7) การพยากรณ์โดยใช้ลูกแก้วคริสตัล / Crystal Ball Gazing
... มีคำกล่าวไว้ว่า ".. The methods used to predict the future are as many and varied as leaves on the trees .. วิถีแห่งการพยากรณ์นั้นมีมากมายและหลากหลายราวกับใบไม้บนหมู่แมกไม้ .."
ผู้ คนจำนวนมาก เดินเข้าสู่บู๊ธพยากรณ์ ด้วยความหวังที่จะได้พบกับภาพผู้พยากรณ์นั่งสบายๆ อยู่หลังโต๊ะไม้ตัวใหญ่ คลุมด้วยผ้าคลุมสีเข้ม บนโต๊ะมีลูกแก้วคริสตัลขนาดใหญ่ที่งดงามวางสงบนิ่งอยู่ภายใต้แสงเทียน และกลุ่มหมอกควันจางๆ ลอยอ้อยอิ่งอยู่ในลูกแก้ว แต่พวกเขาก็ต้องผิดหวัง เนื่องจาก มิใช่ผู้พยากรณ์ทุกคนจะสามารถใช้คริสตัลบอลในการพยากรณ์ได้
การ พยากรณ์โดยใช้ลูกแก้วคริสตัล เป็นวิธีการพยากรณ์ที่ได้รับการยอมรับ และนับถือจากบุคคลทั่วไปมาเป็นเวลานาน หลักการที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วไปเป็นหลักการที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศโรมา เนีย หรือที่รู้จักกันในชื่อ ยิปซี (Gypsy) นั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้หลักการของศาสตร์อื่นๆ ในการพยากรณ์อีกด้วย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทหรือขอบเขตของคำตอบที่คาดหวัง เช่น การใช้กสิณหรือฌานในการพยากรณ์ เพื่อค้นหาคำตอบในส่วนลึกของจิต เป็นต้น ทั้งนี้ ในการพยากรณ์ด้วยคริสตัลบอล ผู้พยากรณ์แต่ละคนอาจมีวิธีการมองที่แตกต่างกัน บางท่านอาจมองเข้าไปภายในบอล โดยมีภาพเล็กๆ ปรากฏอยู่ภายใน บางท่านอาจมองโดยเห็นภาพขึ้นมาแทนที่บอลลูกนั้น หรือบางท่านอาจใช้บอลเป็นตัวฉายภาพเข้าไปปรากฏในมโนภาพของตน ไม่มีข้อกำหนดชัดเจนในส่วนนี้ ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้พยากรณ์แต่ละท่าน
เนื่อง จากการพยากรณ์โดยใช้ลูกแก้วคริสตัล เป็นการพยากรณ์ที่ไม่มีสิ่งอื่นมาเป็นสื่อ หรือเป็นสัญลักษณ์ในการชี้แนะคำทำนาย แต่เป็นการใช้พลังจิตในการมองและอ่านโดยตรง ที่เรียกกันว่า Psychic Reading จึงทำให้การพยากรณ์แบบนี้ไม่แพร่หลายมากนักในปัจจุบัน เพราะมีผู้พยากรณ์จำนวนไม่มากนัก ที่สามารถใช้พลังจิตในการวิเคราะห์อดีต ปัจจุบัน และอนาคต รวมถึงบุคคล เหตุการณ์ เรื่องราวต่างๆ ได้จริง ซึ่งต้องอาศัยทั้งความสามารถพิเศษ และการฝึกฝนอย่างถูกวิธี เป็นระยะเวลานานพอสมควรกว่าจะสามารถใช้คริสตัลบอลในการพยากรณ์ให้ผู้อื่นได้
ก้าวแรกอันมั่นคง
ก่อน ที่จะหาซื้อบอลที่จะนำมาใช้ ควรเตรียมอุปกรณ์และความพร้อมของผู้ฝึกหัด ให้เรียบร้อยเสียก่อน อุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้ ได้แก่
1. ผ้าชิ้นเล็ก ควรเป็นผืนใหม่ที่สะอาด เลือกที่เนื้อนุ่มและสามารถซับน้ำได้ดี เพื่อใช้ในการเช็ดทำความสะอาดภายหลังการล้าง อาจเป็นสีขาวหรือดำ หรือสีอื่นๆก็ได้ แต่ควรเป็นสีพื้น คือไม่มีลาย และสีไม่ฉูดฉาดเกินไป
2. ผ้าชิ้นใหญ่ ควรเลือกใช้สีดำหรือสีเข้ม มีเนื้อหนานุ่ม ไม่หยาบกระด้าง ใช้สำหรับห่อหุ้มลูกบอลก่อนและหลังการใช้ อาจใช้ถุงผ้าสีเข้ม หรือหนังสัตว์แทนได้ ที่เลือกใช้ผ้าเนื้อหนานุ่มเพื่อป้องกันรอยขูดขีดซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ และใช้สีเข้มเพื่อเป็นการป้องกันพลังงานที่ไม่ดีจากภายนอก ถูกดูดซับเข้าสู่คริสตัลบอล
3. โต๊ะสำหรับวางคริสตัลบอล ควรเป็นโต๊ะที่มีขนาดพอดีกับความต้องการและความพอใจของผู้ใช้ และเป็นโต๊ะที่มั่นคง ไม่เอียง ไม่โยก เพื่อมิให้เป็นการเสี่ยงต่อการที่บอลจะกลิ้งหรือตกเสียหาย
