วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เพชรตาแมว

ในโลกนี้มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งมิใช่มนุษย์ได้ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมา ซึ่งมีอยู่ในเมืองไทย คือ เพชรตาแมว เป็นของวิเศษที่ใครก็อยากได้ ผู้ใดได้ครอบครองจะทำให้มีเอกลาภตลอดไป จะคิดสิ่งใด หวังสิ่งใดได้แต่สิ่งดี

เพชรตาแมวนี้เกิดจากแมวซึ่งตาเป็นต้อหิน ข้างใดที่เป็นจะมีน้ำเลี้ยงไหลออกมาตลอดเวลา แต่แมวจะไม่มีความเจ็บปวด แต่ข้างที่เป็นต้อจะมองไม่เห็น เมื่อแมวเสียชีวิตตาข้างที่เป็นต้อจะแข็งเหมือนก้อนหิน เรียกว่า เพชรตาแมว

เมื่อปี พ.ศ. 2539 มีเจ้าของแมวตาเพชรจัดพิธีวิวาห์ให้กับแมวเพื่อเป็นศิริมงคล ซึ่งเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ จนทำให้เจ้าของแมวบางคนเกิดความโลภ เข้าใจว่าแมวตัวเองเป็นแมวตาเพชร ควักเอาลูกตาแมวตาเพชรตัวนั้นเพื่อนำไปขาย จนทำให้แมวตัวนั้นตาบอดสนิทเป็นที่น่าเวทนา อันที่จริงเป็นเรื่องของบุญบารมี ที่ผู้ใดจะมีบุญวาสนาอันสูงส่ง และเป็นเรื่องของภพของชาติปางก่อนด้วย ถึงจะให้ครอบครองเพชรตาแมว

แมวสีสวาท คือ แมวตาเพชรที่จัดว่าหายากมก ตาเพชรทั้ง 2 ข้างของแมวชนิดนี้ จะเป็นแก้วหรือเพชรใส ตอนเป็นแมวตาเพชร (ยังมีชีวิตอยู่) และหลังจากตายแล้วจึงกลายเป็นเพชรตาแมว ถึงแม้ร่างกายจะเน่าเปื่อยเป็น 10 - 20 ปี แต่นัยน์ตาเพชรจะคงสภาพใสวาว ยิ่งกว่าเพชรเสียอีก นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่แมวสีสวาทเป็นเพชรตาแมวมีราคามหาศาลยิ่งกว่าพระเครื่องหลายเท่าตัว ตามที่สนนราคากัน เพื่อความอยากเป็นเจ้าของ แต่ก็มีโอกาส 1 ในล้าน ที่จะได้ครอบครองเพชรตาแมวชนิดเพชรใสที่ได้จากแมวสีสวาท สุดยอดแมว มหาโชคลาภมีแต่ความร่ำรวย

หินมีลักษณะคล้ายหินอ่อน, หินลูกรัง บางเม็ดจะมีผิวหยาบบ้าง ละเอียดบ้าง แล้วแต่เพชรตาแมวแต่ละสายพันธุ์ บางเม็ดจะมีสีขาวขุ่น, ใสขุ่น, ดำขุ่น แมวมีชีวิตอยู่เมื่อมองเหยื่อนาน ๆ เหยื่อประเภทจิ้งจก, นก, หนู จะแพ้นัยน์ตาแมวแล้วตกมาเป็นอาหารแมว โดยที่แมวไม่ต้องทำอะไร

ลักษณะพิเศษนี้จะเปลี่ยนไปหลังจากแมวเสียชีวิตแล้ว ขึ้นอยู่กับเจ้าของผู้ครอบครอง จะหมั่นสร้างบุญบารมี ทำคุณงามความดี เพชรตาแมวถึงจะสำแดงฤทธิ์เดชให้เจ้าของได้ประจักษ์

