วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เค้ามาหยอกเล่น

ว่ากันว่า พระบวชใหม่จะเจอผีหลอก !!

เมื่อสักเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา พี่ชายของเพื่อนผมได้ไปบวชเป็นพระอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นความตั้งใจที่จะบวชเพื่อทดแทนคุณบิดามารดาและผู้มีพระคุณ พี่ชายคนนี้จึงเลือกที่จะจำพรรษาที่วัดต่างจังหวัดที่ห่างไกลความเจริญ เพราะการบวชเค้าบอกว่าต้องการความสงบ

ในคืนแรกของการเป็นพระ ก็เจอดีจนได้ครับ

ขณะที่กำลังจะเคลิ้มหลับ พี่ชายเพื่อนก็รู้สึกเหมือนมีคนมานอนเบียดอยู่ด้านข้าง พอหันไปมองก็ไม่พบอะไร พอใกล้เคลิ้มหลับอีกทีก็เหมือนมีคนเบียดเข้ามาอีกแล้ว แต่คราวนี้พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นปลายเท้าของใครก็ไม่ทราบ โผล่ลอดผ้าห่มออกมาข้างเดียว จะว่าเป็นเท้าตัวเองก็ไม่ใช่ เพราะภาพที่เห็นมีปลายเท้าอยู่ 3 เท้า ซึ่งเป็นเท้าตัวเอง 2 ข้าง ส่วนอีกข้างเป็นของใครก็ไม่รู้


พี่ชายเพื่อนผมตกใจมาก จึงเปิดผ้าห่มออกดู ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ จึงคิดว่าตนเองเห็นภาพหลอน จากนั้นก็นั่งสงบจิตสงบใจ จนเข้านอนต่อ คราวนี้นอนหลับได้ครับ ไม่มีอะไรกวนใจ แต่หลังจากที่หลับไปไม่เท่าไหร่ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครสักคนเดินอยู่ที่หน้ากุฏิ เสียงพื้นไม้เสียดสีกันดัง เอี๊ยด เอี๊ยด

แต่พี่ชายเพื่อนผมก็ไม่ได้สนใจอะไร จึงได้หลับตานอนต่อ คราวนี้พอนอนไปได้สักระยะ ก็รู้สึกว่ามีคนมานอนเบียดอีกแล้ว แต่พอมองไปข้างตัวเองทั้งซ้ายและขวาก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ใจคอก็เริ่มไม่ดี เพราะตั้งแต่เข้านอนก็มีแต่เรื่องแปลกๆ จึงเกิดอาการอกสั่นขวัญผวา นอนคลุมโปงทันที

พี่ชายเพื่อนผมยังได้ยินเสียงเดินผ่านไปผ่านมาที่หน้ากุฏิ จึงได้ลืมตาขึ้นมาทั้งๆ ที่ยังคลุมโปงอยู่ เชื่อหรือไม่ครับว่า ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าของพี่ชายเพื่อน คือหน้าของใครก็ไม่รู้ นอนยิ้มฟันขาวให้พี่ชายเพื่อนผม เท่านั้นล่ะครับ พี่ชายเพื่อนผมเปิดผ้าห่ม แล้ววิ่งออกนอกห้อง แล้วตะโกนโหวกเวกออกไปว่า "ผีหลอก"

คืนนั้นต้องไปนอนกับพระพี่เลี้ยงครับ พอเช้ามาพระพี่เลี้ยงก็ได้บอกกับพี่ชายเพื่อนผมว่า พระใหม่ก็เจอกันประจำแหละ เค้ามาหยอกเล่น ทำบุญให้เค้าซะหน่อยละกัน แล้วบอกเค้าไปว่าอย่ามารบกวนเลย เพราะกลัว เรามาบวชเป็นพระเพื่อศึกษาพระธรรม ดังนั้นถ้าเค้ามารบกวนอย่างนี้ ถือว่าเป็นบาปอย่างนึงนะ

พี่ชายเพื่อนผมก็ได้บอกกล่าวกับดวงวิญญาณต่างๆ ตามที่พระพี่เลี้ยงได้แนะนำมา อีกทั้งการสวดมนต์แผ่เมตตาแต่ละครั้ง ก็ระลึกถึงเค้าผู้นั้นจนวันสุดท้ายของการเป็นพระ เมื่อปฏิบัติแบบนี้ ตลอดระยะเวลาของการเป็นพระ (1 พรรษา) ก็ไม่เจอเหตุการณ์ขนหัวลุกอีกเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น