บแบ๊วมาก่อนเหมือนกันล่ะว้า พอได้ดีมีผัวเป็นฮิปฮอปมันก็เลยเหมือนม้าคึกมาเจอกัน เพราะฝ่ายชายก็ใช่ย่อย นอกจากจะโย่วเก่งแล้ว ก็ยังชอบเล่นยานรก เวลาจะโชว์ทีก็โด๊ปทีเพื่อให้ร่างกายมันคึกคักแฟนคลับเห็นจะได้สนุกสนานตามไปด้วย แต่งานนี้คนที่ไม่สนุกเห็นจะเป็นอีเตี้ยนักซิ่ง

คนที่มีผัวติดยาคงรู้ดีว่า เวลายาเสพติดบางประเภทมันออกฤทธิ์ตะบวยมันคึกแค่ไหน กระทุ้งทีจุกถึงลิ้นปี่ แทนที่จะได้ขึ้นสวรรค์มันกลับเหมือนโดนรถสิบล้อทับยังไงอย่างนั้น แต่จะดีจะเลวก็ผัวตัวเอง บ่นมากเดี๋ยวมันประท้วงไม่ออกอาวุธขึ้นมา จะซวยเอาเปล่าๆ ว่าแล้วอีเตี้ยนักซิ่งก็เลยต้องหวานอมขมกลืนมาตลอด

แต่อย่างว่า น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน แต่นี่เนื้ออ่อนมันจะไม่ฉีกได้ยังไง และแล้ววันนึงชะตาจิ๋มก็ขาด หลังจากโชว์เสร็จผัวฮิปฮอปก็บึ่งรถกลับบ้านเป็นปกติ แต่ไม่รู้เทคยามาหนักเกินขนาดรึเปล่า วันนั้นก็เลยคึกเป็นม้าตกมัน ว่าแล้วพอเปิดประตูห้องนอนเข้าไปได้ นักร้องฮิปฮอปก็กระโดดคร่อมเมียทั้งตัว ก่อนจะถอดกางเกงตามด้วยจับขาเมียถ่าง แล้วก็รัวชุดใหญ่ยังกะยิงเอ็ม 16 รู้ตัวอีกที เมียสุดที่รักก็นอนตาเหลือกคางเหลืองอยู่บนเตียง ไม่พูดไม่จา กว่าจะตั้งสติได้ จิ๋มเจ้ากรรมมันก็บวมเป่งยังกะไปทำโบท็อกซ์ ด้วยความตกใจทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายก็เลยต้องพากันไปโรงพยาบาลกลางดึก ถึงได้อันเดอร์สแตนด์ว่า ไอ้ที่มันบวมเพราะมันทนแรงกระแทกไม่ไหวนั่นเอง เล่นเอาอีเตี้ยกับผัวฮิปฮอปอายหมอจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี

ทีนี้คงจำจนวันตาย ขึ้นชื่อว่ายานรก แล้วมันจะทำให้ขึ้นสวรรค์ได้ยังไง...เข้าใจ๋!?

ขอบคุณบทความซ้อ7 จากผู้จัดการออนไลน์

วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553

คลิปวีดีโอ Wonder Girls แสดงที่โรงพยาบาล Samsung Medical Center

Donghae และ Ryeowook ปล่อยเพลงประกอบละคร “It’s Okay, Daddy’s Daughter” ออกมาแล้ว

ตัวอย่างหนังใหม่ Love รัก

ตัวอย่างหนังเข้าใหม่หนังก่อนโรงจาก www.youtube.com
ชื่ออังกฤษ Love

ชื่อไทย รัก
ประเภทหนัง Romantic/Comedy
ผู้กำกับ ชัชวาล วิศวบำรุงชัย
ผู้แต่ง -
วันที่เข้าฉาย 03 February 2011
ความยาวหนัง -
นักแสดง ซอนย่า คูลลิ่ง, บิลลี่ โอแกน, อชิตะ สิกขมานา, คณิตกุล เนตรบุตร, วทัญญู นิวัติศัยวงศ์, โกเมน เรืองกิจรัตนกุล, จรินยา อักษรนันทน์, สุรเกียรติ บุนนาค, วัฒนา ชุมสาย ณ อยุธยา, ธัญนันท์ ทองศรีธนพงษ์


Love รัก | เรื่องย่อ
โน้ต (โกเมน เรืองกิจรัตนกุล) กำลังวางแผนขอ น้ำ (จรินยา อักษรนันทน์) แต่งงาน ทั้งคู่วาดฝันที่จะมีพิธีวิวาห์ ณ รีสอร์ทริมชายหาดหัวหินอย่างเรียบง่าย โดยมี คุณหนึ่ง (บิลลี่ โอแกน) เจ้าของบริษัทโฆษณา เจ้านายของ น้ำ และภรรยาคือ คุณ วินนี่ (ซอนย่า คูลลิ่ง) เจ้าของรีสอร์ท อดีตนักแสดงผู้กำลังจะหวนกลับสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง เป็นโต้โผจัดงานสมรสให้อย่างพิถีพิถัน

คู่บ่าวสาวยังได้รับความช่วยเหลือจาก รุ่นน้องแสนซน พลอย (แพรว คณิตกุล) มาเป็นคนเก็บภาพวีดีโอเบื้องหลังของช่วงเวลาอันแสนอลหม่านก่อนงานวิวาห์นี้ พร้อมกับ ตั้ม (วทัญญู นิวัติศัยวงศ์) ตากล้องหนุ่มมาดเซอร์สุดยียวน ที่คอยป่วนหัวใจพลอยตลอดเวลา เรื่องราวของทั้งคู่วุ่นวายพอๆ กับ กาย (สุรเกียรติ บุนนาค) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของวินนี่ และหนึ่ง ที่ต้องโคจรมาเจอะ โบ้ท (อวบอ้วน วัฒนา ชุมสาย ณ อยุธยา) พ่อครัวหัวป่าก์ประจำรีสอร์ท

ด้วยความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย งานวิวาห์ที่มีคอนเซ็ปต์สุดแสนจะกิ๊บเก๋จาก ซูซี่ สาวหัวครีเอทีฟสุดเพี้ยน (อิม อชิตะ) ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ไปพร้อมๆ กับความรักจากอีกหลายคู่ที่เริ่มก่อตัวขึ้นไปพร้อมๆ กัน โดยว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวมือใหม่ยังต้องเผชิญกับบททดสอบหัวใจครั้งสำคัญ



Lee Na Young ยังไม่ได้รับค่าตัวจากบทของเธอใน “Fugitive”

Shin Sung Rok ไม่คิดว่า 187 ซม นั้นสูงมากเท่าไหร่

Baek Ji Young จะมาเป็นนักแสดงรับเชิญใน Secret Garden

Jang Jae In - Please (Athena OST)

Gain - Bad Temper

วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553

The Green Hornet เดอะ กรีน ฮอร์เน็ต

ตัวอย่างหนังเข้าใหม่หนังก่อนโรงจาก www.youtube.com
ชื่ออังกฤษ The Green Hornet

ชื่อไทย เดอะ กรีน ฮอร์เน็ต
ประเภทหนัง Action/Thriller
ผู้กำกับ Michel Gondry
ผู้แต่ง -
วันที่เข้าฉาย 03 February 2011
ความยาวหนัง -
นักแสดง Seth Rogen, Jay Chou, Christoph Waltz, Cameron Diaz, Edward James Olmos, Tom Wilkinson


The Green Hornet เดอะ กรีน ฮอร์เน็ต | เรื่องย่อ
บริตต์ รี๊ด(โรแกน) คือลูกชายของเจ้าจองสื่อรายใหญ่ที่วัน ๆ เอาแต่ปาร์ตี้ จนกระทั่งพ่อของเขา(วิลกินสัน) เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ บริตต์เลยต้องบริหารบริษัทขนาดยักษ์แห่งนี้ต่อจากพ่อ โดยมี เคโต้ ผู้ช่วยของพ่อที่เป็นเหมือนนักประดิษฐ์ที่มาทำงานช่วยเขา พวกเขาคิดว่านี่จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ปราบเหล่าอาชญากร แต่การที่จะทำอย่างงี้ได้พวกเขาจะต้องลงมือเองด้วยการเป็น กรีน ฮอร์เน็ต หรือ หน้ากากแตน

ด้วยทักษะที่มีเคโต้ได้สร้างรถติดตั้งอาวุธชื่อ เดอะ แบล็ค บิวตี้ เพื่อปราบเหล่าร้ายโดยเฉพาะ นอกจากนี้พวกเขายังได้ เลนอร์ เคส(ดิอาซ) เลขาคนใหม่ของบริตต์มาช่วยกันปราบผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังเหตุร้ายในเมือง แอลเอ นั่นก็คือ เบนจามิน ชัดนอฟสกี้(วอลตซ์) แต่ชัดนอฟสกี้เองก็เตรียมไม้เด็ดไว้รอรับแตนคู่นี้แล้ว




Jang Jae In ปล่อยมิวสิควีดีโอ ‘Please’ ประกอบละคร “Athena: Goddess of War” ออกมาแล้ว

Ga-In ปล่อยเพลง ‘Bad Temper’ ออกมาแล้ว

SidusHQ ปล่อยปฎิทินปี 2011 love project ออกมาแล้ว

Yoo Jae Suk ได้รับค่าจ้างที่ค้างอยู่จาก KBS

วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Secret Garden จะถูกนำมาทำเป็นนิยายและหนังสือการ์ตูน

ละครเรื่อง Queen of Reversals จะขยายออกไปอีก 10 ตอน

Eric ประสบความสำเร็จกับงานแฟนมีตติ้งที่ญี่ปุ่นท่ามกลางแฟน ๆ กว่า 2 พันคน

Bangkok Kung Fu บางกอกกังฟู

ตัวอย่างหนังเข้าใหม่หนังก่อนโรงจาก www.youtube.com
ชื่ออังกฤษ Bangkok Kung Fu

ชื่อไทย บางกอกกังฟู
ประเภทหนัง Action/Comedy
ผู้กำกับ ยุทธเลิศ สิปปภาค
ผู้แต่ง -
วันที่เข้าฉาย 03 February 2011



