วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

พระพุทธรูปแห่งบามิยัน อารยธรรมที่โดนทำลาย



พระพุทธรูป แห่ง บามิยันเป็นพระพุทธรูปหินขนาดใหญ่ เคยเป็นข่าวโด่งดังเมื่อช่วงปี 2001 เมื่อมีภาพสุดสะเทือนใจชาวพุทธเมื่อกลุ่มตาลีบันได้ทำการระเบิดทำลายพระพุทธรูปแห่งบามิยัน เนื่องจากหลักศาสนาอิสลามไม่อนุญาตให้มีรูปเคารพ





พระพุทธรูปบามิยัน เดิมเคยประดิษฐานอยู่ที่หน้าผาที่ในบริเวณตอนกลางของประเทศ อัฟกานิสถาน ใน Bamyan Valley จังหวัด Hazarajat





ในอดีต Bamyan Valley เป็นหนึ่งในแนวเส้นทางสายไหม ที่ขบวนคาราวานจากจีน ที่จะเดินทางไปค้าขายในเอเซียตะวันตก จนกระทั้งถึงช่วงศตวรรษที่ 11



โดยศาสนาพุทธเริ่มเข้ามาสู่ บามิยันตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 2 จนถึงช่วงศตวรรษที่ 9 ศาสนาอิสลามเริ่มเข้ามามีบทบาท



บามิยัน มีความเฟื่องฟูในพุทธศาสนาอย่างมาก เป็นแหล่งรวมหลักปรัชญา และศิลปะอินเดีย

พระพุทธรูปบามิยันมีพุทธศิลป์แบบ Gandhara เป็นพระยืนแกะสลักเข้าไปในหน้าผาขนาดใหญ่ จำนวน 2 องค์



พระพุทธรูปบามิยันองค์ใหญ่คือ พระไวโรจนะพุทธเจ้า(Buddhas Vairocana)มีความสูง 55 เมตร(ก่อนจะถูกทำลายถือว่าเป็นพระพุทธรูปยืนแกะสลักที่สูงที่สุดในโลก) คาดว่าก่อสร้างในช่วงปี ค.ศ.591-644



พระพุทธรูปบามิยันองค์เล็กคือ พระศากยมุนีพุทธเจ้า(Buddhas Sakyamuni)มีความสูง 37 เมตร คาดว่าก่อสร้างในช่วงระหว่างปี ค.ศ.544 - 595



คาดว่า พระพุทธรูปบามิยัน ก่อสร้างโดยกษัตริย์ในราชวงศ์ Kushans ที่ได้รับคำแนะนำจากพระสงฆ์ ว่าถ้าทำการก่อสร้างพระพุทธรูปบามิยันจะนำความรุ่งเรืองมาสู่อาณาจักร

เป็นที่หน้าเสียดายยิ่งที่พระพุทธรูปบามิยัน ได้ถูกระเบิดทำลายลงเมื่อปี 2001 โดยกลุ่มตาลีบัน









ภาพขณะ พระพุทธรูปบามิยัน ถูกระเบิดทำลายลง โดยกลุ่มตาลีบัน






ภาพซ้ายก่อนถูกทำลาย ภาพขวาเมื่อถูกทำลายลง




พระพุทธรูปบามิยัน สร้างโดยการแกะสลักโดยตรงเข้าไปในหน้าผาหินทราย เป็นโครงอย่างหยาบๆ ส่วนผิวและรายละเอียดภายนอกนั้นใช้การฉาบด้วย ดินผสมฟาง และฉาบทับด้วยปูนสทัคโค(Stucco คือ ปูนขาว+ทราย+หินอ่อนป่น)เป็นชั้นสุดท้ายเพื่อเพิ่มความคงทนแข็งแรงของผิวภายนอก


จะเห็นว่าภาพจั่วหัว บริเวณฐานของพระพุทธรูปจะมีรูพรุนเล็กๆจำนวนมาก สิ่งนี้ไม่ได้เกิดจากรอยกระสุนปืนยิง แต่เป็นรูที่ช่างในอดีตจงใจเจาะไว้เพื่อใช้อัดลิ่มไม้เข้าไปและโผล่ปลายออกมาเป็นเป็นเดือยไว้ยึดผิว ดินผสมฟาง และผิวปูนสทัคโค เพื่อป้องกันการหลุดล่อน


เพื่อเป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดสุดท้ายบริเวณใบหน้า มือ และรอยยับของจีวร จะมีการลงสี โดยพระพุทธรูปองค์ใหญ่จะใช้สีแดงสีเดียว ส่วนพระพุทธรูปองค์เล็กจะมีการใช้สีตกแต่งหลายสีสัน

บริเวณท่อนแขนส่วนล่างของพระพุทธรูป จะก่อสร้างด้วยโครงไม้เป็นแกน(Armature) และฉาบผิวด้านนอกด้วย ดินกับฟาง และเคลือบทับด้วยปูนสทัคโค


มีความเชื่อว่าบริเวณพระพักต์ส่วนบน คาดว่าจะมีหน้ากากไม้ หรือ หน้ากากเหล็กหล่อขนาดใหญ่ สวมอยู่อีกชั้นหนึ่งในอดีต


บนหน้าภาจะมีถ้ำเล็กๆจำนวนมาก เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่านักบวช โดยภายในถ้ำบางแห่งจะมีภาพวาดฝาหนังทางศาสนาอย่างงดงาม









จะเห็นว่าบนหน้าผาจะมีถ้ำเล็กๆ จำนวนมากมายที่เป็นที่พำนักของ นักบวช












ที่มา :  http://en.wikipedia.org/wiki/Buddhas_of_Bamiyan

____________________

เครดิต : wowboom

________________________________

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น