ครั้งแรกที่มีการค้นพบร็อดซ์นั้นก็คงต้องย้อนกลับไปในเดือนมีนาคมเมื่อปี ค.ศ.1994 สถานที่ก็คือแถวทะเลทรายในแถบนิวเม็กซิโกครับ โดยได้มาจากฟิล์มของกล้องความเร็วสูงที่ถ่ายติดมาได้โดยบังเอิญ O_O และสำหรับผู้ที่ค้นพบร็อดซ์เป็นครั้งแรกและเป็นที่รู้จักกันค่อนข้างมากนั้น (กระทั่งเรื่องโจโจ้ก็ยังนำไปเขียน) คือกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ถ่ายวิดีโอแล้วดันติดร็อดซ์เอาไว้ได้
เมื่อตอนไปกระโดดร่มเล่นที่หน้าผาในนิวเม็กซิโก แต่ภายหลังก็ได้มีภาพถ่ายจากทั่วทุกสารทิศอ้างว่าถ่ายรูปร็อดซ์เอาไว้ได้นานแล้วแต่ไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร น่าปวดหัวจริงๆ ตกลงผู้ค้นพบร็อดซ์เป็นคนแรกจริงๆ ก็ไม่เป็นที่รู้แน่ชัดละครับว่าเป็นใคร แต่สำหรับบุคคลแรกที่เป็นผู้ที่ทำให้โลกนี้รู้จักกับร็อดซ์ก็คือนาย Jose Escamilla ซึ่งได้นำเรื่องราวของร็อดซ์ไปออกรายการวิทยุ ArtBell(หมอนี่ก็คือเจ้าของเวบ Roswell Rods นั่นเองครับ) และจากนั้นต่อมาเรื่องราวของร็อดซ์ก็เริ่มเป็นที่โด่งดังไปทั่วครับ อ้อ ร็อดซ์นั้นไม่ได้อาศัยหรือมีเพียงแค่ในนิวเม็กซิโกเท่านั้นนะครับ ปัจจุบันนั้นได้พบว่าร็อดซ์นั้นกระจายอยู่ทั่วไปทั้งในอเมริกา แคนาดา อังกฤษ หรือกระทั่งล่าสุดก็มีการพบร็อดซ์ที่แบกแดดอีกด้วย
เมื่อตอนไปกระโดดร่มเล่นที่หน้าผาในนิวเม็กซิโก แต่ภายหลังก็ได้มีภาพถ่ายจากทั่วทุกสารทิศอ้างว่าถ่ายรูปร็อดซ์เอาไว้ได้นานแล้วแต่ไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร น่าปวดหัวจริงๆ ตกลงผู้ค้นพบร็อดซ์เป็นคนแรกจริงๆ ก็ไม่เป็นที่รู้แน่ชัดละครับว่าเป็นใคร แต่สำหรับบุคคลแรกที่เป็นผู้ที่ทำให้โลกนี้รู้จักกับร็อดซ์ก็คือนาย Jose Escamilla ซึ่งได้นำเรื่องราวของร็อดซ์ไปออกรายการวิทยุ ArtBell(หมอนี่ก็คือเจ้าของเวบ Roswell Rods นั่นเองครับ) และจากนั้นต่อมาเรื่องราวของร็อดซ์ก็เริ่มเป็นที่โด่งดังไปทั่วครับ อ้อ ร็อดซ์นั้นไม่ได้อาศัยหรือมีเพียงแค่ในนิวเม็กซิโกเท่านั้นนะครับ ปัจจุบันนั้นได้พบว่าร็อดซ์นั้นกระจายอยู่ทั่วไปทั้งในอเมริกา แคนาดา อังกฤษ หรือกระทั่งล่าสุดก็มีการพบร็อดซ์ที่แบกแดดอีกด้วย