Bangkok Kung Fu บางกอกกังฟู | เรื่องย่อ
จากกลุ่มเด็กที่ถูกลักพา ตัวไป เพื่อเอาไปเป็นขอทาน รวมตัวกันหนีออกมาและได้พบกับอาจารย์กังฟูผู้เลิศล้ำ จนเติบใหญ่กลายเป็นสิงห์ด้วน เสือบอด จิ้งจอกอ่าง และจงอางตึง สี่ยอดฝีมือผู้กลับมาล้างแค้นมาเฟียขอทาน ร่วมสัมผัสอารมณ์แอ๊คชั่น มันส์ ฮา ได้ในภาพยนตร์กำลังภายในสุดแนว บางกอกกังฟู

เมื่อครอบครัวทั้งหมดของ เกร็ก และ แพม ซึ่งรวมถึง เควิน (โอเวน วิลสัน) อดีตคนรักของแพม ได้ร่วมกันจัดงานวันเกิดให้กับสองฝาแฝด เกร็กก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้แจ็คเชื่อว่า เขาเป็นผู้นำครอบครัวที่พึ่งพาได้ แต่ด้วยความเข้าใจผิดทั้งหลายทั้งปวง การแอบสอดแนม และภารกิจลับ เกร็กจะผ่านบททดสอบครั้งสุดท้ายของแจ็ค เพื่อดันตัวเองขึ้นเป็นผู้นำของครอบครัวคนต่อไปได้รึเปล่า...หรือเขาจะทำให้ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างทั้งคู่พังทลายไม่เป็นชิ้นดีกันแน่ล่ะ


“เปิ้ล ไอริณ” เคี้ยวหญ้าอ่อน รับภาพหลุดว่ายน้ำกับหนุ่มเป็นแฟน

“เปิ้ล” แจงภาพหลุดว่ายน้ำกับหนุ่ม เป็นแฟนที่คบหาดูใจมากว่า 3 ปี รับเคี้ยวหญ้าอ่อนเจอกันที่อังกฤษแล้วคลิก เผยเคยคุยอนาคตแต่งงาน แต่เปลี่ยนใจให้ฝ่ายชายสร้างฐานะก่อน และงานวิวาห์ไม่จำเป็นแล้ว ปัดทดลองใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน

หายหน้าจากหน้าจอและการตกเป็นข่าวไปนาน สำหรับนักแสดงสาวเซ็กซี่ “เปิ้ล ไอริณ ศรีแกล้ว” ซึ่งล่าสุดจู่ๆ เจ้าตัวก็มีภาพหลุดขณะกำลังว่ายน้ำกับหนุ่มวัยเอ๊าะโผล่ออกมา ซึ่งสาวเปิ้ลก็ยอมรับแต่โดยดีว่า หนุ่มในภาพเป็นคนที่กำลังดูใจอยู่ เป็นนักเรียนนอกที่คบกันมานานกว่า 3 ปีแล้ว

“ภาพหลุดในสระว่ายน้ำกับหนุ่ม ยังไม่เห็นจริงๆ นึกว่าโดนอำด้วยนะ แต่ว่าวันนั้นเราไปเป็นกลุ่มจริงๆ ไปพัทยาไปเดินแบบ คนที่เห็นในภาพก็เป็นคนที่คบอยู่ค่ะ คบกันมานาน 3 ปีแล้ว ดังนั้นจะไปว่ายน้ำด้วยกันมันก็คงไม่ผิด ถามว่าเอ๊าะไหมเขาอายุ 25 ก็น่าจะเอ๊าะนะ คือเปิ้ลไปเรียนที่อังกฤษก็น่าจะเจอนักเรียน เปิ้ลไปเรียนตอนที่อายุเยอะกว่าคนอื่น พอเจอกันเราก็คลิกกันค่ะ แต่ว่าเราคบกันมานานมากแล้ว 3 ปีครึ่งแล้วค่ะ”

“เราสองคนก็เคยคุยกันเรื่องอนาคต มีความรู้สึกว่าเราก็อยากลงหลักปักฐาน แต่พอกลับมาเมืองไทยแล้วก็มานึกว่า เขาก็เพิ่งเรียนจบ กลับมาก็อยากให้เขาสร้างฐานะก่อน แต่พอนานๆ ผ่านไปหลายปีเราก็รู้สึกว่าไม่เห็นต้องแต่งเลย ทำไมเราต้องเอาสถานะทางสังคมมาบีบคั้นตัวเองด้วย ผู้หญิงสมัยนี้ก็ดูแลตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องแต่งงานเพื่อที่จะมีชีวิตแบบให้ผู้ชายเลี้ยง เราก็ดูแลตัวเองได้ อยู่คนเดียวก็อยู่ได้ ทำงานไปเรื่อยๆ”

“คือตอนนี้เราคบกันเหมือนเพื่อนมากกว่า เราไม่กลัวกระแสสังคมจะหาว่าอยู่ก่อนแต่งหรืออะไร เพราะเราไม่ได้อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ไม่ได้เจอจะ 10 วันแล้ว เพราะตัวเปิ้ลเองก็มีโลกส่วนตัวเยอะ เราไม่ได้ตัวติดกันไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แต่บางทีไปต่างจังหวัดเขาก็จะอาสาขับรถไปให้แค่นั้น เพราะเขาก็เป็นห่วงเรา ซึ่งเปิ้ลก็ไม่ได้คิดอะไร ถ้าวันนึงมันถึงเวลาก็คงจะมีวันนั้นค่ะ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

แฟน ๆ Jung Yonghwa มอบอาหารให้สตาฟฟ์คอนเสิร์ต 1 คันรถ

รูปภาพชุดเครื่องแบบนักเรียนในละครเรื่อง “Dream High”!

Jay Park มอบเสื้อหนาวเป็นของขวัญพนักงานใน Sidus HQ กว่า 100 ตัว

“ยุ้ย” วอนจบ “ต้อง” แฉแย่ง “ธันญ์” เชื่อขำๆ จะดักตบ ด้านฝ่ายชายเฉไฉชอบ “ยุ้ย” มากกว่าเพื่อน

“ยุ้ย” เผยไม่โกรธ “ต้อง” แฉแย่ง “ธันญ์” วอนจบอย่าดึงตนเอี่ยว เพราะเป็นเรื่องนานมาแล้ว เชื่อพูดขำๆ จะดักตบ ยันยังร่วมงานได้ ส่วนสัมพันธ์กับ “ธันญ์” เป็นแค่เพื่อนที่ดี ด้านฝ่ายชายเฉไฉชอบ “ยุ้ย” มากกว่าเพื่อน บอก “ต้อง” เลิกกันแล้วยังตามแฉไม่มีประโยชน์ ต่อไปจะไปไหนก็เป็นสิทธิ์ของตน


นึกว่าเรื่องราวรักสามเส้าระหว่างนางเอกวิกหมอชิต “ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม” ที่เคยตกเป็นข่าวมือที่สามทำ “ต้อง ศุภัชญา รื่นเริง” รักล่มอดีตแฟน “ธันญ์ ธนากร” จะจบลงไปแล้ว เพราะ “ยุ้ย” ยันไม่มีเอี่ยว ส่วน “ธันญ์” ให้เหตุผลเลิก “ต้อง” เพราะตนไม่พยายามมากพอเลยถูกบอกเลิก แต่ล่าสุดจู่ๆ สาว “ต้อง” ก็เลิกแอ๊บแฉแบบเบรกแตกกลางรายการหนึ่งว่า ไม่ชอบ “ยุ้ย” เพราะแอบลักลอบคบ “ธันญ์” ซึ่งฝ่ายชายก็ยอมรับกับตนว่าชอบนางเอกสาวมากกว่าเพื่อน และเป็นคนที่ใช่ จึงทำให้ประเด็นรักสามเส้า “ยุ้ย-ธันญ์-ต้อง” กลับมาเป็นข่าวโด่งดังอีกครั้ง

และก่อนหน้านี้มีโอกาสเจอ “ต้อง” เจ้าตัวก็ยังยืนยันประกาศชัดเจนว่า ไม่ชอบ “ยุ้ย-ธันญ์” และเคยคิดจะดักตบ ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ตามติดไปสัมภาษณ์ “ยุ้ย” และ “ธันญ์” ในงาน “Dream Star Search 2010 ณ ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ลาดพร้าว” โดย “ยุ้ย” บอกว่าเป็นเรื่องเก่า วอนจบและอย่าดึงตนเอี่ยวอีกเลย

“ยุ้ยอยากจะบอกว่าเรื่องนี้มันผ่านมานานแล้ว และยุ้ยก็ไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้อง อย่าดึงยุ้ยเข้าไปเกี่ยวข้องเลยดีกว่า เพราะยังไงมันก็เป็นเรื่องของคนสองคน ซึ่งยุ้ยก็ไม่ได้โกรธอะไร เพราะเขาก็มีสิทธิ์ที่จะคิดแบบนั้นได้ การพูดอะไรเยอะมันไม่มีฝ่ายไหนจะดีเลย ก็อยากให้จบเรื่องนี้ไปดีกว่า เพราะตัวยุ้ยเองก็อยู่ของยุ้ยแบบนี้ ไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนสองคน”

“ยุ้ยไม่ซีเรียสแล้วค่ะ เพราะข่าวนี้มันมีมานานมากแล้ว ปีนี้ก็เข้าปีที่สองแล้วที่มีข่าวแบบนี้มา ยุ้ยก็อยากให้มันจบได้แล้ว เพราะมันก็ไม่ยอมจบสักที ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา และเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องของยุ้ยเลย แล้วมันก็เป็นเรื่องของคนสองคน มันเป็นเรื่องที่เขาน่าจะไปเคลียร์กันมากกว่า แต่ถ้าถามว่าเอือมไหม ก็เฉยๆ มากกว่าค่ะ”

