จนมีข่าวรอดตายจากสึนามิ วิกฤติก็พลิกให้นาธานเป็นที่รู้จักขึ้นมา แต่หลังจากนั้นไม่นานชื่อเสียงของเขาก็เงียบหายไป กระทั่งเมื่อเดือนตุลาคมปี 2551 เจ้าตัวก็กลับมาดังระเบิด เพราะออกมาประกาศว่า ตัวเองได้เล่นหนังฮอลลีวู้ดเรื่อง The Prince Of Red Shoe ของ บริษัทบิ๊กบลู ในเครือค่ายทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟอกซ์ ได้ค่าตัวร้อยล้าน ส่งผลให้สื่อต่างๆ สนใจเชิญไปออกรายการ จนนาธานโกยเงินเป็นกอบเป็นกำ กลับมามีราคาในวงการอีกครั้ง
แต่ดีใจได้ไม่นาน นาธานก็มาโดนอดีตแม่บ้าน “สมาน สุขเสริม” ออกมาแฉว่า โดนนาธานโกงเงินจนเกือบสิ้นเนื้อประดาตัว ตามมาด้วยแม่บ้านเดินหน้าฟ้องแหลก จนสุดท้ายนาธานจำนนต่อหลักฐาน ตกเป็นฝ่ายผิดเต็มประตู ศาลสั่งให้ชดใช้เงินที่โกงมา พอรอดคุกมาได้ “ครูแหม่ม พิสมัย ศรีกระบุตร” แม่บุญธรรม ก็หอบหิ้วนาธานไปฝากฝังไว้กับญาติที่บ้านเกิด ที่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย หวังจะให้เริ่มต้นชีวิตใหม่
หลายคนหวังว่า บทเรียนครั้งนี้จะทำให้นาธานคิดได้ แล้วกลับตัวกลับใจเป็นคนดี ทำมาหากินสุจริตซะที แต่สุดท้ายนาธานกลับทรยศความรักของแม่บุญธรรม ด้วยการโกงเงินครอบครัวของครูแหม่มยกโคตร จนพ่อแม่ต้องขายวัวขายควาย ส่วนน้าแท้ๆ ถึงขนาดต้องเอาบ้านไปจำนอง ทั้งที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ตัวเองเหลืออยู่ แม้กระทั่งเด็ก 9 ขวบ นาธานยังเคยยืมเงินมาแล้ว
แต่ในขณะเดียวกัน ตัวเขาเองกลับขับรถคันละเป็นล้าน! หลายคนสงสัยว่า อยู่เชียงคานเขาทำมาหากินอะไร อยู่แบบไหน และใช้ชีวิตยังไงภายใต้เสียงก่นด่าของสังคม ทำให้ “ทีมบันเทิงเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์” ต้องลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อตามล่าหาคำตอบเหล่านั้น
ซึ่งก็ได้ ครูแหม่ม พิสมัย , น้ามด สิทธิพร น้าครูแหม่ม และ ต้อม ลูกชายคนโตของน้ามด เป็นคนยืนยันว่า ตั้งแต่ที่นาธานมาอยู่ที่เชียงคานก็เอาแต่ขี้เกียจสันหลังยาว มีแค่อย่างเดียวที่ทำเป็นชิ้นเป็นอันหน่อย ก็คือควบคุมงานก่อสร้างรีสอร์ทกระต๊อบของตัวเอง ที่พ่อแม่ครูแหม่มเมตตาให้ปลูกบนที่ดินมรดก โดยมีผู้ใหญ่ใจดีเป็นคนออกทุนให้นาธาน
ในช่วงที่ครูแหม่มทำงานอยู่กรุงเทพฯ นาธานยังไปสร้างความวุ่นวายอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปลี่ยนแปลนบ้านที่ครูแหม่มตั้งใจจะสร้างให้พ่อแม่ จนไม่เหลือเค้าเดิม จาก 3 ห้องเป็น 6 ห้อง แถมลักษณะตัวบ้านยังรูปทรงประหลาด ทั้งที่พ่อกับแม่ครูแหม่มคัดค้านเต็มแรงแต่นาธานก็ไม่ฟัง ซึ่งกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้พ่อของครูแหม่มที่เคยรัก และเคยยอมนาธานมากแทบทุกอย่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก
แถมความเป็นอยู่ก็อยู่อย่างเทวดา นอกจากจะแบมือขอเงินคนอื่นใช้ วันๆ ยังไม่ต้องทำอะไร เพราะมีคนทำให้ทุกอย่าง แถมแบ่งแยกหน้าที่ชัดเจน เริ่มที่ แม่ครูแหม่มเป็นคนซักกางเกงใน ส่วนน้าอ้วนคอยซักผ้าให้ ในขณะที่น้ามดเป็นคนทำกับข้าว ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่นาธานไม่เคยต้องตักน้ำกินเอง แถมยังมีเสนาน้อยคอยรับใช้ตลอด เรียกว่านอกจากจะโดนโกงทั้งโคตรแล้ว ยังโดนใช้ทั้งโคตร
ยืมเงินดะ! เพราะขี้เกียจไม่ยอมทำงาน
น้ามด : “เขาอยู่นี่เขาไม่ได้ทำงาน เขาจะเดินไปเดินมาดูบ้านที่กำลังก่อสร้างกับรีสอร์ท เขาไม่ได้ทำอะไรเวลากินก็จะวางไว้ น้ามดก็จะเช็ดและเก็บให้เรียบร้อย บางทีลูกชายเขาก็เป็นคนเก็บให้ เพราะเขาสนิทกันมาก อยากได้อะไรน้ามดก็หาให้หมด ขนาดบุหรี่ก็ยังซื้อให้ เขาชอบดูดบุหรี่นอกมาร์โบโร(Marlboro) เราก็ซื้อให้แต่เวลาไม่เงินก็ซื้อซองละ 60 บาทให้ อยากกินอะไรก็หามาให้ อยากกินกะเพราไก่ก็ทำให้ เขาก็มานั่งกินตรงนี้แหละ(ชี้ไปที่บริเวณที่นั่งให้สัมภาษณ์)”
ครูแหม่ม : “น้องต้า(ลูกชายคนเล็กของน้ามด) เขาก็จะให้เงินนาธานตลอด นาธานจะซื้อโรตีไม่มีเงินน้องต้าก็จะให้ตลอด น้องสอง(เด็กตัวเล็กที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าบ้านไป) คนนั้นนาธานก็ขอเงินไป 200 บาท เขาชอบต่อผม แล้วน้ามดก็เป็นคนจ่ายให้ บางทีก็เป็นน้าคนอื่น”
ต้อม : “ก็เคยถามน้องว่า ให้ด้วยความเต็มใจไหม เขาก็จะบอกว่าให้แต่ไม่ได้เต็มใจ เขาขอก็ให้”
กินข้าวกับน้ามด อยู่ที่บ้านทั้งวัน ค่อยกลับไปนอนที่กระท่อม
น้ามด : “แต่จริงๆ ใครก็รู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ เพราะเขาจะนั่งอยู่ที่บ้านน้ามดทั้งวัน เขาจะมากินข้าวมานั่งที่นี่ทั้งวัน พอตอนเย็นค่อยกลับไปนอนที่กระท่อมในสวน 70 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่บ้านน้ามด 30 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่นั่น”
กิจวัตรประจำวันชอบนั่งเล่นเน็ตที่โต๊ะประจำตัว
น้ามด : “นั่งเล่นที่โต๊ะตรงนั้น(ชี้ไปที่โต๊ะตรงหน้าบ้าน) เขาจะชอบเอาโน๊ตบุ๊กนั่งเล่นอินเทอร์เน็ตตรงนั้น ก็จะเอาผ้ามาปูและก็เล่นของเขาไป เราก็จ่ายค่าอินเตอร์เน็ตให้เขา แต่ก็ไม่ทุกครั้ง บางครั้งเขาก็เอากับผู้มีพระคุณของเขา เราจ่ายให้เขาหมด เต็มใจให้ทุกอย่าง ขนาดลูกของเรายังไม่เคยได้เล่นอินเทอร์เน็ตเลย รักเขามากอะไรก็ให้เขาหมด”