การ พยากรณ์โดยใช้ลูกแก้วคริสตัล เป็นวิธีการพยากรณ์ที่ได้รับการยอมรับ และนับถือจากบุคคลทั่วไปมาเป็นเวลานาน หลักการที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วไปเป็นหลักการที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศโรมา เนีย หรือที่รู้จักกันในชื่อ ยิปซี (Gypsy) นั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้หลักการของศาสตร์อื่นๆ ในการพยากรณ์อีกด้วย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทหรือขอบเขตของคำตอบที่คาดหวัง เช่น การใช้กสิณหรือฌานในการพยากรณ์ เพื่อค้นหาคำตอบในส่วนลึกของจิต เป็นต้น ทั้งนี้ ในการพยากรณ์ด้วยคริสตัลบอล ผู้พยากรณ์แต่ละคนอาจมีวิธีการมองที่แตกต่างกัน บางท่านอาจมองเข้าไปภายในบอล โดยมีภาพเล็กๆ ปรากฏอยู่ภายใน บางท่านอาจมองโดยเห็นภาพขึ้นมาแทนที่บอลลูกนั้น หรือบางท่านอาจใช้บอลเป็นตัวฉายภาพเข้าไปปรากฏในมโนภาพของตน ไม่มีข้อกำหนดชัดเจนในส่วนนี้ ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้พยากรณ์แต่ละท่าน
เนื่อง จากการพยากรณ์โดยใช้ลูกแก้วคริสตัล เป็นการพยากรณ์ที่ไม่มีสิ่งอื่นมาเป็นสื่อ หรือเป็นสัญลักษณ์ในการชี้แนะคำทำนาย แต่เป็นการใช้พลังจิตในการมองและอ่านโดยตรง ที่เรียกกันว่า Psychic Reading จึงทำให้การพยากรณ์แบบนี้ไม่แพร่หลายมากนักในปัจจุบัน เพราะมีผู้พยากรณ์จำนวนไม่มากนัก ที่สามารถใช้พลังจิตในการวิเคราะห์อดีต ปัจจุบัน และอนาคต รวมถึงบุคคล เหตุการณ์ เรื่องราวต่างๆ ได้จริง ซึ่งต้องอาศัยทั้งความสามารถพิเศษ และการฝึกฝนอย่างถูกวิธี เป็นระยะเวลานานพอสมควรกว่าจะสามารถใช้คริสตัลบอลในการพยากรณ์ให้ผู้อื่นได้
อัน ที่จริง ลูกแก้วคริสตัล หรือคริสตัลบอล เป็นเพียงวิธีการหนึ่งในการพยากรณ์ โดยเลือกใช้วัตถุที่มีผิวเรียบและเป็นมันวาว ในการมองภาพบุคคลหรือเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งในที่นี้ สามารถใช้สิ่งอื่นทดแทนได้ในหลักการเดียวกัน เช่น อ่างหรือชามหรือถ้วยที่ใส่น้ำสะอาดจนเต็มปริ่ม แหล่งน้ำตามธรรมชาติ กระจกเงา ฯลฯ และหากเป็นลูกแก้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกแก้วที่ทำมาจากหินธรรมชาติเท่านั้น แก้วที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้น ก็สามารถนำมาใช้ได้เช่นกัน เพียงแต่จะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร เนื่องจากเป็นวัตถุที่ไม่มีพลังงานในตัวเองตามธรรมชาติ ในที่นี้ ผู้เขียนจึงขอแนะนำให้ใช้บอลที่ทำมาจากหินหรือแร่ในธรรมชาติเท่านั้น ส่วนจะเป็นหินหรือแร่ชนิดใด ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความพอใจส่วนตัวของตัวผู้ใช้เอง (ที่นิยมใช้กันคือ บอลที่ทำมาจาก Rock Crystal หรือ Clear Quartz แต่ราคาจะแพงอยู่สักหน่อย)
ก้าวแรกอันมั่นคง
ก่อน ที่จะหาซื้อบอลที่จะนำมาใช้ ควรเตรียมอุปกรณ์และความพร้อมของผู้ฝึกหัด ให้เรียบร้อยเสียก่อน อุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้ ได้แก่
1. ผ้าชิ้นเล็ก ควรเป็นผืนใหม่ที่สะอาด เลือกที่เนื้อนุ่มและสามารถซับน้ำได้ดี เพื่อใช้ในการเช็ดทำความสะอาดภายหลังการล้าง อาจเป็นสีขาวหรือดำ หรือสีอื่นๆก็ได้ แต่ควรเป็นสีพื้น คือไม่มีลาย และสีไม่ฉูดฉาดเกินไป
2. ผ้าชิ้นใหญ่ ควรเลือกใช้สีดำหรือสีเข้ม มีเนื้อหนานุ่ม ไม่หยาบกระด้าง ใช้สำหรับห่อหุ้มลูกบอลก่อนและหลังการใช้ อาจใช้ถุงผ้าสีเข้ม หรือหนังสัตว์แทนได้ ที่เลือกใช้ผ้าเนื้อหนานุ่มเพื่อป้องกันรอยขูดขีดซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ และใช้สีเข้มเพื่อเป็นการป้องกันพลังงานที่ไม่ดีจากภายนอก ถูกดูดซับเข้าสู่คริสตัลบอล
3. โต๊ะสำหรับวางคริสตัลบอล ควรเป็นโต๊ะที่มีขนาดพอดีกับความต้องการและความพอใจของผู้ใช้ และเป็นโต๊ะที่มั่นคง ไม่เอียง ไม่โยก เพื่อมิให้เป็นการเสี่ยงต่อการที่บอลจะกลิ้งหรือตกเสียหาย
4. ฐานสำหรับวางคริสตัลบอล ใช้สำหรับการวางคริสตัลบอลบนโต๊ะในระหว่างการใช้ ควรเลือกใช้วัสดุที่มีผิวเรียบ และไม่แข็งเกินไป เพื่อไม่ทำให้บอลเป็นรอยขูดขีด ที่สำคัญคือควรเป็นวัสดุธรรมชาติ อาจเป็นไม้หรือหินเนื้ออ่อน หรือโลหะอื่นๆ เช่น ทองคำ เงิน ทองเหลือง ทองแดง ดีบุก ฯลฯ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ใช้เป็นหลัก