“ถ้าวันหนึ่งเขาพูดไม่เลิกก็ไม่ฟ้องหรอก มันเป็นเรื่องธรรมดามาก เขาก็มีสิทธิ์ที่จะคิดแบบนั้น เพราะยุ้ยกับธันญ์สนิทกัน เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว แต่ถ้าเขายังไม่เลิกพูด ยุ้ยก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ยุ้ยก็อยู่ของยุ้ยแบบนี้”

ลั่นสามารถร่วมงานกับ “ต้อง” ได้ เชื่อพูดขำๆ จะดักตบ พร้อมย้ำสัมพันธ์ “ธันญ์” เป็นได้แค่เพื่อนที่ดี

“ยุ้ยสามารถร่วมงานกับต้องได้ค่ะ เพราะยุ้ยไม่มีอะไรอยู่แล้ว ส่วนที่บอกว่าเขาอยากดักตบยุ้ย โห....อันนี้ก็ไม่รู้ค่ะว่ามันคืออะไร เขาก็คงพูดขำๆ มากกว่า คงไม่ได้คิดอะไรจริงจังหรอก คือบอกเลยค่ะว่าความสัมพันธ์ตอนนี้กับธันญ์ เราเป็นได้แค่เพื่อนที่ดีต่อกัน เราอยู่แบบนี้ก็แฮปปี้แล้ว และเป็นเพื่อนกันที่ดีที่สุดก็พอแล้ว”

“แฟนคลับก็ให้กำลังใจ แต่ว่ายุ้ยก็ไม่ได้คิดอะไร และยุ้ยก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะคิดยังไง เพราะยุ้ยจะไปทำให้ใครมาเข้าใจเราได้ทุกคน มันก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างลำบาก แต่ขอคนที่เรารัก พ่อแม่ ผู้ใหญ่ แฟนคลับเข้าใจเราก็พอใจแล้ว”

ด้าน “ธันญ์” เซ็งที่เอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ บ่ายเบี่ยงเคยพูดชอบ “ยุ้ย” มากกว่าเพื่อน รับมีความรู้สึกดีๆ ให้ บอก “ต้อง” ออกมาแฉไม่มีประโยชน์ ต่อไปจะไปไหนกับใครก็เป็นสิทธิ์ของตน

“ก็อย่างที่ยุ้ยบอกครับ มันเหมือนว่าเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ ก็อยากให้มันจบๆ ดีกว่า เพราะบางทีคนเรามันจบกันไปแล้ว ก็ไม่อยากมานั่งพูดอะไรซ้ำๆ ที่ต้องพูดว่าผมบอกชอบยุ้ยมากกว่าเพื่อน ก็อย่างที่บอกว่าเราก็สนิทกันมาอยู่แล้ว เราก็เป็นเพื่อนกันมาอยู่แล้ว เราก็รู้สึกดีๆ กับเขามาอยู่แล้วตั้งแต่แรกๆ เราก็สนิทกันมาตลอด พอมาวันนึงคนๆ นึงเลิกรากันไป จบกันไป ทำไมมันจะต้องกลับมาพูดเรื่องซ้ำตลอดเวลา ผมว่าให้มันผ่านไปดีกว่า”

“และผมก็ไม่อยากให้ดึงใครเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะอย่างที่บอกว่ามันเป็นเรื่องของผมกับเขา มันไม่เกี่ยวกับยุ้ย อย่าไปดึงบุคคลที่สาม บุคคลที่สี่ เข้ามาเกี่ยวข้อง และอยากจะบอกว่าคนเราเวลาเลิกกันไปแล้ว ให้เก็บความรู้สึกดีๆ ไว้ดีกว่า อย่าให้พอยิ่งเลิกกันไปแล้วยิ่งเอาเรื่องของตัวเองมาพูดให้คนอื่นฟัง มันยิ่งไม่มีประโยชน์อะไร เขาก็ต้องดำเนินของเขาต่อไป และผมก็ต้องดำเนินชีวิตของผมต่อไป ต่อไปนี้ผมไปทำอะไร ไปไหนกับใคร มันคือสิทธิส่วนตัวของผม”

“ผมก็ยอมรับครับว่าเมื่อรายการออกอากาศไป ก็มีการโทรไปหาเขา ก็อยากให้จบกันดีๆ คุยกันดีๆ มากกว่า เพราะเวลาเรารักกันอยู่ด้วยกัน เราไม่เห็นที่จะต้องบอกใครเลย แต่พอเวลาที่เราไม่เข้าใจกัน เราจบกันไปแล้ว แล้วทำไมเราต้องไปบอกอะไรให้ใครฟัง สำหรับเรื่องนี้ทางผู้ใหญ่ที่ช่องก็ไม่ว่าอะไร เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว จริงๆ หลายคนพูดกันไป มันเลยกลายเป็นว่าทำให้เรื่องราวใหญ่โตหรือเปล่า”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

ผัวใหม่ของ “ม่ายจิ๋มเหล็ก” / ซ้อ 7

สัปดาห์ที่แล้วทำสถิติขี้โม้วันเสาร์เล่นเอาโดนด่าซะขี้หูไหล จะหลับตานอนก็นอนไม่หลับ เพราะมันหลอนเห็นแต่กระทู้ด่าตูทั้งน้าน 5555

และเพื่อไม่ให้มันลุกลามไปถึงบรรพบุรุษ แม้จะยังไม่ครบหนึ่งสัปดาห์ ซ้อก็ขออาศัยฤกษ์วันใกล้หวยจะออกนี่ล่ะวะส่งต้นฉบับแม่มเลย..คริๆ คืนนี้จะได้นอนหลับฝันดี เพราะไม่มีคนด่า เผื่อจะฝันเห็นเลขเด็ดเอาไปแทงกะเค้าบ้าง ส่วนจะถูกหรือไม่ถูกอันนี้ก็ต้องลุ้นกันอีกที

ซ้อเองก็ไม่ซีเรียสไม่ว่าจะแทงถูกหรือไม่ถูก เพราะวันนี้ผัวฝรั่งซ้อกลับมาแระ ยังไงวันนี้ก็ “ถูกแทง” แน่ เอิ๊กๆ

พูดถึงเรื่องผัวแล้วก็นึกไปถึง “ตี๋ตาส่อน” กะ “ม่ายจิ๋มเหล็ก” ซะจริงๆ สัปดาห์ก่อนลากไส้ฝ่ายผู้ชายไปแล้ว สัปดาห์นี้ก็เลยขอขี้โม้เรื่องฝ่ายหญิงบ้าง ไม่งั้นอาจจะโดนองค์กรสตรีจอมเอือกทั้งหลายต่อว่าต่อขาน ข้อหาไม่ให้ความเสมอภาคแก่สตรี ฉะนั้น เพื่อรักษาสมดุลของสิทธิหญิงชาย.....ตูจะแฉละน้า อิอิ

ถ้าฝ่ายชายได้ชื่อว่าเป็น “แมงดา” ฝ่ายหญิงก็ “ออหรี่” ในคราบดารานี่เอง ไม่งั้นจะกกกันได้ตั้งหลายปีขนาดนี้เหยอ แต่ออหรี่ที่ว่านี้ไม่ใช่ว่าขายตัวแลกเงิน เพราะรุ่นตีนกาฝังรากแก้วขนาดนี้ใครซื้อไปรับประทานก็ควายเต็มทน แต่ที่บอกว่าเป็นออหรี่ เพราะพฤติกรรมทางเพศมันไม่ต่างจากอีตัว ขอให้มีตอเหอะแม่เป็นโดดคร่อมทันที

ทั้งนี้ เพราะม่ายจิ๋มเหล็ก อีมีแต่สตางค์ให้ผู้ชายปอกลอก แต่ไม่ค่อยจะมีสติ วันๆ เอาแต่เมา ไอ้ที่ข่าวมันเล็ดลอดได้จนฉาวโฉ่ ก็เพราะนักข่าวแจ๊กพ็อตแตกดันโทร.มาสัมภาษณ์ตอนเมาไวน์ งานนี้ม่ายจิ๋มเหล็กก็เลยแฉดะ ทั้งเรื่องเงินเรื่องบนเตียง โดยเฉพาะเรื่องบนเตียงแม่พล่ามซะแทบจะหมดช่องคลอด เล่นเอานักข่าวตกตะลึง อยากจะเอาลงข่าวใจจะขาด แต่ก็ทำไม่ได้ ไม่ใช่ว่ามีจรรยาบรรณอะไรหรอก แต่ถ้าขืนลงไปเมื่อไหร่คงต้องเปลี่ยนหัวหนังสือเป็นนวลนาง งานนี้ก็เลยได้แต่ออฟเรคคอร์ด เก็บไว้เสียวแต่เพียงผู้เดียว

ไอ้เรื่องขี้เหล้าเมาแล้วรั่ว บรรดาผัวเก่าคนเคยรูของม่ายจิ๋มเหล็กต่างรู้ดี ภายนอกม่ายจิ๋มเหล็กจะทำเป็นแอ๊บรักสุขภาพ จะเอาอะไรเข้าปาก ก็ต้องคำนวณแคลอรี่ ต้องดูแล้วดูอีกว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายไหม เพราะต้องสร้างภาพเป็นสาวรักสุขภาพไว้ฟาดค่าโฆษณา ตรงกันข้ามกับตัวจริงที่วันๆ เอาแต่เมา ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องกรอกไวน์เข้าปาก แต่ที่ไม่เคยมีใครแชะภาพเมาปลิ้นได้ เพราะคุณนายระวังตัวสุดฤทธิ์ จะดื่มเฉพาะที่บ้าน หรือในงานปาร์ตี้ส่วนตัวเท่านั้น