หินใส เพชรตาแมวชนิดนี้เกิดขึ้นกับแมวที่เจ้าของเลี้ยงดูแลเป็นอย่างดี ส่วนมากจะเป็นตาเพชรข้างเดียว เพชรตาแมวประเภทนี้จะมีความใสปนขุ่น มีขนาดลูกแก้ว ในความใสจะมีลักษณะเหมือนเสี้ยนไผ่อยู่ในตา ม่านตา เมื่อส่องด้วยกล้องขยายจะเห็นเป็นรังผึ้งขนาดเล็กและมีเส้นเลือดขนาดเล็ก คุณสมบัติจะเหมือนข้อแรก เพชรตาแมวประเภทนี้จะมีสีฟ้าน้ำทะเล, สีเหลือง,เขียวอมฟ้า ม่วงอมชมพู ฯลฯ

ใสเป็นแก้ว เพชรตาแมวชนิดนี้จะมีลักษณะแตกต่างจาก 2 ประเภทดังกล่าว คือ ตอนเป็นแมวตาเพชร (ยังมีชีวิตอยู่) และมาเป็นเพชรตาแมว (เสียชีวิตแล้ว) ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพชรจะมีความใสลึก ไม่มีขาวขุ่นมาเจือปน มีมิติซับซ้อน มีจุดไวแสงต่าง ๆ ไม่อยู่นิ่ง เหมือนตาแมวตอนที่มีชีวิตอยู่ ไม่สามารถทำเทียมเลียนแบบได้ เพชรตาแมวประเภทนี้จะมีสีเดียวกับสัตว์เท่านั้น เนื้อเพชรจึงจะใสบริสุทธิ์ และมีความวาวใสมาก

พราหมณ์ผู้บรรลุชาญชั้นสูงให้ข้อมูลเพิ่มเติม ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะได้เห็นหรือครอบครอง เพราะเป็นเรื่องบุญวาสนา ตั้งแต่ชาติปางก่อน ที่สัตว์ประเภทนี้ตามมารับใช้เจ้าของ ที่นำแต่ความร่ำรวย, ทรัพย์สมบัติ, ลาภยศ, สุขสรรเสริญมาให้ 

เพชรตาแมวประเภทใส ยังมีคุณสมบัติแคล้วคลาดจากอันตรายได้ และเพชรตาแมวยังมีคุณสมบัติคล้ายกับเหล็กไหล จะต่างกันเพียงแต่เพชรตาแมวเกิดจากสัตว์ ส่วนเหล็กไหลเกิดจากแร่ธาตุที่มีวิญญาณมนุษย์, อมนุษย์, ยักษ์, เทพ, เทวา, ฤษี คุ้มอยู่

พราหมณ์ท่านนี้ยังกล่าวอีกว่าไปแสวงบุญทั่วประเทศไทย เพิ่งเจอเพชรตาแมวประเภทนี้และคิดว่ามีอยู่คู่แรกและคู่เดียว ซึ่งตรงตามตำราเก่าแก่ตั้งแต่โบราณที่บันทึกไว้ ซึ่งเป็นสมบัติส่วนพระมหากษัตริย์ที่ทรงโปรดให้บันทึกไว้ เพื่อเป็นความรู้แก่คนรุ่นหลังได้ศึกษาค้นคว้า

เพชรตาแมวที่นำเสนอนี้เป็นเพชรตาแมวที่เกิดจากแมวสีสวาท เป็นแมวพันธุ์ไทยแท้ ซึ่งหายากมาก เชื่อว่าเป็นเพชรตาแมวคู่เดียวที่มีอยู่ในประเทศไทยที่เป็นเพชรตาแมวแบบใส เป็นแก้ว และมีคุณสมบัติพิเศษ คือ แกร่งตกไม่แตก และมีชาวต่างชาติเสนอราคาให้ 22 ล้านบาท แต่เจ้าของยังไม่ให้คำตอบ ทุกวันนี้ฝากไว้ในตู้เซฟธนาคารใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร แมวสีสวาทนี้เป็นแมวไทยพันธุ์แท้ของจังหวัดนครราชสีมาที่อื่นไม่มี เพชรตาแมวที่นำเสนอได้จากเขตรอยต่ออำเภอเสิงสาง กับอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น