5. เทียนสีหรือกลิ่นที่เป็นที่พอใจของผู้ใช้ และเครื่องหอมต่างๆ เช่นธูปหอม กำยาน น้ำมันหอมต่างๆ ควรเลือกใช้กลิ่นที่เป็นธรรมชาติ หรือสกัดจากธรรมชาติ และเป็นกลิ่นที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกสงบ เบา สบาย และมีสมาธิ
6. กล่องหรือภาชนะสำหรับเก็บคริสตัลบอล ควรเป็นวัสดุธรรมชาติที่มั่นคงแข็งแรง เช่นหีบไม้ หรือหนังสัตว์ แต่ไม่ควรใช้กล่องโลหะ เพราะจะปิดกั้นการถ่ายเทอากาศมากเกินไป ภายในกล่องควรบุด้วยผ้าหนาๆนุ่นๆเช่นผ้ากำมะหยี่ หรือพวกขนสัตว์ต่างๆ วัสดุที่ใช้ก็ควรเป็นวัสดุธรรมชาติเช่นกัน เพื่อลดการเกิดไฟฟ้าสถิต
ทั้ง นี้ อุปกรณ์ทั้งหมด ควรผ่านการชำระล้างพลังงานด้านลบ พลังงานที่ไม่ดีและพลังงานที่ไม่พึงประสงค์ออกเสียก่อน อาจใช้การชำระด้วยแสงอาทิตย์ การใช้ควันของเครื่องหอม หรือการชำระด้วยจิตก็ได้
นอก จากนั้น การเตรียมพร้อมของตัวผู้ฝึกหัด เวลาในการฝึก และสถานที่ที่จะใช้ทำการฝึก ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การฝึกหัดเป็นไปอย่างสมบูรณ์ โดยมีข้อกำหนดคร่าวๆ ดังนี้
1. พื้นฐานของจิต
ผู้ ฝึกหัดควรมีพื้นฐานด้านการทำสมาธิหรือการฝึกจิตมาบ้าง (ในกรณีที่มีความสามารถพิเศษด้านนี้อยู่แล้ว อาจไม่ต้องฝึกมากนัก และจะมีวิธีการฝึกอีกแบบหนึ่ง) หรืออย่างน้อย ควรทำสมาธิเป็น สมองซีกขวา ซึ่งควบคุมการทำงานด้านจินตภาพควรทำงานได้ค่อนข้างดี ถึงดีมาก และมีความตั้งใจ มุ่งมั่นในการปฏิบัติ (การเลิกฝึกกลางคันอาจส่งผลเสียต่อการทำงานของสมองและจิตใจ) ผู้ฝึกหัดใหม่ (ไม่มีความสามารถพิเศษอยู่ก่อนและไม่มีพื้นฐานการฝึกจิตหรือสมาธิ) อาจใช้เวลาในการเตรียมความพร้อมของพลังชีวิตและพลังจิตค่อนข้างมาก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสามารถและความพยายามของผู้ฝึกหัด
อย่างไรก็ตาม มิใช่ว่าการมีพื้นฐานการฝึกจิตมาดีหรือมีความสามารถพิเศษอยู่แล้ว จะสามารถซื้อบอลมาใช้ได้ทันที นั่นเป็นไปไม่ได้ การพยากรณ์หรือการฝึกจิตทุกอย่างต้องใช้เวลาในการฝึกปฏิบัติ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับวิถี และความช่ำชองชำนาญ จะใช้เวลามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความสามารถและพรสวรรค์ของแต่ละบุคคล และประสบการณ์ในการใช้ด้วย
2. เวลาในการฝึก
ผู้ ฝึกควรมีเวลาเป็นของตัวเองอย่างน้อยวันละครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงในแต่ละวันใน ช่วงแรก และ หลังจากนั้น ค่อยๆ ลดลงคือไม่ต้องฝึกทุกวันได้ อาจจะเป็น 2-4 วันต่อสัปดาห์แล้วแต่ความสะดวก เวลาที่เหมาะสมต่อการฝึก คือเวลาเย็น ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้าแต่ยังไม่มืด หรือหากไม่สามารถฝึกในเวลานั้นได้ ควรเป็นเวลาอื่นที่เรารู้สึกสบาย และผ่อนคลาย สามารถอยู่คนเดียวเป็นเวลานาน และปราศจากความหมกมุ่นกังวลกับชีวิตประจำวัน จะเป็นกลางวันหรือกลางคืนก็ได้ ในที่นี้มีส่วนสัมพันธ์กับสถานที่ด้วย
ควร เป็นสถานที่เงียบสงบ ไม่มีเสียงอึกทึกรบกวน และเราสามารถอยู่คนเดียวได้เป็นเวลานานๆ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นในบ้านหรือนอกบ้าน บรรยากาศในสถานที่ควรจะทำให้ผู้ฝึกรู้สึกสงบและสบาย (อาจเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องพระก็ได้) มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป และมีความชื้นพอเหมาะ ไม่แห้งหรืออับชื้นเกินไปจนรู้สึกไม่สบายตัว หากใช้เครื่องปรับอากาศควรปรับอุณหภูมิให้พอดีกับความต้องการ ไม่หนาวหรือร้อนเกินไป และใช้พัดลมเบาสุด อาจจุดเครื่องหอมได้ตามต้องการ (เครื่องหอมที่มีควันเหาะสำหรับห้องหรือสถานที่ๆเปิดโล่ง ส่วนน้ำมันหอมเหมาะกับห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ ทั้งยังช่วยควบคุมความชื้นในอากาศด้วย)