ล่าสุด ก็พาหุ่นเช้งกระเด๊ะแต่ย้อยแอนด์ยาน ไปร่วมงานปาร์ตี้แห่งหนึ่ง พอรู้ว่าไม่มีนักข่าวม่ายจิ๋มเหล็กก็ถือแก้วไวน์เดินว่อนงาน เที่ยวไปเมาท์โต๊ะโน้นโต๊ะนี้ ในระหว่างที่ยืนแอ๋หัวเราะร่วนนั้น เรดาร์พิฆาตของม่ายจิ๋มเหล็กนั้น ก็ไปสะดุดตาตู๊ดๆ กับชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในงาน ถึงขั้นสะกิดถามเพื่อนตุ๊ดว่าใครอ่ะ ด้านเพื่อนสาวผู้พิการหอยก็ค้อนใส่หลายตลบก่อนจะเฉลย ว่า เป็นนายแบบลูกครึ่ง พร้อมกับบรรยายสรรพคุณหล่อมาก กำลังแรง ล่ำสุดๆ ฉันเคยเห็นถ่ายแบบกางเกงในลงหนังสือ เริ่ดมากขอบอก

เท่านั้นแหละม่ายจิ๋มเหล็กก็ตาลุกวาว กระดกไวน์ลงคอเอื้อกๆ สงสัยคงจะซ้อมกระดกไว้ก่อนกระดกอย่างอื่นแผล่บๆ จากนั้นก็ส่งซิกบอกเพื่อนตุ๊ดให้พามาแนะนำให้รู้จักมั่ง พอเพื่อนตุ๊ดได้รับคำสั่งก็เดินส่ายตูดเข้าหาเป้าหมายทันที แล้วก็จัดการเชื้อเชิญมาให้ม่ายจิ๋มเหล็กได้แทะโลม แล้วก็ขอแยกตัวไปอย่างรู้กัน

เรียกมาหาถึงที่แบบนี้ไม่บอกก็รู้ว่าม่ายจิ๋มเหล็กโอเพ่นมาก นี่ถ้าแหกขาให้ดูได้อีคงแหกให้ดูแล้วล่ะว่าโอเคมะ แต่ด้วยความที่ผู้คนพลุกพล่านม่ายจิ๋มเหล็กก็เลยทำได้แค่คุยไปส่งสายตาไป แรกๆ ก็คุยแบบห่างๆ รักษาระยะเสียวอยู่หรอก แต่พอเริ่มเมาก็ชักจะหน้ามึน ทำเป็นหูตึงไม่ค่อยได้ยินเสียงต้องยื่นหน้าเข้าไปกระซิบกระซาบ เล่นเอานายแบบถึงกับขนลุก เพราะม่ายจิ๋มเหล็กไม่ใช่แค่กระซิบ แต่ยังแอบเอาจมูกโด่งๆ ไถไปตามซอกหู แล้วก็ทำเป็นเซให้นายแบบลูกครึ่งกอด....โอ้ววอยากจะเยสล่ะซี้...

งานนี้จะเมาจริงหรือเมายั่ว ก็ไม่รู้แหละ แต่เล่นมาแบให้ซะขนาดนี้ ถ้าไม่เสียบก็คงจะเสียเชิงชาย ว่าแล้วนายแบบลูกครึ่งก็เลยตะกองกอดม่ายจิ๋มเหล็กเข้าไปหลบมุมก่อนจะเปิดฉากฟัดกันนัวเนีย ลิ้นแลกลิ้นเนื้อแนบเนื้อสีกันจนไฟแทบจะลุก เล่นเอาตุ๊ดเพื่อนสาวร้องว๊ายยังกะอะไรเข้าตูด แล้วก็ชี้ไม้ชี้มือให้เพื่อนฝูงดู ทำเอาร้องอู้วกันทั้งแก๊ง ก่อนจะอ้าปากหวอด้วยความตกตะลึง

เพราะม่ายจิ๋มเหล็กไม่ใช่แค่ดูดปากกับนายแบบลูกครึ่ง แต่ยังโชว์ลีลาชั้นเซียน มือหนึ่งถือไวน์ มือหนึ่งกำตะบวยตะปบขึ้นตะปบลงอัปแอนด์ดาวน์ปรื๊ดๆ ก่อนจะลากกันขึ้นรถอันตรธานหายไป

ส่วนจะหายไปทำอะไร อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่คาดว่า จุดหมายปลายทาง “ขึ้นสวรรค์” แน่นอน

รายนั้นแค่ทางผ่านอยากเมื่อไหร่ม่ายจิ๋มเหล็กก็จะโทร.เรียกใช้บริการเมื่อนั้น แต่ที่ม่ายจิ๋มเหล็กกำลังคลั่งสุดๆ ตอนนี้ก็คือ “ดีเจฝรั่งเปิดแผ่น” เพราะนอกจากจะใหญ่ไซส์จัมโบ้แล้ว ว่ากันว่าดีเจฝรั่งคนนี้มีดีที่เอวไวกระทุ้งเข้าไปเมื่อไหร่ม่ายจิ๋มเหล็กเป็นเพ้อไปหลายวัน ติดใจถึงขั้นพาเข้าไปกกในบ้านเลยทีเดียว

แต่กี่รายๆ ก็แค่มาแวะทิ่มแล้วก็จากไป ว่างเมื่อไหร่ก็ค่อยมาป๊ะกันใหม่ ไม่มีใครทนอยู่กับม่ายจิ๋มเหล็กได้นานๆ เพราะม่ายจิ๋มเหล็กเป็นคนที่อารมณ์รุนแรง ถ้าไม่ได้อย่างใจก็จะกรี๊ดๆ บางครั้งเป็นหนักถึงขั้นคลุ้มคลั่งอาละวาดตี๋ตาส่อนเองก็เคยจับส่งโรงพยาบาลมาแล้ว ถึงได้รู้ความจริงว่า ม่ายจิ๋มเหล็กมีอาการทางประสาทเนื่องมาจากขาดความรักความอบอุ่น เป็นภาวะที่ติดอยู่ในใจมานานและพัฒนาจนมีอาการทางประสาท

ตี๋ตาส่อนก็รู้ดีว่าม่ายจิ๋มเหล็ก มีภาวะแบบนี้แล้วยังจะบอกให้ออกมาตอบโต้กันอีกทำไม เป็นหนี้ก็ต้องใช้จะมาพล่ามทำไมนักหนา เดี๋ยวถ้าม่ายจิ๋มเหล็กเกิดแค้นจัดคุมสติไม่อยู่แล้วจะหนาว

คราวนี้นอกจากตาบนจะส่อนแล้ว “ตาข้างล่าง” ก็อาจจะเสื่อมเพราะเหลือแต่ตอ !!

ขอบคุณบทความซ้อ7 จากผู้จัดการออนไลน์

“สมยศ” ฉุน! “พจน์” ด่าหยาบลามถึงบุพการี ฟ้องหมิ่นเรียก 20 ล้าน

“สมยศ” เดือดถูก “พจน์” ด่าแรงลามถึงบุพการีผ่านเว็บไซต์ดัง เดินหน้าฟ้องร้องฐานหมิ่นเรียก 20 ล้าน เป็นค่าทำให้เสียหาย และเสียเครดิตเกือบ 20 ปีที่อยู่ในวงการ ลั่นจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ปัดสร้างกระแส อุบถูกอีกฝ่ายฉก “ฟิล์ม” ไป บอกมีหลักฐานพร้อมจะชี้แจงอีกที
เคยออกมาให้สัมภาษณ์ลงหนังสือพิมพ์ดังว่า เป็นผู้ปลุกปั้นนักร้องหนุ่ม “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” ตัวจริง ไม่ใช่นักปั้น-ผู้กำกับชื่อดัง “พจน์ อานนท์” แต่ที่ผ่านมาเรื่องมักถูกบิดเบือนจากปากนักร้องหนุ่มเองว่า “พจน์” เป็นคนชักนำเขาเข้าสู่วงการ และเมื่อ “นายสมยศ ศรีสมบูรณ์” กรรมการผู้จัดการสำนักพิมพ์ บริษัทบ้านบันเทิง ได้ออกมาพูดทวงความจริง ก็เลยถูก “พจน์” ด่าตอกกลับด้วยคำที่หยาบคายรุนแรง ดูถูกบุพการี ผ่านเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์บันเทิงชื่อดัง

และเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (18 ธ.ค.) “สมยศ” พร้อมทนายความส่วนตัว “นายสุรพล บุญแซม” จึงได้หอบหลักฐานข่าวที่ลงข้อความ “พจน์” พูดพาดพิง และข่าวจากหนังสือพิมพ์ย้อนหลังต่างๆ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.มานิต จันทร์ประสิทธิ์ พนง.สอบสวน (สบ.2) สน.พหลโยธิน ฐานหมิ่นประมาท โดยมีนักปั้นรุ่นพี่ “อุ๊บ วิริยะ” ตามมาให้กำลังใจ

โดย “สมยศ” ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่ทำงานเป็นนักข่าวอยู่ในวงการมาเกือบ 20 ปี ไม่เคยทะเลาะกับใคร และไม่เคยโดนใครด่าเจ็บจนทำให้เสียเครดิตแบบนี้ เลยต้องมาแจ้งความเอาผิด “พจน์” ฐานหมิ่นประมาทพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20 ล้านบาท