ในปัจจุบันทั้งหลักฐานและข้อมูลต่างๆ ที่ทำการศึกษามาก็ยังไม่อาจที่จะระบุได้แน่ชัดเลยครับว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตปริศนาชนิดนี้คืออะไรกันแน่ เท่าที่ทราบกันก็คงจะเป็นแค่เรื่องที่ว่ามันใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในอากาศ รูปร่างเป็นแท่งยาว มีปีกหรือครีบอยู่รอบลำตัว บินได้เร็วประมาณ 270-300 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับความเร็วขนาดนี้ แน่นอนครับ ตาคนธรรมดามองไม่เห็นหรือมองตามไม่ทันแน่ อีกปัจจัยหนึ่งก็คือเป็นเพราะว่าขนาดตัวของร็อดซ์มีขนาดเล็ก เฉลี่ยประมาณ 4 นิ้ว (แต่ก็มีบางข้อมูลนะครับที่บอกว่าร็อดซ์นั้นบางตัวอาจมีความยาวถึง 100 ฟุตก็เป็นได้ ค่อนข้างที่จะเหลือเชื่ออยู่สักหน่อย เหอ เหอ) และสีผิวค่อนข้างที่จะขาวหรือขาวใสด้วยครับ เลยทำให้เวลามันเคลื่อนที่อยู่นั้น เราจึงไม่อาจที่จะมองตามมันได้ทันเลย ส่วนเรื่องอาหารการกิน การสืบพันธุ์ พฤติกรรมต่างๆ ของร็อดซ์นั้น ที่เรารู้แทบจะเป็นศูนย์ครับ และส่วนในด้านรูปร่างของร็อดซ์ก็มีการแบ่งแยกย่อยออกไปอีกครับ
มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ
(1.) Centipede Rods
(2.) White Rods
(3.) Spears Rods
ก็ยังอุตสาห์จัดชนิดของรูปร่างกันอีกแน่ะ ส่วนฉายาหรือชื่อที่เรียกร็อดซ์นั้นก็มีอยู่หลายชื่อครับ ไม่ว่าจะเป็น Roswell Rods, The Sky Diving, Flying Fish, Sky Fish แต่เราๆ ท่านๆ ก็คงจะคุ้นเคยกับคำว่าร็อดซ์เฉยๆ กันมากกว่า จากบันทึกโบราณทางประวัติศาสตร์ก็มีการกล่าวถึงเรื่องราวของสัตว์ปริศนาที่บินได้ อยู่เหมือนกัน แต่คนละกรณีกับร็อดซ์นะครับ แต่ขอเอามาเล่าหน่อยนึง อย่างในหลายๆ ประเทศ เช่น ในจีนเมื่อ ค.ศ. 747 (นานมากๆ) ก็มีบันทึกของสัตว์ที่คล้ายกับงูมีปีกบินได้ (มังกร ?) อยู่ แล้วก็ในยุโรปช่วงยุคกลางก็มีเรื่องเล่าของสัตว์ยักษ์มีปีกที่บินอยู่บนท้องฟ้าและอาศัยอยู่ในถ้ำ หรือกระทั่งในอเมริกายุคของอินเดียนแดงก็ยังมีจารึกของสัตว์ปริศนาบินได้อยู่ ก็เพียงแต่นำมาแทรกนิดนึงครับ ไม่มีอะไรมาก มาต่อกันที่เรื่องของร็อดซ์ดีกว่า ทุกวันนี้ได้มีการศึกษาและค้นคว้ากันอยู่นะครับ จากนักวิทยาศาสตร์ นักสัตววิทยาและผู้เชี่ยวชาญที่สนใจในเรื่องนี้อย่างจริงจัง และได้วิเคราะห์กันว่าแท้จริงแล้วมันคืออะไรหรือตัวอะไรกันแน่ บ้างก็กล่าวว่ามันอาจจะเป็นเพียงแค่แมลงชนิดหนึ่งที่เรายังไม่รู้จัก ไม่ก็อาจจะเป็นนกสายพันธุ์ใหม่ หรือกระทั่งว่ามันอาจจะเป็นแสงที่กระทบจากพื้นดินแล้วไปเกิดเป็นรูปร่างติดอยู่บนกล้องก็เป็นได้ แต่บ้างก็ว่าร็อดซ์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตต่างพิภพ มนุษย์ต่างดาว หรือแม้แต่ยานอวกาศสอดแนมขนาดจิ๋ว ก็ว่ากันไปครับ
ที่มา : ____________________ เครดิต : ____________________