ภายในห้องควรมีแสงสว่างไม่มากนัก แค่พอมองเห็นได้ชัดเจนและสบายตา แสงที่สว่างจ้าเกินไปอาจทำให้ไม่สบายตาและรู้สึกกระวนกระวายไม่มีสมาธิ รวมทั้งไม่ควรให้มีแสงส่องตรงสู่คริสตัลบอลหรือตาของผู้ฝึกโดยตรง จะเกิดผลเสียต่อสายตาได้ (แสงที่แนะนำคือแสงจากเทียนจำนวนไม่มากนัก ปิดไฟฟ้าทั้งหมดและจุดเทียนสองถึงสามต้น ก็ค่อนข้างสว่างแล้ว ถ้ายังรู้สึกมืดเกินไปอาจเพิ่มได้อีก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและลักษณะของสถานที่ด้วย)
เสียงในห้องก็เป็น ปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้การฝึกดำเนินไปด้วยดียิ่งขึ้น บางคนอาจไม่ชอบอยู่ในห้องที่เงียบสนิทและมีแสงสลัวๆ คนเดียว อาจเปิดเพลงบรรเลงเบาๆร่วมด้วยได้ เพลงที่ใช้ควรเป็นเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกสงบ ไม่หนวกหู เป็นเสียงในธรรมชาติหรือเป็นเสียงเครื่องดนตรีเดี่ยวๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีของชาติใด ควรเลือกเพลงที่มีท่วงทำนองค่อนข้างช้าเนิบนาบ และราบเรียบ และมีโทนเสียงกลาง ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป
การเลือกซื้อคริสตัล
ใน การเลือกบอลที่จะนำมาใช้นั้น ควรเลือกชนิด สี ขนาด และรูปร่าง ตามความพอใจของผู้ใช้เป็นหลัก ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวในส่วนนี้เช่นกัน ข้อแนะนำสำหรับผู้ไม่มีประสบการณ์ในการใช้บอลที่ทำจากหินธรรมชาติ คือ พยายามใช้สีที่ดูแล้วสบายตา ไม่ฉูดฉาดเกินไป และเมื่อสัมผัส ตัวท่านเองจะรู้สึกได้ว่า บอลลูกนั้นใช่หรือไม่
5. เทียนสีหรือกลิ่นที่เป็นที่พอใจของผู้ใช้ และเครื่องหอมต่างๆ เช่นธูปหอม กำยาน น้ำมันหอมต่างๆ ควรเลือกใช้กลิ่นที่เป็นธรรมชาติ หรือสกัดจากธรรมชาติ และเป็นกลิ่นที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกสงบ เบา สบาย และมีสมาธิ
6. กล่องหรือภาชนะสำหรับเก็บคริสตัลบอล ควรเป็นวัสดุธรรมชาติที่มั่นคงแข็งแรง เช่นหีบไม้ หรือหนังสัตว์ แต่ไม่ควรใช้กล่องโลหะ เพราะจะปิดกั้นการถ่ายเทอากาศมากเกินไป ภายในกล่องควรบุด้วยผ้าหนาๆนุ่นๆเช่นผ้ากำมะหยี่ หรือพวกขนสัตว์ต่างๆ วัสดุที่ใช้ก็ควรเป็นวัสดุธรรมชาติเช่นกัน เพื่อลดการเกิดไฟฟ้าสถิต
ทั้ง นี้ อุปกรณ์ทั้งหมด ควรผ่านการชำระล้างพลังงานด้านลบ พลังงานที่ไม่ดีและพลังงานที่ไม่พึงประสงค์ออกเสียก่อน อาจใช้การชำระด้วยแสงอาทิตย์ การใช้ควันของเครื่องหอม หรือการชำระด้วยจิตก็ได้
นอก จากนั้น การเตรียมพร้อมของตัวผู้ฝึกหัด เวลาในการฝึก และสถานที่ที่จะใช้ทำการฝึก ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การฝึกหัดเป็นไปอย่างสมบูรณ์ โดยมีข้อกำหนดคร่าวๆ ดังนี้
1. พื้นฐานของจิต
ผู้ ฝึกหัดควรมีพื้นฐานด้านการทำสมาธิหรือการฝึกจิตมาบ้าง (ในกรณีที่มีความสามารถพิเศษด้านนี้อยู่แล้ว อาจไม่ต้องฝึกมากนัก และจะมีวิธีการฝึกอีกแบบหนึ่ง) หรืออย่างน้อย ควรทำสมาธิเป็น สมองซีกขวา ซึ่งควบคุมการทำงานด้านจินตภาพควรทำงานได้ค่อนข้างดี ถึงดีมาก และมีความตั้งใจ มุ่งมั่นในการปฏิบัติ (การเลิกฝึกกลางคันอาจส่งผลเสียต่อการทำงานของสมองและจิตใจ) ผู้ฝึกหัดใหม่ (ไม่มีความสามารถพิเศษอยู่ก่อนและไม่มีพื้นฐานการฝึกจิตหรือสมาธิ) อาจใช้เวลาในการเตรียมความพร้อมของพลังชีวิตและพลังจิตค่อนข้างมาก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสามารถและความพยายามของผู้ฝึกหัด
อย่างไรก็ตาม มิใช่ว่าการมีพื้นฐานการฝึกจิตมาดีหรือมีความสามารถพิเศษอยู่แล้ว จะสามารถซื้อบอลมาใช้ได้ทันที นั่นเป็นไปไม่ได้ การพยากรณ์หรือการฝึกจิตทุกอย่างต้องใช้เวลาในการฝึกปฏิบัติ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับวิถี และความช่ำชองชำนาญ จะใช้เวลามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความสามารถและพรสวรรค์ของแต่ละบุคคล และประสบการณ์ในการใช้ด้วย
2. เวลาในการฝึก