“ที่ผมมาแจ้งความวันนี้ เพราะแต่ก่อนผมก็เป็นนักข่าวบันเทิง ทำงานตั้งแต่ปี 2534 ทำนิตยสารบ้าง ทำข่าวหนังสือพิมพ์บ้าง นั่นคือเครดิตในการทำงานของผม และผมก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร ผมไม่เคยทะเลาะกับใครหรือด่าใคร แต่อยู่ดีๆ มีคนหนึ่งซึ่งรู้อยู่แล้วว่าใครมากล่าวอ้างในคำที่ไม่ถูกต้อง ผมไม่ใช่เป็นตามที่โดนกล่าวอ้าง และที่สำคัญถ้ามาโดนแบบนี้ทุกคนก็เจ็บครับ มากล่าวอ้างถึงบุพการี มากล่าวอ้างด้วยถ้อยคำที่ดูหยาบคาย ฟังแล้วไม่รื่นหู ฟังแล้วไม่สุภาพ ฟังแล้วไม่น่าจะคิดได้กับคำพวกนี้ ผมทำงานในวงการนี้มาเกือบ 20 ปี ความเสียหายกับเครดิตผม มันไม่สามารถที่จะเรียกคืนกลับมาได้ คนหนึ่งค่อยๆ เดิน 1 2 3 4 แต่อีกคนเหมือนมาทำให้ทุกอย่างฮวบฮาบลงไป ซึ่งผมเองเป็นเด็ก พี่พจน์เป็นผู้ใหญ่ แต่ผมไม่เคยเกเร ไม่เคยล้ำเส้น ไม่เคยพูดอะไรที่ทำให้คนอื่นดูไม่ดีแบบนี้”

“ผมอยู่ตรงนี้ก็มีความรู้ความสามารถ ผมมีการศึกษามากพอที่จะมีระดับมันสมอง และวิธีการจัดระบบความคิดว่า สิ่งไหนที่ผมควรจะพูด สิ่งไหนที่ไม่ควรพูด และในการพูดของผมแต่ละครั้งมีการเรียบเรียง มีการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง และไม่ได้ก้าวไปล้ำเส้นใคร แม้ผมจะเด็กกว่าไม่ใช่คนดัง ผมไม่มีฐานะอะไรที่จะไปสู้ใครได้ แต่ผมมีความเป็นจริง และผมก็ถูกกล่าวหา ทั้งๆ ที่เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2545 ทุกอย่างเป็นมายังไง นักข่าวบันเทิงที่เป็นเพื่อนผมจะรู้หมด ผมไม่ใช่โมเดลลิ่งนะครับ ผมก็อยู่ในสื่อสารมวลชนเหมือนกัน ใบผู้ประกาศข่าวผมก็มีเหมือนกัน แต่สิ่งที่เขาพูดคือการลดระดับของผม นั่นคือดูหมิ่นในเรื่องของเครดิตและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์คนหนึ่งของผมเหมือนกัน ทำให้ผมเสียหายในเรื่องของภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือในสังคมบันเทิง”

“ถามว่าเรื่องเนิ่นนานแล้วทำไมถึงเพิ่งมาแจ้งความ คือจริงๆ ผมได้ยินนักข่าวเล่าประเด็นนี้มาเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ใส่ใจ แต่พอได้ไปอ่านหนังสือพิมพ์ย้อนหลัง ก็เอ๊ะมันไม่ใช่แล้วนะ ถึงผมไม่ใช่คนดัง ไม่มีฐานะสูงส่ง แต่ผมไม่เคยล้ำเส้นใคร แต่ก็อย่ามาล้ำเส้นผมเหมือนกัน”

“ที่ผมฟ้องเรียกค่าเสียหาย 20 ล้าน จำนวนที่เรียกไปเป็นมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเครดิต เครดิตที่คนเราสร้างสมมา 20 ปี มันประเมินค่ายากนะครับ เขาด่าบุพการีผม เปรียบเทียบผมเป็นอย่างที่เห็นกันอยู่ในข่าวที่ลงเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ ว่าผมเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นโน่นเป็นนี่บ้าง มันทำให้ผมรู้สึกว่าเราต้องเลือกใช้ภาษา ยิ่งภาษาต่อหน้าสื่อ อย่าลืมนะครับว่าภาษาที่มีต่อวัยรุ่นหรือสังคม มาจากภาษาสื่อมวลชน เพราะฉะนั้นเมื่อมาจากสื่อมวลชนแล้ว เราเป็นต้นเรื่องที่พูดออกไป มันจะต้องมีการคัดกรองภาษา เลือกใช้ภาษาไทย ถ้าไม่มีการคัดกรองเลือกภาษาที่ถูกต้องแล้ว ทุกคนจะเรียนมาทำไมครับ”

ลั่นไม่มีการติดต่อพูดคุยกับคู่กรณี บอกเลิกคุยมานานแล้วเพราะทัศนคติไม่ตรงกัน ยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมปัดต้องการสร้างกระแส

“ไม่คุยครับ ผมไม่เคยคุยกับพี่พจน์มานานแล้ว เพราะทัศนคติเราไม่ตรงกัน และสิ่งต่างๆ ผมก็เล่าได้เท่าที่ควรจะเป็นในสิ่งที่ผมดำเนินเรื่องอยู่ ผมยืนยันว่าจะดำเนินคดีเขาให้ถึงที่สุด เพราะผมอยู่ในวงการมาร่วม 20 ปี ไม่เคยมีใครมาทำขนาดนี้กับผม และผมไม่เคยทำอะไรใคร”

“ถ้าคนจะมองว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ เพื่อต้องการสร้างกระแสให้กับตัวเอง หรือกับพ็อกเก็ตบุ๊กที่กำลังจะออก เรื่องสร้างกระแสไม่เกี่ยวกันครับ ถ้าผมจะสร้างกระแส ตั้งแต่ที่มีข่าวต่างๆ ออกมาที่เราเห็นกันอยู่ ถ้าผมออกมาช่วงนั้นจะดีกว่าไหมครับ ไม่ใช่ช่วงนี้ แล้วหนังสือเนี่ยผมก็เขียนอยู่แล้ว ผมเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ก็ทำของผมเอง ซึ่งหนังสือที่ผมทำอยู่เป็นโครงการเรื่องแทนที่คนดี เรื่องดี 100 คนทั่วประเทศ เรื่องนี้ยิ่งทำให้เสียหาย เพราะหนังสือเล่มนี้ผมเป็นนักเขียน ถ้าเป็นนักเขียนปกติธรรมดาหรือที่โดนกล่าวหามา นึกเหรอว่ากระทรวงพัฒนาสังคมจะเลือกผมไปเขียน”

ต่อข้อซักถามที่ว่า เมื่อฟ้อง “พจน์ อานนท์” แล้ว จะมีพาดพิงไปถึง “ฟิล์ม” หรือไม่ เจ้าตัวกล่าวว่า

“เรื่องตรงนั้นเป็นเรื่องที่ผมส่งสำนวนการฟ้อง และอยู่ที่ท่านพนักงานสอบสวน นอกจากนั้นอยู่ที่ว่าจะมีความเป็นไปอย่างไร และเมื่อสรุปสำนวนอะไรต่างๆ ชัดเจนแล้ว หลักฐานหรือเรื่องราวต่างๆ ผมจะชี้แจงอีกทีหนึ่ง (แต่ยืนยันเป็นคนปั้นพระฟิล์ม และถูกพจน์ฉกไป?) คือเรื่องปั้นพี่ๆ น้องๆ ที่รู้จักผม แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ผมก็ยังเขียนข่าวประชาสัมพันธ์ให้กับหน่วยงาน ให้กับบริษัทหนังต่างๆ อยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าถามเรื่องนี้ทุกคนถ้าเป็นนักข่าวเก่าๆ จะรู้ ตั้งแต่ปี 2545 จากสื่อที่เคยลงไปบ้างแล้ว ส่วนที่บอกว่าเขามาฉกไป ถ้าจะพูดอย่างนั้นผมยังไม่ขอตอบไปไกลกว่านี้ ให้ทุกอย่างเรียบร้อยหรือชัดเจนกว่านี้ ผมก็จะพูดได้มากกว่านี้ เพราะที่ผมออกมาพูดก็มีสิ่งต่างๆ มีหลักฐานของผมพอประมาณเหมือนกัน”

“ทุกวันนี้ผมไม่ได้ติดต่อพระฟิล์มแล้ว ไม่ได้ติดต่อกันตั้งแต่ปลายปี 2545 ผมอาจจะไม่พูดมากไปกว่านี้ แต่สิ่งที่ผมทำเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ผมเป็นคนยกเลิกการทำงานกับเขาเอง ส่วนเหตุผลอะไรผมไม่ขอพูด ให้ดูจากสิ่งต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นเอาละกัน คือถ้ามันมีอะไรที่สามารถพูดได้มากกว่านี้ ผมยินดีที่จะให้ความกระจ่าง เพราะผมก็เก็บเรื่องนี้มาตลอด 8 ปีเหมือนกัน สิ่งไหนที่ผ่านไปแล้วผมก็ไม่ซีเรียส ไม่สนใจ ถือว่าทำอะไรไปแล้ว ให้โอกาสไปแล้ว จะนึกถึงหรือไม่นึกถึงก็ไม่เป็นไร เพราะผมก็มีอาชีพมีการงาน”

ด้าน “อุ๊บ วิริยะ” ที่มาให้กำลังใจนักเขียนรุ่นน้อง บอกกล้าเอาชื่อตนการันตีว่า สิ่งที่อีกฝ่ายพูดเป็นความจริงทั้งหมด

“วันนี้ก็มาให้กำลังใจเขา ในฐานะที่รู้จักรู้เห็นความเป็นมาในการทำงานของเขากว่า 20 ปี ก็ถือว่าเป็นรุ่นพี่ มีอะไรก็ปรึกษากันตลอด ก็รู้ในสิ่งที่เขาทำเขาเห็น คือเป็นความจริง ตรงนี้กล้ายืนยันโดยเอาชื่อผมการันตี ถามว่าการที่ผมออกมาแบบนี้จะทำให้มีปัญหากับพจน์อีกไหม มันไม่เกี่ยวกันครับ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