นาธานไม่เคยตักน้ำกินเอง
น้ามด : “รักเขามากคิดดูขนาดน้ำเนี่ยเขายังไม่เคยได้ตักกินเองเลย น้ามดจะตักใส่แก้วให้ตลอด เขาไม่ชอบให้ใครมากินแก้วเดียวกับเขา น้ามดก็ไม่ให้ใครมาใช้ อยากกินผลไม้อะไรก็หามาให้ วันนี้อยากกินลองกองเราก็ไปหามาให้ หามาให้จนรู้ว่าเขาชอบกินอะไร เวลามีเงินก็จะจัดไปให้เขา”
น้ามดรักมาก ทั้งบ้านเลิกกินหมู
น้ามด : “เขาเป็นคนกินง่ายนะ กินกะเพราไข่ดาวอะไรกินได้ แต่เขาจะไม่กินหมู ตั้งแต่เขามาอยู่ที่นี่น้ามดไม่เคยเอาเนื้อหมูเข้าบ้านเลย กลัวเขาจะตะขิดตะขวงใจ ทั้งที่ทุกคนในบ้านก็กินหมู แต่เราต้องอดให้เขาเลย ต้อมกินหมูแต่ต้องไปกินข้าวนอกบ้าน”
น้าอ้วนซักผ้าให้
น้ามด : “เสื้อผ้าน้าอ้วน(เป็นคนที่เคยให้ที่พักพิงกับนาธานสมัยหนีมาอยู่เชียงคาน ก่อนโดนจับ) จะเป็นคนดูแล ส่วนน้ามดจะดูแลเรื่องอาหารการกิน น้าอ้วนนี่เขาก็ไม่ได้เชิงพิการแต่ก็ไม่ได้สมบรูณ์”
ครูแหม่ม : “ตั้งแต่เขามาอยู่ที่นี่ เราให้ความสะดวกสบายทุกอย่าง จะกินจะเอาอะไรทำให้หมด ซักผ้าก็จะมีน้าอ้วนซักให้ ไม้จิ้มฟันยันเรือรบจะเป็นน้ามด ส่วนยายจะดูแลเรื่องซักที่นอนมุ้งหมอน ยายเขาทำให้เองเพราะรัก(ลากเสียงยาว) เพราะเขาไม่มีหลาน แหม่มก็บอกเป็นหลานนะแม่นะ รักแหม่มก็รักหลานด้วย เขาหนีร้อนมาพึ่งเย็น”
มีเด็กเป็นลูกสมุนคอยรับใช้
น้ามด : “เขาจะมีเสนาน้อยคอยรับใช้ (ชี้ไปที่ต๊ะลูกชายคนที่ 2) เขาจะสนิทกันมาก บางทีก็ไปนอนกับพี่ธาน ไปไหนกับนาธานตลอด เวลานาธานจะไปซื้ออะไร นาธานจะรออยู่บนรถก็จะให้เสนาน้อยลงไปซื้อให้ เขาจะไม่ลงรถ”
ติดสบายแถมยังทำตัวเป็นคุณนาย จะไม่ยอมอาบน้ำในห้องน้ำบ้านๆ ใช้ขันตักไม่เอา ต้องอาบจากเครื่องทำน้ำอุ่นเท่านั้น แล้วยังฟุ้งเฟ้อชอบจ้างหมอนวดมานวดให้ถึงที่บ้าน ปกติจะคิดชั่วโมงละ 150 แต่นาธานหน้าใหญ่ใจโตควักให้ชั่วโมงละ 500
ห้องน้ำบ้านๆ เข้าไม่ลง
น้ามด : “เขาต้องไปอาบน้ำที่ซ.17 บ้านน้าอ้วน เพราะมีเครื่องทำน้ำอุ่น คือบ้านน้ามดไม่มีอะไร มีแต่สบู่กับแชมพูตั้งอยู่ แต่เขาจะต้องอาบแบบมีของครบ เช้าเย็นอาบที่บ้านน้าอ้วนและก็กลับไปกินข้าวกับน้ามด และไปนอนที่กระต๊อบรีสอร์ท ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ตากับยาย บางทีก็จะเรียกคนมานวดสปาให้ที่ซอย 17 บางทีก็เรียกมานวดให้ที่รีสอร์ท เขานวดอยู่ชั่วโมงละ 150 แต่เขาให้ 500”
ทำตัวพิลึก อยู่ๆ ก็เอาผ้าดำมาขึงปิดหน้าบ้าน เหตุเพราะไม่อยากให้ใครเห็นตัวเอง พอออกนอกบ้านก็เอาผ้ามาห่อหน้าเหลือแต่ตา...