ผู้ ฝึกควรมีเวลาเป็นของตัวเองอย่างน้อยวันละครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงในแต่ละวันใน ช่วงแรก และ หลังจากนั้น ค่อยๆ ลดลงคือไม่ต้องฝึกทุกวันได้ อาจจะเป็น 2-4 วันต่อสัปดาห์แล้วแต่ความสะดวก เวลาที่เหมาะสมต่อการฝึก คือเวลาเย็น ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้าแต่ยังไม่มืด หรือหากไม่สามารถฝึกในเวลานั้นได้ ควรเป็นเวลาอื่นที่เรารู้สึกสบาย และผ่อนคลาย สามารถอยู่คนเดียวเป็นเวลานาน และปราศจากความหมกมุ่นกังวลกับชีวิตประจำวัน จะเป็นกลางวันหรือกลางคืนก็ได้ ในที่นี้มีส่วนสัมพันธ์กับสถานที่ด้วย
ภายในห้องควรมีแสงสว่างไม่มากนัก แค่พอมองเห็นได้ชัดเจนและสบายตา แสงที่สว่างจ้าเกินไปอาจทำให้ไม่สบายตาและรู้สึกกระวนกระวายไม่มีสมาธิ รวมทั้งไม่ควรให้มีแสงส่องตรงสู่คริสตัลบอลหรือตาของผู้ฝึกโดยตรง จะเกิดผลเสียต่อสายตาได้ (แสงที่แนะนำคือแสงจากเทียนจำนวนไม่มากนัก ปิดไฟฟ้าทั้งหมดและจุดเทียนสองถึงสามต้น ก็ค่อนข้างสว่างแล้ว ถ้ายังรู้สึกมืดเกินไปอาจเพิ่มได้อีก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและลักษณะของสถานที่ด้วย)
เสียงในห้องก็เป็น ปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้การฝึกดำเนินไปด้วยดียิ่งขึ้น บางคนอาจไม่ชอบอยู่ในห้องที่เงียบสนิทและมีแสงสลัวๆ คนเดียว อาจเปิดเพลงบรรเลงเบาๆร่วมด้วยได้ เพลงที่ใช้ควรเป็นเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกสงบ ไม่หนวกหู เป็นเสียงในธรรมชาติหรือเป็นเสียงเครื่องดนตรีเดี่ยวๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีของชาติใด ควรเลือกเพลงที่มีท่วงทำนองค่อนข้างช้าเนิบนาบ และราบเรียบ และมีโทนเสียงกลาง ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป
การเลือกซื้อคริสตัล
ใน การเลือกบอลที่จะนำมาใช้นั้น ควรเลือกชนิด สี ขนาด และรูปร่าง ตามความพอใจของผู้ใช้เป็นหลัก ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวในส่วนนี้เช่นกัน ข้อแนะนำสำหรับผู้ไม่มีประสบการณ์ในการใช้บอลที่ทำจากหินธรรมชาติ คือ พยายามใช้สีที่ดูแล้วสบายตา ไม่ฉูดฉาดเกินไป และเมื่อสัมผัส ตัวท่านเองจะรู้สึกได้ว่า บอลลูกนั้นใช่หรือไม่
ตำหนิ หรือร่องรอยต่างๆ ภายในเนื้อหิน เป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่ควรตระหนัก เป็นธรรมดาของบอลที่ทำจากหินธรรมชาติ ที่มักจะมีตำหนิหรือร่องรอยต่างๆภายใน หากเลือกที่จะใช้บอลขนาดใหญ่ ย่อมจะมีตำหนิต่างๆมากขึ้นตามไปด้วย (ที่ไม่มีตำหนิเลยหรือมีน้อยมากก็มีเช่นกัน แต่จะราคาสูงมาก เช่น Clear Quartz Crystal Ball ที่ใสบริสุทธิ์จริงๆ ณ ปัจจุบัน บอลที่มีนำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม จะมีราคาอยู่ที่ประมาณสองแสนบาทต่อลูก) การเลือกซื้อควรเลือกชนิด ลักษณะและสีของตำหนิภายในด้วย โดยเลือกบอลที่มีร่องรอยที่งดงามและถูกใจก็พอ อีกทั้งไม่ควรเลือกซื้อบอลที่ตำหนิหรือร่องรอยต่างๆ เหล่านั้น โผล่หรือทะลุมาจนถึงผิวนอก อันจะทำให้พื้นผิวเกิดรอยสะดุดหรือขรุขระเป็นบริเวณกว้าง จะส่งผลต่อการพยากรณ์ที่ไม่ราบรื่น
แต่หากมีเพียงเล็กน้อยก็ไม่มีผลมาก นัก และในระหว่างการซื้อ ควรถามผู้ขายให้แน่ชัดว่า หินชนิดนั้นๆ มีข้อควรระวังในการใช้และการเก็บรักษาอย่างไรบ้าง
ต้อนรับคริสตัลสู่ชีวิต
หลัง จากที่เราซื้อคริสตัลบอลมาแล้ว ให้พยายามตรงกลับบ้านทันที ล้างบอลด้วยน้ำสะอาด และสบู่เหลวเจือจาง (อาจผสมเกลือทะเลเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับชนิดของหิน) หลังจากนั้น ใช้ผ้าสะอาดชิ้นเล็กเช็ดให้แห้ง ไม่ต้องถูนะครับ เวลาล้างควรจับให้มั่น เพราะหินส่วนใหญ่จะลื่น อาจทำตกเสียหายได้ หลังจากนั้น ลูบไล้ด้วยน้ำมันหอมเบาๆ ให้ทั่ว แต่ไม่ต้องมากนัก น้ำมันจันทน์ หรือน้ำมันจากอำพันก็เป็นทางเลือกที่ดี