ยังมีทฤษฎีหรือข้อคิดเห็นนึงที่น่าสนใจว่าร็อดซ์อาจจะเป็นเพียงภาพแบบเบลอๆ ของนกเวลาบินหรือเปล่า งงมั๊ยเนี่ย ถ้าว่ากันง่ายๆ ก็คือ รูปร่างของร็อดซ์นั้นอาจจะเกิดมาจากการที่กล้องวิดิโอความเร็วสูงถ่ายเอาไว้ เช่นกล้อง CCD ที่มีความเร็วมากกว่า 60 ช็อต/วินาที ซึ่งเวลานกหรือแมลงกระพือปีกก็จะถูกบันทึกไว้ด้วยความเร็วสูงของกล้อง จนทำให้เกิดภาพต่อเนื่องขึ้นและกลายเป็นรูปร่างของร็อดซ์ไป ดูได้จากรูปเลยครับ นับว่าน่าสนใจดีทีเดียวครับ สำหรับทฤษฎีนี้ แต่ก็ยังใช้อธิบายเรื่องร็อดซ์ไม่ได้ทุกเรื่องไปอยู่ดีนั่นแหละครับ แต่แนวคิดนี้ก็ค่อนข้างที่จะเป็นที่นิยมกันทีเดียวเจียวนะครับนี่ สำหรับผู้ที่ค้านเรื่องร็อดซ์ทีนี้เราลองมาเปรียบเทียบความเร็วในการกระพือปีกหรือ Speed ของนกและแมลงกับร็อดซ์ดูบ้าง แมลง: จะมีตั้งแต่ 2-1,500 ครั้ง/วินาที โดยขึ้นอยู่กับชนิดของแมลง ส่วนแมลงที่มีความเร็วในการบินสูงที่สุดก็คือแมลงปอ และความเร็วในการกระพือปีกมากกว่า 1,500 ครั้ง/วินาที และสามารถบินได้ประมาณ 50-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง
นก: จะมีตั้งแต่ 5-200 ครั้ง/วินาที ขึ้นอยู่ชนิดอีกนั่นแหละครับ ส่วนนกที่บินได้เร็วที่สุดก็คือนกฮัมมิ่งเบิร็ด มีความเร็วในการกระพือปีกกว่า 200 ครั้ง/วินาที และบินได้เร็วประมาณ 50-55 กิโลเมตร/ชั่วโมง ร็อดซ์: มีความสามารถในการบินเร็วประมาณ 270-300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนความเร็วของการกระพือปีกหรือการเคลื่อนไหวของครีบข้างลำตัวโดยการสันนิษฐานก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 5,000-10,000 ครั้งหรือรอบ/วินาที โดยประมาณน่ะครับ เป็นตัวเลขมหาศาลมากอย่างไม่น่าเชื่อเลยครับว่าสิ่งมีชีวิตจะสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ปัญหาในด้านการขบคิดหรือเป็นที่ถกเถียงกันมากในเรื่องที่เกี่ยวกับร็อดซ์นั้นก็อยู่มีเยอะแยะไปหมด เรียกได้ว่าทุกเรื่องของร็อดซ์นี่วิเคราะห์กันได้มากมายหลายประเด็นไปหมดละครับ
นก: จะมีตั้งแต่ 5-200 ครั้ง/วินาที ขึ้นอยู่ชนิดอีกนั่นแหละครับ ส่วนนกที่บินได้เร็วที่สุดก็คือนกฮัมมิ่งเบิร็ด มีความเร็วในการกระพือปีกกว่า 200 ครั้ง/วินาที และบินได้เร็วประมาณ 50-55 กิโลเมตร/ชั่วโมง ร็อดซ์: มีความสามารถในการบินเร็วประมาณ 270-300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนความเร็วของการกระพือปีกหรือการเคลื่อนไหวของครีบข้างลำตัวโดยการสันนิษฐานก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 5,000-10,000 ครั้งหรือรอบ/วินาที โดยประมาณน่ะครับ เป็นตัวเลขมหาศาลมากอย่างไม่น่าเชื่อเลยครับว่าสิ่งมีชีวิตจะสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ปัญหาในด้านการขบคิดหรือเป็นที่ถกเถียงกันมากในเรื่องที่เกี่ยวกับร็อดซ์นั้นก็อยู่มีเยอะแยะไปหมด เรียกได้ว่าทุกเรื่องของร็อดซ์นี่วิเคราะห์กันได้มากมายหลายประเด็นไปหมดละครับ