ชอบหลบหน้าผู้คน เอาผ้ามาคลุมบ้าน
ต้อม : “ตอนที่เขามาอยู่ที่นี่ เขาจะเอาผ้าสีดำมาคลุมตรงหน้าบ้านหมด คลุมตั้งแต่ต้นไผ่ไปจนถึงต้นมะขาม(ชี้ตั้งแต่ต้นไผ่ไปจนถึงต้นมะขามประมาณ 100 เมตร) คือเขาไม่ชอบให้ใครมามองเขา เขาชอบความเป็นส่วนตัว ก็จะมีชาวบ้านมาถามว่า ทำไมต้องล้อมไว้ แม่ก็ไม่รู้จะตอบยังไงก็บอกไปว่า ล้อมไก่ไว้ เวลาไปข้างนอกเขาก็จะมีผ้าห่อหน้าอยู่ตลอดเวลา อยู่เชียงคานชอบห่อหน้า ขนาดอยู่บ้านยังห่อหน้า เพราะแดดจัดกลัวหน้าดำ บางทีก็เดินกางร่ม ก็ยังคิดอยู่เลยว่า จะทำธุรกิจรีสอร์ทแล้วเขาจะกล้าต้อนรับแขกเหรอ ในเมื่อเขาไม่กล้าสู้หน้าคน”
ที่เลวร้ายไปกว่านั้น นาธานยังให้แม่ครูแหม่ม อายุ 63 ซักกางเกงในให้ตลอด ด้วยความที่รักมากดูแลยังกะลูกหลานในไส้ แต่สุดท้ายนาธานกลับตอบแทนแบบนี้ ทำเอายายเสียความรู้สึกถึงกับร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว
ยาย : “ตอนเช้ายายจะเป็นคนชงกาแฟให้ และทำกับข้าวให้กินบางครั้ง จะซักผ้าปูที่นอนหมอนมุ้งให้เขาตลอด เพราะอยากให้หอมๆ และสะอาด แล้วก็ซักกางเกงในให้ เพราะเขาชอบถอดทิ้งไว้ยายก็เลยต้องซักให้ รักเหมือนลูกเหมือนหลานเพราะยายไม่มีหลานผู้ชาย(ร้องไห้ เจ็บจุกจนพูดไม่ออกไปพักใหญ่) เขามาทำแบบนี้ก็ให้อภัยได้ แต่ไม่ให้กลับมาอยู่ที่นี่แล้ว ถึงเขาจะขอโทษก็ไม่ให้กลับมาอยู่ที่นี่แล้ว เพราะไม่อยากให้มันกลับมาหลอกอีก”
เท่านั้นยังไม่พอ! นอกจากนาธานจะสร้างวีรกรรมโกงทั้งบ้าน ใช้งานทั้งโคตรแล้ว “ทีมบันเทิงเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์” ยังได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวอีกว่า ช่วงที่นาธานใช้ชีวิตอยู่ที่เชียงคาน วันดีคืนดีก็ชวนเด็กผู้ชายไปขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวเล่นที่แก่งคุดคู้ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเชียงคานเป็นประจำอีกด้วย แถมเจ้าตัวยังเคยฝอยเป็นตุเป็นตะ ว่าจะเปิดโรงเรียนนานาชาติเพื่อยกระดับเด็กเชียงคาน
ถ้าไม่ใช่ “นาธาน” ทำไม่ได้นะจ๊ะ...
"นาหม้อ โฮมสเตย์" หลังนี้แหละที่นาธานจัดการเปลี่ยนแปลนจากบ้านจนกลายสภาพตามที่เห็น |
เจาะใต้ถุนทำเป็นห้องสำหรับนั่งทานข้าว |
ประตูทางเข้าทำให้เหมือนทางเข้าผับแล้วก็วาดรูปมงกุฎไว้ด้านบน |
ด้านในของ นาหม้อโฮมสเตย์ นาธานเลือกสีฉูดฉาดกระจกสีเขียว ผนังสีแดง |
ผนังภายในตัวบ้านเจาะเป็นช่องวางแจกัน และทาทุกสีทั้งสีเขียว สีแดง สีชมพู และสีเหลือง |
ห้องสีชมพูสดใส หนึ่งในหกห้องที่นาธานจัดการตามอำเภอใจ |
ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น