การ ล้างด้วยน้ำในครั้งแรกนั้น เป็นการล้างสิ่งสกปรกทางภายนอกหรือทางกายภาพ ซึ่งอาจติดมาจากกระบวนการผลิตหรือขนส่ง หรือจากการวางอยู่ในร้านค้า ส่วนการลูบไล้ด้วยน้ำมันหอมนั้น เป็นการชำระ ภายใน คือการล้างพลังงานที่ไม่พึงประสงค์ออกจากคริสตัลบอล ในขณะที่ลูบไล้ด้วยน้ำมันหอมนั้น ควรตั้งจิตอธิษฐาน เพื่อช่วยในการชำระสิ่งไม่ดีออกจากคริสตัลบอลด้วย หลังจากนั้น ห่อด้วยผ้าผืนใหญ่ที่เตรียมไว้ แล้วใส่ลงในกล่องหรือหีบที่เตรียมไว้ เก็บไว้อย่างสงบอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ จึงนำออกมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ก่อนนำไปใช้
ในระหว่างขั้นตอนเหล่านี้ อาจมีการจุดเทียนและเครื่องหอม เปิดเพลงสำหรับฝึกสมาธิเบาๆ และสวดมนต์หรือกล่าวอะไรเล็กน้อย เพื่อเป็นการต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าสู่บ้านหรือวิถีการดำเนินชีวิตของเรา
การมองคริสตัลบอลและการพยากรณ์
ดัง ที่ได้กล่าวไปข้างต้น ว่าเราสามารถมองคริสตัลบอลได้ในหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้พยากรณ์ สิ่งเหล่านี้ จะเกิดขึ้นได้ จากการทดลองฝึกปฏิบัติด้วยตนเองเท่านั้น ไม่มีใครสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ที่แน่นอนตายตัวได้
ในการเปิดใช้คริสตัลบอล ครั้งแรก ควรเริ่มในคืนเดือนมืดหรือวันข้างขึ้นต้นๆ (เช่น ขึ้น 1 ค่ำ) เลือกเวลาที่ทุกสิ่งเงียบสงบ และแน่ใจว่าคุณจะไม่ถูกรบกวน หากเป็นไปได้ให้เลือกเวลาพระอาทิตย์ตกแต่ยังไม่มีดดังที่กล่าวไว้แล้ว เนื่องด้วย ชาวโรมาเนียถือว่าเป็น Magical Time หรือเวลาแห่งมายานั่นเอง สภาพของห้องหรือสถานที่ควรจัดตามที่ได้อธิบายไว้ข้างต้น
หลัง จากนั้น นำคริสตัลบอลออกจากล่อง และค่อยๆ เปิดผ้าที่ห่อหุ้มไว้ออก และค่อยๆ วางลงบนโต๊ะ นั่งห่างจากคริสตัลบอลพอสมควร ในระยะที่สบายสำหรับผู้ฝึก ไม่มีข้อกำหนดใดๆ กล่าวไว้ว่าจะต้องนั่งอย่างไรหรือมีระยะห่างเท่าไหร่ แต่ควรเป็นท่านั่งที่สบาย สามารถนั่งได้นานๆ และสามารถทำสมาธิได้ (ส่วนใหญ่ชาวตะวันตกจะไม่ได้นั่งขัดสมาธิเพื่อทำสมาธิแบบของทางตะวันออกนะ ครับ แต่มักจะนั่งบนตั่งหรือเก้าอี้แทน ไม่ก็ยืนไปเลย) ทำจิตให้สงบเพื่อปลุกเร้าและปลดปล่อยพลังงาน Zee (คล้ายกับชี่หรือพลังลมปราณ) วาดมือผ่านบอลเบาๆ 3 ครั้ง อาจมากกว่านี้ ในช่วงต้นของการฝึก แต่ไม่ควรน้อยกว่า 3 ครั้ง และอย่าให้สัมผัสโดนคริสตัลบอล รู้สึกถึงการถ่ายเทหนุนเวียนพลังงานระหว่างมือกับคริสตัลบอล ผ่อนคลายจิตใจและร่างกาย เปิดเปลือกตาช้าๆ มองไปที่ลูกแก้วโดยไม่ต้องเพ่ง เป็นการมองแบบผ่านๆ เหมือนการมองออร่า และไม่ต้องมุ่งหวังว่าจะต้องเห็นสิ่งใดในการฝึกครั้งแรกๆ ไม่ต้องเสียใจหรือพยายามเพ่งมองให้เกิดภาพ จะกลายเป็นการหลอกตัวเองไปเปล่าๆ ในช่วงต้นนี้ ไม่ควรฝึกมองนานเกิน 30 นาทีต่อครั้งต่อวัน ในการมองครั้งแรกนี้ อาจเห็นสิ่งประหลาดบ้าง หรือไม่เห็นอะไรเลย อย่าตกใจและอย่าท้อ ทุกคนย่อมต้องอาศัยการฝึกและการใช้บ่อยๆ รวมถึงการหล่อหลอมประสบการณ์และความชำนาญในการมองภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจ และการมองเห็นที่แจ่มชัดขึ้น ไม่มีข้อกำหนดเช่นกันว่าทุกคนจะต้องเห็นเป็นภาพทุกครั้ง บางคนหรือบางครั้งอาจเห็นเป็นสัญลักษณ์ หรือได้ยินเป็นเสียง หรืออาจมีการรับสัมผัสอื่นๆได้อีก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเครื่องรับสัญญาณของแต่ละคน
หลัง จากฝึกไปได้ระยะเวลาหนึ่ง สิ่งที่เห็นในช่วงตันนี้มักเป็นกลุ่มหมอก หรือควัน หรือเมฆ ส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว แต่ก็มีบ้างที่เป็นสีสันต่างๆออกไปในช่วงแรกอาจยังไม่สามารถตีความหมายใดๆ ได้ ซักระยะหนึ่งของการฝึก กลุ่มเมฆหมอกเหล่านี้ จะค่อยๆจางลงหรือปรากฏเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเอง หากไม่เห็นอะไร อย่าพยายามฝืนหรือคิดจินตนาการไปเอง เพราะจะกลายเป็นการสร้างภาพ ทำให้คำพยากรณ์ผิดเพี้ยนไป นี่คือหลักการของการใช้ Psychic Reading
การตั้งคำถาม