แต่สำหรับหัวข้อปัญหายอดฮิตที่มีการพูดถึงกันมากที่สุดของเจ้าร็อดซ์ก็เห็นจะเป็นดังนี้เลยครับ
1. ร็อดซ์มีความเร็วในการเคลื่อนที่สูงมาก ประมาณ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง เท่าที่ทราบและจากรูปถ่าย ความสามารถในการเคลื่อนที่หรือบินได้อย่างรวดเร็วนั้นน่าจะมาจากการกระพือปีกหรือครีบ แน่นอนว่าย่อมต้องการพลังงานในการเคลื่อนที่สูงตามไปด้วย (Input Energy = Output Energy + Lost Energy) ปัญหาที่สำคัญคือมันกินอะไรเป็นอาหาร ? แล้วกินยังไงในเมื่อมันแทบจะไม่ได้หยุดนิ่งหรือหยุดอยู่เฉยๆ เลย ?
2. ทำไมเราไม่เคยมีการค้นพบซากของร็อดซ์เมื่อเวลามันตายแล้ว ? ในเมื่อมันมีอยู่ทั่วไป และก็ค่อนข้างที่จะเยอะแยะอยู่ แต่ทำไมไม่มีคนพบตัวมันเวลามันตายแล้วล่ะ หรือว่าพอมันตายแล้วจะย่อยสลายตัวเลยแบบในโจโจ้ อันนี้ก็น่าสนใจอยู่ครับ แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้มากเท่าไหร่
3. เวลาที่ร็อดซ์บินนั้นมันไม่ชนถูกอะไรเลยหรือ ? ครับ ลองพิจารณาจากความเร็วสูงขนาดนั้นในการบินของมัน การที่มันจะบินชนอะไรสักอย่างนี่ โอกาสมีสูงมากๆๆ ทีเดียว แล้วทีนี้ร็อดซ์ทำยังไงล่ะที่ให้ตัวมันไม่บินไปชนกับอะไรเลย ควบคุมทิศทางยังไง ? ใช้เรดาร์หรือโซนาร์แบบค้างคาวหรือ ? ก็ไม่น่าจะใช่ ยิ่งบินเร็วเท่าไหร่ยิ่งควบคุมทิศทางในการบินได้ค่อนข้างยาก แต่เท่าที่ผมได้ดูวิดีโอบันทึกการบินและการเคลื่อนไหวของร็อดซ์นั้น ดูมันบินได้พริ้วดีทีเดียวละครับ แต่ลักษณะการบินค่อนข้างจะคล้ายแมลงนะครับ
4. ปัญหาในด้านการสืบพันธุ์ อืมม์ๆๆ แล้วมันจะสืบพันธุ์กันยังไงหว่า ในเมื่อบินซะเร็วขนาดนั้น หรือว่าอาจจะมีเวลาสำหรับสืบพันธุ์โดยเฉพาะ อันนี้ยังไม่ทราบเป็นที่แน่ชัดครับ และรวมไปถึงรายละเอียดเรื่องของการนอนหรือหยุดบินของร็อดซ์อีกด้วยว่ามันทำยังไง นี่ก็เป็นคำถามยอดฮิตของร็อดซ์โดยเฉพาะเลย อ้อ แถมอีกหน่อย มีการค้นพบว่าร็อดซ์สามารถบินลงไปในน้ำได้ด้วยนะครับ ไม่ใช่ได้แต่บินว่อนอยู่แต่ในอากาศเท่านั้น