“มาช่า” จูบปาก “กฤษณ์” โบ้ยสื่อลงข่าวผิด ปัดตอบเรื่องปากโป้งบอกนักข่าว

“มาช่า” ควง “กฤษณ์” แถลงยันข่าวมั่ว ไม่เคยคิดฟ้องร้องหรือยื่นโนติสอดีตแฟนหนุ่มที่ยืมเงินไป พร้อมโชว์โฉนดที่ดิน 20 ล้านยังอยู่เป็นชื่อตน รับเคยถามเรื่องข่าวสาวๆ แต่ไม่เคยทะเลาะกันเรื่องผู้หญิงจนทำให้เลิก รับยังคุยและรู้สึกดีต่อกันอยู่ หุบปากตอบเป็นคนแฉเอง อ้างไม่อยากพาดพิงใคร และไม่ใช่คนมีนิสัยชอบแฉคนรัก วอนทุกคนยุติข่าวทำฝ่ายชายเสียหาย

หลังถูกหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ระบุว่าม่ายสาว “มาช่า วัฒนพานิช” ให้สัมภาษณ์แฉอดีตแฟนหนุ่ม “กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์” ว่า ชอบมั่วหญิง ทำให้ตนต้องวิ่งโร่ไปตรวจเลือด แต่สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เลิกกันจริงๆ นั้น เป็นเพราะฝ่ายชายยืมเงินไปจำนวน 8 ล้านบาท และได้คืนมาเพียงบางส่วน นอกจากนี้ยังมีโฉนดที่ดินมูลค่า 20 ล้านอีกที่ยังไม่ได้คืน ซึ่งก่อนหน้านี้ดีเจหน้าตี๋ได้ออกมาแถลงข่าวโต้ว่า ไม่ได้เอาโฉนดดังกล่าวไป เชื่อโฉนดยังอยู่กับม่ายสาว พร้อมยังปัดมั่วหญิง แต่ยอมรับว่ายืมเงินมาช่าจริงแต่เพียงแค่ 5 ล้านบาท ยันคืนแน่ไม่ได้คิดจะโกง ทั้งยังเรียกร้องให้ม่ายสาวออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชนภายใน 7 วัน ในเรื่องต่างๆ ที่พูดออกมาทำให้ตนเสียหาย

 


ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.ที่ผ่านมา (16 ธ.ค.) “มาช่า” ได้ควง “กฤษณ์” แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนพร้อมกัน ณ ชั้น 21 อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ทันทีที่พบกองทัพสื่อนักร้องสาวมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ผิดกับ “กฤษณ์” ที่มีสีหน้าระรื่น และได้จับมือให้กำลังใจอดีตแฟนสาวตลอดการให้สัมภาษณ์ ซึ่งสิ่งที่ “มาช่า” พูดในวันนี้ ได้พลิกกลายเป็นหนังคนละม้วนกับที่เคยลงในหนังสือพิมพ์ดัง

กฤษณ์ : “ทุกคนคงทราบดีกันอยู่แล้วว่า ผมกับคุณช่าได้แยกทางกันแล้ว เราได้สัมภาษณ์ไปหลายครั้งแล้วเกี่ยวกับประเด็นเรื่องนี้ เหตุผลที่เราแยกทางกัน ผมได้บอกไปแล้วว่ามาจากตัวผมที่ทำงานเยอะมาก และไม่มีเวลาให้กับคุณช่าเลย ตัวคุณช่าก็มีงานเยอะเหมือนกันในช่วงหลังที่ผ่านมา เราก็เลยได้มาคุยกันว่า ถ้าเกิดเราไม่มีเวลาให้กับความรักของเราสองคนเลย ก็อาจจะทำให้สิ่งต่างๆ แย่ลงไป งั้นเราขอเบรกความสัมพันธ์ไว้ตรงนี้ดีกว่า นี่คือสิ่งที่ผมกับคุณช่าได้บอกไปอย่างชัดเจน”

“ส่วนเรื่องที่ผมกับคุณช่าจะมายืนยันแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ได้มีการเตี๊ยม ไม่ได้มีการคุยใดๆ ทั้งสิ้น คือผมกับคุณช่าไม่เคยทะเลาะกัน เราไม่เคยมีปัญหาอย่างที่ข่าวลง หรืออย่างที่ทุกคนเข้าใจว่า เราตีกันบ้าง เราทะเลาะกัน เราจะมีการฟ้องกันก็แล้วแต่ เรื่องแบบนี้ไม่เคยมีเกิดขึ้นระหว่างผมกับคุณช่า”

มาช่า : “สำหรับตัวช่าก็ยืนยันว่า ตั้งแต่มีเรื่องมีราวช่าไม่เคยแถลงข่าวใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากตอนที่ได้ไปออกรายการคุณวู้ดดี้ (วู้ดดี้เกิดมาคุย) ช่าก็พูดถึงเรื่องคุณกฤษณ์ ช่าก็ได้ตอบไปแล้วว่าเราแยกทางกันแล้ว แล้วก็ไม่ได้มีการฟ้องร้องใดๆ จะย้อนกลับไปดูก็ได้ เพราะเหตุการณ์เพิ่งผ่านมาสัก 3-4 อาทิตย์ที่แล้วก่อนเกิดเรื่องนี้ แล้วก็ยืนยันตามจริงว่า ไม่เคยมีการส่งทนายฟ้องร้องคุณกฤษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น จนถึงทุกวันนี้ช่าก็ยังคุยกับคุณกฤษณ์ แม้เราจะแยกทางกันแล้ว เราโตแล้วค่ะ เราแยกทางกันได้ด้วยดี เราไม่ได้ทะเลาะกัน”

“แต่ปัญหาช่าเองก็เป็นผู้หญิง ช่าก็อาจมีความงอแงบ้าง ในลักษณะที่ต้องการเวลาจากคุณกฤษณ์ แต่คุณกฤษณ์เป็นคนมุมานะทำงานเยอะ เรียกว่าถ้าอาทิตย์นึงมี 8 วัน คุณกฤษณ์คงทำ 8 วัน ซึ่งตรงนั้นมันทำให้ช่าเกิดความรู้สึกว่า พยายามแก้ปัญหาหลายครั้ง มันก็แก้ปัญหากันไม่ได้ จนกระทั่งมาถึงอย่างที่คุณกฤษณ์เคยเล่าว่า เคยแยกกันอยู่พักหนึ่ง คือเราพยายามแก้ปัญหานี้อยู่ 2-3 ปีก่อนที่จะตัดสินใจ เราเองก็เสียดายความรักของเรา เพราะเรารักกันมาก และช่าก็ยังยืนยันว่าทุกวันนี้ช่าก็ยังรักคุณกฤษณ์อยู่ และก็ยังรู้สึกดีกับคุณกฤษณ์อยู่ เราถึงได้มายืนยันตรงนี้ว่า เราไม่ได้ทะเลาะกัน หรือมีเรื่องอะไรอยากใส่ร้ายกันใดๆ ทั้งสิ้น”

กฤษณ์ : “แล้วที่ทุกคนเข้าใจว่า เราหายไปนั่งเคลียร์กัน ผมสามารถสาบานได้ตรงนี้เลยว่า เราไม่เคยเคลียร์กันเลย (หัวเราะ) เพราะเราไม่เคยทะเลาะกัน หลังเป็นข่าวผมคุยกับคุณช่าเกือบทุกวันว่า เรื่องราวเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราก็ยังขำๆ กันอยู่ และพยายามหาทางที่จะออกมาอธิบาย ก็อยากจะบอกความจริงเรื่องราวต่างๆ ที่มันเป็น”

“กฤษณ์” ยังยันยืมเงิน “มาช่า” 5 ล้านบาท พร้อมงัดหลักฐานสัญญายืมเงินคู่ฉบับ 2 คู่โชว์สื่อ ด้านม่ายสาวคอนเฟิร์มไม่เคยคิดฟ้องร้องอดีตแฟนหนุ่ม เผยเหตุทำสัญญาเพราะเป็นเรื่องเซ้นซิทีฟหวั่นเกิดปัญหา

กฤษณ์ : “สำหรับเรื่องยืมเงินผมได้อธิบายไปแล้วว่า ผมได้ทำธุรกิจและได้ยืมเงินคุณมาช่าหลังเราแยกทางกัน เป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท ครั้งที่แล้วผมได้โชว์สัญญาไปแล้ว คราวนี้เรามีคู่ฉบับ 2 คู่ด้วยกัน คู่ฉบับนึงอยู่กับทางผมที่ได้โชว์ไปแล้ว อีกคู่ฉบับหนึ่งอยู่กับคุณมาช่า ผมคงจะเอาให้ดูทางฝั่งของคุณมาช่า (โชว์สัญญาให้สื่อดู)”

มาช่า : “จริงๆ แล้วมันคงไม่ได้แตกต่างเท่าไหร่ คือระหว่างที่ช่าทำหนังสือรับสภาพหนี้นี้ ช่ายืนยันว่าตอนนั้นก็ยังมีความรักคุณกฤษณ์อยู่ เพียงแต่ว่ากลัวหลายๆ อย่างจะมีปัญหา เพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องเซ้นซิทีฟเลยทำไว้แค่นั้นเอง แต่ในสัญญานี้ช่าไม่เคยคิดที่จะต้องมาชดใช้อะไร หรือส่งทนายมาฟ้องอะไร โดยเฉพาะช่าเขียนไว้ว่า ดอกเบี้ยใดๆ ช่าก็ไม่คิดทั้งสิ้น ฉะนั้นคงรู้อยู่แล้วกระดาษแผ่นนี้ทำไว้ เพราะเราไม่แน่ใจว่าจะจากกันไปหรือกลับมาอีกหรือเปล่า ทำไว้เพื่อเป็นหลักฐานคู่กันขึ้นมาเท่านั้นเอง ขอยืนยันและสาบานโดยแท้จริงว่าไม่เกี่ยวกับการฟ้องร้องคุณกฤษณ์ ถ้าช่าฟ้องร้อง คุณกฤษณ์ต้องได้รับโนติสจากทนายความถูกไหมคะ”