คำ ถามส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับบุคคลหรือสถานที่ หลังจากสามารถมองเห็นภาพต่างๆ ได้ดีพอสมควรแล้ว การฝึกตั้งคำถามในใจ จะช่วยให้การฝึกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในช่วงแรกของขั้นตอนนี้ ให้คิดถึงบุคคลหรือสถานที่ อันเป็นที่รู้จักหรือกำลังต้องการพบเจอไว้ในใจ ภาพที่ได้ส่วนใหญ่จะเป็นภาพลอยๆของบุคคลหรือสถานที่นั้น หรือเป็นภาพที่ไม่อาจแปลความหมายได้ ควรฝึกและทดลองตั้งคำถามในใจกับตัวเอง จนเกิดความคล่องแคล่วชำนาญ สามารถตั้งคำถามได้ตามความต้องการของจิตใจ สามารถมองภาพต่างๆ ได้สมบูรณ์ชัดเจนดี และมีความมั่นใจในความสามารถของตนเองอย่างมั่นคงดีแล้ว จึงสามารถออกทำนายให้แก่ผู้อื่นได้ สิ่งที่ควรจำก็คือ การขาดความเชื่อมั่นในพลังและความสามารถของตนและความกังวลหรือประหม่า จะทำให้คุณไม่สามารถใช้พลังของตนเองและของธรรมชาติได้
การพยากรณ์ให้แก่ผู้อื่น
ให้ ทำทุกอย่างตามขั้นตอนที่ได้ฝึกมา (ตอนฝึกอาจจะนานมาก แต่เมื่อเกิดความชำนาญ ขั้นตอนการเตรียมตัวเข้าสู่การพยากรณ์จะใช้เวลาน้อยลง) ให้ผู้รับการทำนายอังมือไว้เหนือคริสตัลบอลสักครู่ พร้อมกับทำใจให้สงบ ตั้งสมาธิถึงสิ่งที่เขาต้องการทราบแล้วจึงเริ่มการทำนาย โดยอธิบายถึงสิ่งที่เราเห็นให้แก่ผู้มารับการทำนาย แต่ต้องจำไว้อย่างหนึ่งว่า อย่าทำนายให้แก่ผู้ใด จนกว่าเราจะมั่นใจในพลังและความสามารถของตน ความประหม่าและกังวลจะนำไปสู่ความผิดพลาดอย่างร้ายแรงในอนาคต อันจะทำให้เราเสื่อมเสีย ...
แต่หากมีเพียงเล็กน้อยก็ไม่มีผลมาก นัก และในระหว่างการซื้อ ควรถามผู้ขายให้แน่ชัดว่า หินชนิดนั้นๆ มีข้อควรระวังในการใช้และการเก็บรักษาอย่างไรบ้าง
ต้อนรับคริสตัลสู่ชีวิต
หลัง จากที่เราซื้อคริสตัลบอลมาแล้ว ให้พยายามตรงกลับบ้านทันที ล้างบอลด้วยน้ำสะอาด และสบู่เหลวเจือจาง (อาจผสมเกลือทะเลเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับชนิดของหิน) หลังจากนั้น ใช้ผ้าสะอาดชิ้นเล็กเช็ดให้แห้ง ไม่ต้องถูนะครับ เวลาล้างควรจับให้มั่น เพราะหินส่วนใหญ่จะลื่น อาจทำตกเสียหายได้ หลังจากนั้น ลูบไล้ด้วยน้ำมันหอมเบาๆ ให้ทั่ว แต่ไม่ต้องมากนัก น้ำมันจันทน์ หรือน้ำมันจากอำพันก็เป็นทางเลือกที่ดี
การ ล้างด้วยน้ำในครั้งแรกนั้น เป็นการล้างสิ่งสกปรกทางภายนอกหรือทางกายภาพ ซึ่งอาจติดมาจากกระบวนการผลิตหรือขนส่ง หรือจากการวางอยู่ในร้านค้า ส่วนการลูบไล้ด้วยน้ำมันหอมนั้น เป็นการชำระ ภายใน คือการล้างพลังงานที่ไม่พึงประสงค์ออกจากคริสตัลบอล ในขณะที่ลูบไล้ด้วยน้ำมันหอมนั้น ควรตั้งจิตอธิษฐาน เพื่อช่วยในการชำระสิ่งไม่ดีออกจากคริสตัลบอลด้วย หลังจากนั้น ห่อด้วยผ้าผืนใหญ่ที่เตรียมไว้ แล้วใส่ลงในกล่องหรือหีบที่เตรียมไว้ เก็บไว้อย่างสงบอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ จึงนำออกมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ก่อนนำไปใช้
ในระหว่างขั้นตอนเหล่านี้ อาจมีการจุดเทียนและเครื่องหอม เปิดเพลงสำหรับฝึกสมาธิเบาๆ และสวดมนต์หรือกล่าวอะไรเล็กน้อย เพื่อเป็นการต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าสู่บ้านหรือวิถีการดำเนินชีวิตของเรา
การมองคริสตัลบอลและการพยากรณ์
ดัง ที่ได้กล่าวไปข้างต้น ว่าเราสามารถมองคริสตัลบอลได้ในหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้พยากรณ์ สิ่งเหล่านี้ จะเกิดขึ้นได้ จากการทดลองฝึกปฏิบัติด้วยตนเองเท่านั้น ไม่มีใครสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ที่แน่นอนตายตัวได้
ในการเปิดใช้คริสตัลบอล ครั้งแรก ควรเริ่มในคืนเดือนมืดหรือวันข้างขึ้นต้นๆ (เช่น ขึ้น 1 ค่ำ) เลือกเวลาที่ทุกสิ่งเงียบสงบ และแน่ใจว่าคุณจะไม่ถูกรบกวน หากเป็นไปได้ให้เลือกเวลาพระอาทิตย์ตกแต่ยังไม่มีดดังที่กล่าวไว้แล้ว เนื่องด้วย ชาวโรมาเนียถือว่าเป็น Magical Time หรือเวลาแห่งมายานั่นเอง สภาพของห้องหรือสถานที่ควรจัดตามที่ได้อธิบายไว้ข้างต้น