ถึงแม้ว่าร็อดซ์จะเริ่มเป็นที่โด่งดังไปทั่วตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ 1994 เป็นต้นมา แต่ก็มีผู้ที่กล่าวว่าตัวเองก็เคยถ่ายติดรูปร็อดซ์เอาไว้ได้มานานแล้วอยู่เหมือนกันครับ เพียงแต่ว่าเค้าไม่รู้ว่ามันเป็นตัวอะไร เจ้าของรูปที่ว่านี้ก็คือ Linda Hewett หญิงชาวแคนาดา โดยเธอกล่าวว่าได้เคยบันทึกภาพที่บังเอิญมีรูปร็อดซ์ติดมาด้วย เมื่อปี ค.ศ. 1972 ตอนที่เห็นภาพถ่ายครั้งแรกเธอก็แค่คิดว่ามันเป็นแมลงหรือตัวอะไรซักอย่างนึง ที่ติดกล้องมา เลยไม่ได้สนใจอะไรกับมันมากนัก
ถึงแม้ว่าร็อดซ์จะเริ่มเป็นที่โด่งดังไปทั่วตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ 1994 เป็นต้นมา แต่ก็มีผู้ที่กล่าวว่าตัวเองก็เคยถ่ายติดรูปร็อดซ์เอาไว้ได้มานานแล้วอยู่เหมือนกันครับ เพียงแต่ว่าเค้าไม่รู้ว่ามันเป็นตัวอะไร เจ้าของรูปที่ว่านี้ก็คือ Linda Hewett หญิงชาวแคนาดา โดยเธอกล่าวว่าได้เคยบันทึกภาพที่บังเอิญมีรูปร็อดซ์ติดมาด้วย เมื่อปี ค.ศ. 1972 ตอนที่เห็นภาพถ่ายครั้งแรกเธอก็แค่คิดว่ามันเป็นแมลงหรือตัวอะไรซักอย่างนึง ที่ติดกล้องมา เลยไม่ได้สนใจอะไรกับมันมากนัก
จนกระทั่งมารู้เอาทีหลังว่าเธอก็เคยบันทึกภาพร็อดซ์เอาไว้ได้เหมือนกัน แต่ผมดูแล้วรายละเอียดมันไม่ค่อยชัดซักเท่าไหร่แฮะ เรามาปิดท้ายกันด้วยบทสรุปของร็อดซ์กันดีกว่าครับ ว่าร็อดซ์นั้นก็คือ ?
1. สัตว์เซลเดียวที่วิวัฒนาการมาอย่างยาวนานจากโลกยุคล้านปีจนกลายมาเป็นรูปร่างเช่นปัจจุบันนี้
2. ร็อดซ์เป็นสิ่งมีชีวิตที่รูปร่างเป็นอย่างนี้มานับตั้งแต่โลกยุคโบราณแล้ว และคงสภาพเดิมมาตลอด ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปมากเท่าไหร่
3. ร็อดซ์เป็นปลาชนิดหนึ่งที่เคยอาศัยอยู่ใต้ทะเลลึกแล้วขึ้นมาอาศัยอยู่บกด้วยเหตุผลบางประการ โดยจากสังเกตรูปร่างที่เหมาะจะเคลื่อนที่ไปในน้ำมากกว่าในอากาศ
4. ร็อดซ์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มาจากนอกอวกาศ โดยอาจจะติดมากับดาวหางหรืออุกาบาตที่หล่นมายังโลก
5. ร็อดซ์คือสัตว์ต่างดาวที่อาจจะมายังโลกพร้อมกับจานบินด้วยเหตุผลบางประการ ฟู่ !!
จบแล้ว ก็คงจะแค่นี้ครับ สำหรับเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตปริศนาร็อดซ์ หวังว่าคงจะถูกใจท่านผู้อ่านกันบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ตอนแรกผมกะจะเอาไปเป็นส่วนหนึ่งของ Mystery Monsters แล้วนะเนี่ย แต่เห็นว่ามันเยอะดีก็เลยเอาออกมาฉายเดี่ยวซะ ก็เลยออกมาอย่างที่ทุกท่านเห็นนี่ล่ะครับ หุ หุ ไม่รู้จะกล่าวอะไรต่อดี เอาไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้าก็แล้วกันนะครับผม สำหรับครั้งนี้ เช่นเคย สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น