กฤษณ์ : “คือข่าวที่ลงไปบอกว่า คุณช่าตั้งทนายขึ้นมา แล้วก็ยื่นโนติสมาทางผม จะมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นเพราะเงินไม่คืนสักที ส่วนตัวผมไม่เคยได้รับโนติสนะครับ แล้วเรื่องที่สองคุณช่าไม่เคยให้ทนายโทรมาหาผม คราวนี้ต้องถามคุณช่าว่า เคยตั้งทนายขึ้นมาแล้วให้ทนายติดต่อมาหรือเปล่า”

มาช่า : “ไม่เคยค่ะ”

กฤษณ์ : “(หัวเราะในลำคอ) นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งเราก็งงๆ อยู่เหมือนกันว่า ทำไมถึงมีทนายเข้ามาปวดหัววุ่นวาย”

ม่ายสาวโชว์โฉนดที่ดิน 20 ล้านยังอยู่กับตน และมีชื่อตนเป็นผู้ไถ่ถอน พร้อมยันไม่เคยทะเลาะ “กฤษณ์” เรื่องหญิงอื่น เป็นการสยบข่าวอีกฝ่ายชอบมั่วหญิง

กฤษณ์ : “มาถึงเรื่องที่บอกว่าตัวผมเองได้โกงที่ดินของคุณมาช่าจำนวน 20 ล้าน เอาไปทำอะไรสักอย่างไม่รู้ แล้วเป็นสาเหตุทำให้เราเลิกกัน อันนี้วิธีการเช็คง่ายๆ ว่า ที่ดินนั้นถูกเอาไปทำนิติกรรมหรือเปล่า หรือถูกโกงหรือเปล่า คือคุณสามารถตรวจที่หลังโฉนดที่ดิน มันจะมีการบ่งบอกชัดเจน นี่คือโฉนดที่ดินตัวจริงนะครับ (หยิบโฉนดที่ดินขึ้นมา)”

มาช่า : “ในมุมของช่าขอพูดสั้นละกัน เพราะเรื่องโฉนดคราวที่แล้วคุณกฤษณ์ก็อธิบายไปเยอะแล้ว ฉะนั้นช่าก็จะบอกว่าโฉนดนี้ก็ยังอยู่ที่ช่าเหมือนเดิม แล้วชื่อก็ยังเป็นชื่อของ มาช่า วัฒนพานิช อยู่ (ชี้ให้ดูในโฉนด) เป็นผู้ไถ่ถอน ไม่ได้มีชื่อของคุณกฤษณ์”

กฤษณ์ : “ผมก็เลยงงว่า ผมเอาโฉนดไปทำนิติกรรมตอนไหน (หัวเราะในลำคอ) อันนี้เป็นหลักฐานชัดเจน ตัวโฉนดที่ดินตอนที่ผมได้อ่านข่าว ผมก็โทรไปถามคุณช่าว่า โฉนดอยู่กับคุณช่าไม่ใช่เหรอ คุณช่าก็บอกว่าอยู่กับช่า (หัวเราะ) ก็คงชัดเจนและเคลียร์ ไม่ขอพูดอะไรต่อ”

มาช่า : “ส่วนเรื่องกฤษณ์มั่วหญิง คือเราสองคนอยู่ด้วยกันมา อาจจะมีถามไถ่เรื่องข่าวผู้หญิงบ้าง เนื่องจากกระแสที่เขียนกันไป บางครั้งช่ารู้สึกเขียนไม่ตรงกัน แล้วเขียนเพิ่มความวุ่นวาย จนช่าหาต้นเหตุปลายทางไม่ถูก ว่าตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่ แต่ถ้าจะตอบตรงนี้ในฐานะที่เราสองคนเป็นคนรักกัน และรักกันมากมา 5 ปีเกือบจะเข้า 6 ปีแล้ว ช่าอยากจะบอกว่าเราสองคนไม่เคยทะเลาะกันเรื่องผู้หญิงเลยค่ะ”

ต่อข้อซักถามที่ว่า “มาช่า” ได้ไประบายความในใจ และสัมภาษณ์แฉ “กฤษณ์” เองกับหนังสือพิมพ์ดัง เพราะความน้อยใจจริงหรือไม่ เจ้าตัวบ่ายเบี่ยงตอบ โดยอ้างไม่อยากพูดพาดพิงใคร

มาช่า : “อันนี้ช่าว่าเป็นเรื่องอะไรที่คลาดเคลื่อน และช่าก็ไม่ทราบว่าเรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเป็นยังไง จุดประสงค์ของใครเป็นยังไง แต่จุดประสงค์ของเราที่ต้องการออกมาพูดในวันนี้ ไม่ต้องการพาดพิงถึงใครทั้งสิ้น ช่าว่าความรักของช่ากับกฤษณ์ยังอยู่ที่เดิม”

“ช่าไม่ขอพูดพาดพิงถึงใครแล้วค่ะ ช่าขอพูดเป็นเรื่องของเราสองคนแล้ว เอาเป็นว่าถ้าคุณมองเป็นภาพ ก็เห็นอยู่แล้วนี่คะ เราไม่ต้องยืดเยื้อถักทอให้มันไกล เพราะมันไม่มีประโยชน์ ช่าทราบว่าการทำข่าวเป็นอาชีพของนักข่าว ช่าอยู่วงการนี้มาเกือบ 30 ปี แต่การทำลายด้วยความรุนแรง ช่าคิดว่ามันอาจไม่ค่อยแฟร์กับอาชีพผู้ที่เราให้ความบันเทิงเช่นกัน และเราก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นคนบาปขนาดนั้น เราก็ยืนยันครั้งสุดท้าย ช่าอยากขอจบแล้วว่า ช่ายังมีความรู้สึกที่ดีต่อกฤษณ์อยู่ แม้เราจะเลิกกันไปแล้วก็ตาม แต่การเลิกกันไม่จำเป็นต้องเกลียดกันค่ะ”

“ถามว่าต่อไปจะปรึกษาใคร ต้องระวังตัวมากขึ้นไหม ตอนนี้ชีวิตปัจจุบันเทคโนโลยีมีเยอะ เราก็คงต้องดูแลตัวเองมากขึ้นแล้ว เวลาเราจะทำอะไร แล้วไม่ว่าใครจะเสพข่าวอะไรด้วยก็ตาม ก็เสพด้วยความระมัดระวังด้วยละกัน วันนี้ขออย่าให้ช่าพูดพาดพิงอะไรมากมายเลย พวกเราเองก็เป็นพวกภาพยนตร์ พวกเอนเตอร์เทนเม้นท์เหมือนกัน พวกพี่ๆ น้องๆ ที่เป็นสื่อ หรือช่ากับกฤษณ์ที่ทำงาน พวกเราอยู่วงการเดียวกันนะคะ ฉะนั้นเราจะมาพาดพิงพูดจาว่าร้ายกันไปเพื่ออะไร ไม่มีประโยชน์อะไร”

กฤษณ์ : “ถ้าเกิดเราจะมองง่ายๆ ที่ทุกคนได้อ่านข่าว ตามข่าวเหมือนคุณมาช่าโกรธผมมาก ไม่คืนเงินจะฟ้องนั่นโน่นนี่ หาว่าผมจะฟ้องกลับบ้างอะไรบ้าง แต่เรื่องราวความจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ทีนี้ประชาชนที่ดูอยู่ตอนนี้ทั่วประเทศ แล้วก็สื่อที่กำลังอัดเสียงอยู่ ผมอยากจะบอกว่า การที่เราได้เสพข่าวไม่ว่าจะเป็นข่าวไหนก็ตาม คุณต้องพิจารณาดูดีๆ ในข่าวที่คุณได้อ่านหรือได้ดูตามทีวี วันนี้เราสองคนออกมานั่งตรงนี้ ก็อยากจะบอกความจริงด้านเราสองคน ผมกับคุณมาช่ายืนยันว่า เราไม่ได้มีการเตี๊ยมกัน เคลียร์กัน หรือคุยกันใดๆ ทั้งสิ้น เรื่องราวที่พูดเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ซึ่งหลักฐานที่เห็นอยู่ก็โชว์ชัดอยู่แล้ว ถ้าเช่นนั้นประชาชนจะเชื่อใคร หรือจะเชื่อผมกับคุณมาช่าที่นั่งอยู่ตรงนี้”

มาช่า : “ช่าก็อยากบอกว่า คุณกฤษณ์เสียหายมากมายเกินไปแล้ว ก็อยากจะขอร้องว่ายุติเรื่องนี้กันเถอะค่ะ ตัวช่าเองถึงเป็นอาร์ทติสท์ พูดจารู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง หรือเป็นตัวของตัวเองบ้าง แต่ยืนยันเหมือนกันว่า ช่าไม่ได้มีนิสัยชอบแฉคนนะคะ ช่าไม่ได้มีนิสัยแฉคนรักของตัวเอง การที่ช่าอาจจะได้พูดคุยปรึกษา หรือพูดคุยกับเพื่อนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ความวุ่นวายกระจุยกระจายทั้งหมดที่เกิดขึ้น จนสาเหตุความเป็นจริงมันจับต้องไม่ได้ มันถึงทำให้เราออกมาพูดกัน เพื่อที่จะบอกทุกคนว่า หยุดเถอะค่ะ มันไม่ใช่เรื่องจริงอย่างนั้นทั้งหมด ทุกอย่างที่เรามีเป็นอย่างนี้ เราก็ได้แก้ไขให้ทุกคนได้ฟังหมดแล้ว แล้วความรู้สึกที่ดีของช่ากับกฤษณ์ แม้จะแยกทางกันไป ก็ยังเป็นเพื่อนรักกันกันได้ค่ะ ไม่ได้มีความโกรธ เกลียด แค้นใดๆ ฟ้องร้องใดๆ ขอให้ทุกคนเปลี่ยนความเข้าใจ และยุติเรื่องนี้ เพราะเราสองคนก็เจ็บด้วยกันทั้งคู่มากพอแล้ว”