หลัง จากนั้น นำคริสตัลบอลออกจากล่อง และค่อยๆ เปิดผ้าที่ห่อหุ้มไว้ออก และค่อยๆ วางลงบนโต๊ะ นั่งห่างจากคริสตัลบอลพอสมควร ในระยะที่สบายสำหรับผู้ฝึก ไม่มีข้อกำหนดใดๆ กล่าวไว้ว่าจะต้องนั่งอย่างไรหรือมีระยะห่างเท่าไหร่ แต่ควรเป็นท่านั่งที่สบาย สามารถนั่งได้นานๆ และสามารถทำสมาธิได้ (ส่วนใหญ่ชาวตะวันตกจะไม่ได้นั่งขัดสมาธิเพื่อทำสมาธิแบบของทางตะวันออกนะ ครับ แต่มักจะนั่งบนตั่งหรือเก้าอี้แทน ไม่ก็ยืนไปเลย) ทำจิตให้สงบเพื่อปลุกเร้าและปลดปล่อยพลังงาน Zee (คล้ายกับชี่หรือพลังลมปราณ) วาดมือผ่านบอลเบาๆ 3 ครั้ง อาจมากกว่านี้ ในช่วงต้นของการฝึก แต่ไม่ควรน้อยกว่า 3 ครั้ง และอย่าให้สัมผัสโดนคริสตัลบอล รู้สึกถึงการถ่ายเทหนุนเวียนพลังงานระหว่างมือกับคริสตัลบอล ผ่อนคลายจิตใจและร่างกาย เปิดเปลือกตาช้าๆ มองไปที่ลูกแก้วโดยไม่ต้องเพ่ง เป็นการมองแบบผ่านๆ เหมือนการมองออร่า และไม่ต้องมุ่งหวังว่าจะต้องเห็นสิ่งใดในการฝึกครั้งแรกๆ ไม่ต้องเสียใจหรือพยายามเพ่งมองให้เกิดภาพ จะกลายเป็นการหลอกตัวเองไปเปล่าๆ ในช่วงต้นนี้ ไม่ควรฝึกมองนานเกิน 30 นาทีต่อครั้งต่อวัน ในการมองครั้งแรกนี้ อาจเห็นสิ่งประหลาดบ้าง หรือไม่เห็นอะไรเลย อย่าตกใจและอย่าท้อ ทุกคนย่อมต้องอาศัยการฝึกและการใช้บ่อยๆ รวมถึงการหล่อหลอมประสบการณ์และความชำนาญในการมองภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจ และการมองเห็นที่แจ่มชัดขึ้น ไม่มีข้อกำหนดเช่นกันว่าทุกคนจะต้องเห็นเป็นภาพทุกครั้ง บางคนหรือบางครั้งอาจเห็นเป็นสัญลักษณ์ หรือได้ยินเป็นเสียง หรืออาจมีการรับสัมผัสอื่นๆได้อีก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเครื่องรับสัญญาณของแต่ละคน
หลัง จากฝึกไปได้ระยะเวลาหนึ่ง สิ่งที่เห็นในช่วงตันนี้มักเป็นกลุ่มหมอก หรือควัน หรือเมฆ ส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว แต่ก็มีบ้างที่เป็นสีสันต่างๆออกไปในช่วงแรกอาจยังไม่สามารถตีความหมายใดๆ ได้ ซักระยะหนึ่งของการฝึก กลุ่มเมฆหมอกเหล่านี้ จะค่อยๆจางลงหรือปรากฏเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเอง หากไม่เห็นอะไร อย่าพยายามฝืนหรือคิดจินตนาการไปเอง เพราะจะกลายเป็นการสร้างภาพ ทำให้คำพยากรณ์ผิดเพี้ยนไป นี่คือหลักการของการใช้ Psychic Reading
การตั้งคำถาม
คำ ถามส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับบุคคลหรือสถานที่ หลังจากสามารถมองเห็นภาพต่างๆ ได้ดีพอสมควรแล้ว การฝึกตั้งคำถามในใจ จะช่วยให้การฝึกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในช่วงแรกของขั้นตอนนี้ ให้คิดถึงบุคคลหรือสถานที่ อันเป็นที่รู้จักหรือกำลังต้องการพบเจอไว้ในใจ ภาพที่ได้ส่วนใหญ่จะเป็นภาพลอยๆของบุคคลหรือสถานที่นั้น หรือเป็นภาพที่ไม่อาจแปลความหมายได้ ควรฝึกและทดลองตั้งคำถามในใจกับตัวเอง จนเกิดความคล่องแคล่วชำนาญ สามารถตั้งคำถามได้ตามความต้องการของจิตใจ สามารถมองภาพต่างๆ ได้สมบูรณ์ชัดเจนดี และมีความมั่นใจในความสามารถของตนเองอย่างมั่นคงดีแล้ว จึงสามารถออกทำนายให้แก่ผู้อื่นได้ สิ่งที่ควรจำก็คือ การขาดความเชื่อมั่นในพลังและความสามารถของตนและความกังวลหรือประหม่า จะทำให้คุณไม่สามารถใช้พลังของตนเองและของธรรมชาติได้
การพยากรณ์ให้แก่ผู้อื่น
ให้ ทำทุกอย่างตามขั้นตอนที่ได้ฝึกมา (ตอนฝึกอาจจะนานมาก แต่เมื่อเกิดความชำนาญ ขั้นตอนการเตรียมตัวเข้าสู่การพยากรณ์จะใช้เวลาน้อยลง) ให้ผู้รับการทำนายอังมือไว้เหนือคริสตัลบอลสักครู่ พร้อมกับทำใจให้สงบ ตั้งสมาธิถึงสิ่งที่เขาต้องการทราบแล้วจึงเริ่มการทำนาย โดยอธิบายถึงสิ่งที่เราเห็นให้แก่ผู้มารับการทำนาย แต่ต้องจำไว้อย่างหนึ่งว่า อย่าทำนายให้แก่ผู้ใด จนกว่าเราจะมั่นใจในพลังและความสามารถของตน ความประหม่าและกังวลจะนำไปสู่ความผิดพลาดอย่างร้ายแรงในอนาคต อันจะทำให้เราเสื่อมเสีย ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น