วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

“แอนนี่” โกยอื้อพรีเซ็นเตอร์เครื่องสำอาง ปัดเรื่องเยอะ-อัพค่าตัวแพงหูฉี่

“แอนนี่” รับทรัพย์เป็นพรีเซ็นเตอร์เครื่องสำอาง ปัดค่าตัว 8 หลัก บอกเรียกสมเหตุสมผล พร้อมโต้ทำตัวเรื่องเยอะ เรียกค่าตัวแพงขึ้น เผยงานไม่ชุกมาก ดีใจได้กลับร่วมงานกับเวิร์คพ้อยท์อีก ลั่นปิดตายประตูหัวใจ รับมีหนุ่มเข้ามาเอ็นดูสงสาร แต่ไม่พร้อมเพราะใจยังเจ็บไม่หาย
กำลังโหมรับงานอย่างเต็มที่ เพื่อหาเงินเป็นค่านมเลี้ยงลูก จนมีเสียงลือหึ่งว่าดาราสาว “แอนนี่ บรู๊ค” อาศัยความดังจากมรสุมข่าวเกี่ยวข้องกับนักร้องหนุ่ม “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” อัพค่าตัวแพงหูฉี่เป็นหลักแสน แถมยังเรื่องเยอะขึ้นตั้งกฎเหล็กงดรับงานเซ็กซี่ หรือโชว์ตัวตอนกลางคืน โดยอ้างจะอยู่เลี้ยงลูก ล่าสุดเจ้าตัวโดดไปเป็นพรีเซ็นเตอร์เครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งว่ากันว่าสาวแอนนี่เรียกค่าสูงถึง 8 หลักเลยทีเดียว แต่งานนี้เจ้าตัวปฏิเสธโดยยันเรียกค่าตัวพอสมเหตุสมผลกับงาน

“ค่าตัวได้ไม่ถึง 8 หลักค่ะ แอนนี่ไม่ได้เป็นคนเรียกค่าตัวเยอะแยะมากมาย ถามก็ดีเลย มีบางคนบอกว่าอย่าไปจ้างแอนนี่เลย เรื่องเยอะ ค่าตัวเยอะ แหมเรียกค่าตัวแพง ก็ขอเคลียร์เลยว่าไม่ใช่ ส่วนจะได้เท่าไหร่ขอไม่ระบุตัวเลขดีกว่า แต่ไม่เยอะมาก พอสมเหตุสมผล ส่วนงานก็ไม่ได้เยอะแยะมากมาย เท่าที่พี่ๆ เจอแอนนี่งานก็ไม่ได้เยอะมาก มันก็เป็นไปตามของมัน ก็มีงานติดต่อเข้ามาบ้าง มีงานอีเว้นท์บ้างอะไรบ้าง มีไปต่างจังหวัดบ้าง เป็นพิธีกรบ้าง ไม่ได้มีนอกเหนือจากนั้นสักเท่าไหร่”

“แต่ตอนนี้ก็กลับมาทำรายการของเวิร์คพ้อยท์แล้ว ก็มีชิงช้าสวรรค์ และที่ไปถ่ายมาแล้วคือ ระเบิดเถิดเทิง ก็รู้สึกดีใจนะคะที่ได้ทำ แอนนี่รู้มาตลอดอยู่แล้วว่าเวิร์คพ้อยท์ไม่เคยทิ้งแอนนี่อยู่แล้ว พี่ๆ ในเวิร์คพ้อยท์ก็ให้กำลังใจหมด ทุกคนดีกับแอนนี่มาตลอด คือ 5 ปีที่ผ่านมาดียังไงก็ดีมาอย่างนั้น”

เมื่อสอบถามเรื่องหัวใจพร้อมเปิดรับหนุ่มใหม่เข้ามาหรือยัง เจ้าตัวลั่นขอปิดตายประตูหัวใจ เพราะยังรู้สึกเจ็บไม่หาย

“หัวใจตอนนี้ปิดตายเลยค่ะ ไม่สามารถจริงๆ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วไม่สามารถ ถามว่ามีคนเข้ามาจีบบ้างไหม คือจะมีเข้ามาในลักษณะเอ็นดูสงสาร แต่มันไม่ได้ค่ะ ก็คงจะอีกนานกว่าจะมีใคร อย่างที่แอนนี่บอกถ้าเห็นแอนนี่ไปเดินกับผู้ชายนี่ไม่ใช่แน่นอน มันเจ็บอยู่นะ มันยังไม่หายนะ ต่อให้ตอนนี้เรื่องมันซาผ่านมาแล้ว มันก็ยังไม่หายค่ะ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น