ปฏิเสธมีผู้ใหญ่ที่แกรมมี่เป็นกาวใจช่วยเคลียร์ นักร้องสาวยันต่อไม่เกี่ยวอดีตแฟนหนุ่มเรียกร้องให้ออกมาชี้แจงภายใน 7 วัน เลยต้องออกมาแถลงข่าว

มาช่า : “ผู้ใหญ่ที่แกรมมี่ไม่มีมาช่วยเคลียร์ค่ะ คือช่าได้คุยกับกฤษณ์แล้วรู้สึกว่า เราออกมาพูดกันทีเดียวดีกว่า ทุกอย่างจะได้จบ แล้วนักข่าวจะได้ไม่ต้องเหนื่อย วิ่งกันมา 3-4 รอบ”

กฤษณ์ : “ถ้าสังเกตกันดีๆ โดยนิสัยของผมกับคุณมาช่า เราไม่ได้ชอบออกมานั่งแถลงข่าวเล่นอยู่แล้ว (หัวเราะ) ถ้าเรื่องราวมันไม่รุนแรงมาก หรือไม่บิดเบือนจนทำให้ตัวผมหรือคุณช่าเสียหาย เราจะไม่ออกมาทำอะไรแบบนี้อยู่แล้ว และตัวคุณช่าก็ไม่ชอบเป็นข่าวลงหน้าหนึ่ง”

มาช่า : “ส่วนที่คุณกฤษณ์บอกให้ออกมาชี้แจงภายใน 7 วัน ก็ไม่เกี่ยวที่ทำให้ช่าต้องออกมา เขาก็ทำตามสเต็ปทนายของเขาไป แต่เวลาพูดคุยกันทางโทรศัพท์ เราก็พูดคุยกันเหมือนแบบ....ก็ยังที่รักอยู่”

กฤษณ์ : “ทำให้รู้ว่าเอาจริงนะ (หัวเราะ)”

มาช่า : “แต่เอาจริงๆ นะช่าว่าเรื่องมันแค่นี้ (ลากเสียงยาว) เรื่องเล็กมาก มันเรื่องของเราสองคน เพียงแต่ว่ามันได้ถูกพัดไปจนกระทั่งใหญ่โต ช่าว่ามันเป็นจักรวาลไปแล้วตอนนี้ ช่าเองยังไม่รู้เลยว่าเรื่องจริงต้นตอคืออะไร มันกระจุยกระจาย มันเละเทะ มันไปกันใหญ่แล้ว ช่าเลยคุยกับกฤษณ์ว่าเรายุติดีกว่า เราสองคนหันมามองหน้ากันก็ยังรักกันอยู่”

กฤษณ์ : “จริงๆ ผมไม่อยากออกมาคุยนานแล้ว เป็นข่าวก็ปล่อยๆ ไปก่อน แล้วมันก็เริ่มลามไปเรื่อย เราก็เลยรู้สึกว่าต้องออกมาเบรกแล้วล่ะ ไม่งั้นจะเลอะเทอะเสียหายไปกันใหญ่ เรารู้สึกว่าวันนี้ก็คงจะจบแล้ว และอยากให้ทุกอย่างจบแค่นี้ดีกว่า อย่าให้มันมีอะไรซัดทอดต่อไป ผมปวดหัว ไปทำข่าวนาธาน โอร์มานดีกว่า นาธานย้ายทิศบ้านอีกแล้ว (หัวเราะ)”

ในเมื่อทั้งคู่บอกยังรักกันดีอยู่ ผู้สื่อข่าวจึงแย็บถามต่อว่า มีโอกาสที่จะกลับมาคืนดีกันหรือไม่?

มาช่า : “ขอตั้งตัวก่อนนะคะ เพราะตอนนี้แบบว่างง”

กฤษณ์ : “ผมว่าเป็นเรื่องของอนาคตดีกว่า นี่จะกลับๆ ก็มีเรื่องนี้ซะก่อน (หัวเราะ)”

มาช่า : “ตอนแรกอาจจะกลับได้เร็วกว่านี้ แต่ตอนนี้งงไปหมดแล้ว”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

“วี” แถบังเอิญเจอ “ปุ๊กลุก” ที่สิงคโปร์ รับเป็นเพื่อนหญิงสนิทที่สุด

“วี” เฉไฉภาพดูคอนเสิร์ตกับ “ปุ๊กลุ๊ก” ที่สิงคโปร์ อ้างบังเอิญเจอไม่มีการนัดหมาย รับแล้วเป็นเพื่อนหญิงที่สนิทที่สุด บอกอีกฝ่ายยังเด็กอนาคตไม่แน่นอน

ปากแข็งกันมาตลอด สำหรับพระเอกหนุ่มผิวเข้มวิกหมอชิต “วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์” กับนางเอกสาวมั่นดีกรีนางงาม “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” ที่ต่างแท็คทีมยันความสัมพันธ์เป็นได้เพียงแค่พี่น้อง แต่ล่าสุดทั้งคู่โดนหลักฐานมัดตัวชนิดไม่มีทางดิ้นหลุด เป็นภาพจูงสวีตบินดูคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ แต่พอสอบถามเรื่องนี้กับคาสโนว่าวี เจ้าตัวก็ยังคงแถไปได้ข้างๆ คูๆ อีกว่า บังเอิญไปเจอฝ่ายหญิงโดยที่ไม่ได้นัดหมายที่แดนลอดช่อง เลยชวนดูคอนเสิร์ตด้วยกัน

“คือเราไม่ได้เดินทางไปพร้อมกันนะครับ บังเอิญไปเจอกันที่โน่น แล้วมันมีคอนเสิร์ตก็เลยชวนกันดูเท่านั้นเอง ไม่มีอะไร ไม่มีการโทรนัดกัน มันบังเอิญไปจริงๆ เขาไปก็ไปด้วยกัน คือพอไปแล้วเจอคนรู้จักก็ดีใจ มีเพื่อนไปดูพอดีก็ดีใจครับ”

“สำหรับปุ๊กลุกถูกใจใช่เลยหรือเปล่า คืออันนี้มันก็พูดลำบากนะ แต่ก็ยอมรับครับว่าเราสนิทกันมากขึ้น พูดถึงปุ๊กลุกเป็นคนที่สนิทที่สุดตอนนี้ก็ว่าได้ สำหรับผู้หญิงก็ถือว่าใช่ครับ ตอนนี้ผมก็ตอบเคลียร์ๆ แล้ว ไม่ได้ตอบแบบวกวนอะไรนะ ก็เอาเป็นว่าตามนั้นแล้วกันครับ ถ้าถามถึงความสัมพันธ์ก็สนิทครับ สนิทที่สุด คือก็โอเคน้องเขาน่ารักดี”

“แต่ของอย่างนี้มันก็ต้องใช้เวลา ต้องบอกว่าปุ๊กลุกเป็นคนที่ผมสนิทคนหนึ่ง เป็นคนที่สนิทที่สุด แต่ว่าจะเป็นคนพิเศษได้ไหม ตอนนี้มีคนพิเศษอยู่ประมาณห้าคนครับ มี ปุ๊ก ปุ๊ก ปุ๊ก ปุ๊ก ปุ๊ก (หัวเราะ) แต่อนาคตข้างหน้าผมก็ไม่รู้นะครับ ก็คงต้อรอดูกันต่อไป คือตอนนี้ผมยอมรับว่าเราก็สนิทกัน แต่ว่าน้องเขายังเด็กอยู่ด้วย เราไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เราก็ทำวันนี้ให้ดีที่สุดไปแล้วกัน”

กับกรณีมีภาพหลุดปาร์ตี้กับนักแสดงสาวร่วมช่อง “หยก ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์” พระเอกหนุ่มรีบแจงทันทีว่า

“หยกบอกได้เลยว่าเป็นน้องสาวผมเลยนะ น้องรักเลย น้องหยกก็สนิทนะครับ เพราะถ่ายละครด้วยกันอยู่เป็นปี จะให้ไม่คุยกันเลยก็ไม่ใช่ น้องหยกคือน้องรัก เขาดูเป็นผู้ชายด้วยซ้ำ ดูออกลุยๆ ไม่มีอะไรกันเลย หยกนะน้องจริงๆ เลย(หัวเราะ) ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

เพลงตัวอย่างอัลบั้ม The 1st Asia Tour “Into The New World” จาก SNSD

GD&TOP และ Park Bom แสดง ‘Oh Yeah’ ใน Inkigayo

วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

U-Know ยุนโฮและ Max ชางมิน ถ่ายภาพครั้งแรกใน Marie Claire



ในที่สุด U-Know Yunho และ Max Changmin ก็มีผลงานออกสู่สายตาประชาชนซะที หลังจากที่สมาชิกที่เหลืออีก 3 คน ได้ปล่อยผลงานเพลงออกมาในชื่อ "JYJ" ซึ่งการถ่ายแบบ 2 คนครั้งแรกนี้ต้องยกนิ้วให้กับนิตยสาร Marie Claire ของเกาหลีเลยทีเดียวที่สามารถนำหนุ่มฮอตทั้ง 2 คนนี้มาลงปกได้ และคาดว่าหลังจากนี้ทั้ง 2 คนคงจะมีผลงานในแบบอื่นๆ ตามมาอีกแน่นอน

         พบกับภาพสวยๆ ของ 2 หนุ่มฮอตจาก TVXQ แบบเต็มๆ ได้ในนิตยสาร Marie Claire เกาหลี ฉบับเดือนมกราคมปี 2554



ภาพบางส่วนจากนิตยสาร (คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)





Credit : Marie Claire