จากกรณีลูกสาวของตลกชื่อดัง โน้ต เชิญยิ้ม ที่ถูกผู้ร้ายจี้ชิงทรัพย์ที่เมืองเคนท์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 55 ที่ผ่านมา โดยน้องแตงกวา-สุจันจิรา ได้ถูกคนร้ายซึ่งเป็นชายผิวสีชิงเงินไปกว่า 300 ปอนด์
ทำเอาหัวอกของคนเป็นพ่อเป็นแม่แทบสลาย แต่ยังเคราะห์ดีที่น้องแตงกวาเพียงแค่บาดเจ็บเล็กน้อย ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา ''โน้ต เชิญยิ้ม'' ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสยามดาราว่า
''คือตอนนี้ผมให้เพื่อนที่อยู่อังกฤษไปรับน้องแตงกวามาอยู่ที่ลอนดอนแล้ว แล้วจะให้แม่เขาบินไปรับลูกคืนนี้ ส่วนเรื่องคดีก็ช่างมัน ยังโชคดีที่ลูกเราแค่ล้มเจ็บนิดหน่อยไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านี้ ผมยังไงก็กลับมาบ้านเราก่อนดีกว่า ซึ่งสภาพจิตใจเขาก็เริ่มดีขึ้น แต่ผมกับภรรยานี่สิยังไม่ดีขึ้น เป็นห่วงมาก ตอนที่เกิดเรื่องผมเพิ่งคุยทางไลน์กับลูกสาว เขาบอกกำลังขึ้นรถจะกลับบ้านแล้ว ผ่านไปแค่ชั่วโมงเดียวเองเขาก็โทร.มาร้องไห้โฮเลย บอกว่าพ่อแม่ช่วยหนูด้วย หนูถูกจี้ ตอนนั้นเราก็ไม่รู้จะทำยังไง คุมสติไม่อยู่เลย วันนั้นทั้งคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันทั้งบ้าน โทรศัพท์ก็สัญญาณไม่ค่อยดี แบตฯ มือถือเขาก็จะหมด สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ถือว่าเป็นอะไรที่ทรมานจิตใจที่สุดในชีวิตที่เคยเจอมาแล้ว พี่ๆ เขาก็พยายามปลอบน้อง
แล้วผมสงสารลูกด้วยที่ต้องโดนตำรวจสอบปากคำพากลับไปที่เกิดเหตุ ภาษาเขาก็ยังไม่ค่อยคล่อง แล้วยังผวากับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย เขาก็สับสนไปหมด ภรรยากับผมก็ได้แต่ร้องไห้ทำอะไรไม่ถูก วันต่อมาต้องไปทำงานก็ไปทำแบบฝืนๆ ไปถ่ายหนังตำรวจปืนโหดของคุณอดัม (ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล) พอใครถามถึงเรื่องนี้ผมร้องไห้เลย แต่โชคดีที่คุณอดัมช่วยติดต่อกงสุลช่วยประสานงานให้ แล้วบังเอิญผมมีเพื่อนที่อยู่อังกฤษเลยให้ไปรับลูกสาวมาอยู่ที่ลอนดอน ตอนนี้ก็เริ่มสบายใจขึ้นมาหน่อยแล้วครับ''
ส่วนเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เกิดกับลูกสาวนั้นป๋าโน้ตเล่าให้ฟังว่า
''ตอนที่เกิดเรื่องเวลามันแค่ 4-5 โมงเย็นเอง แต่ที่นั่นเวลานั้นมันก็เริ่มมืดแล้ว พอลงรถมาทั้งถนนก็มีแค่น้องกับโจรแค่สองคน เขาก็เริ่มรู้ตัวแล้วล่ะว่ามีคนตามมา แต่พอวิ่งปุ๊บมันก็วิ่งตามมาเลย กำลังจะถึงบ้านพักอยู่แล้ว แต่มันก็มากระชากกระเป๋าจนน้องล้ม แต่ก็โชคดีที่มันเอาแต่เงินไปไม่ได้ทำอะไร''
โน้ต เชิญยิ้ม ยอมรับว่ายังขวัญเสียกับสิ่งที่เกิดขึ้นและกล่าวต่อว่า
''คือผมน่ะไม่อยากให้ไปอยู่แล้ว แต่แม่เขาอยากให้ไป พอมาเกิดเรื่องแบบนี้หัวอกคนเป็นพ่อน่ะผมเข้าใจเลย มันทำให้ผมรักพ่อรักแม่มากขึ้นเป็นร้อยเท่าเลยล่ะ แล้วนี่น้องแตงกวาก็เพิ่งไปอยู่ต่างประเทศครั้งแรก อายุแค่ 16-17 เอง ผมว่ารอให้โตกว่านี้สัก 20 กว่าๆ แล้วค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้อย่าเลยดีกว่า ผมว่าอยู่ประเทศไหนก็ไม่สบายทั้งนั้น ส่วนเรื่องเรียนผมว่าถ้าตั้งใจเรียนที่ไหนมันก็ดีทั้งนั้นแหละ''
ที่มาข้อมูล : Siamdara
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น