วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

“แชมป์” ยันไม่ได้ตั้งกระทู้อวยตัวเอง สันนิษฐานข่าวด้านลบน่าจะเกิดจากออกมาแฉวงการกีฬา

“แชมป์ พีรพล” ออกโรงเคลียร์ ยันไม่ได้ตั้งกระทู้อวยตัวเอง อ้างทีมงานนำล็อกอินตนไปใช้ตั้งกระทู้เพื่อเผยแพร่สกู๊ปข่าวที่แฉวงการกีฬา สันนิษฐานข่าวด้านลบน่าจะเกิดจากการที่ออกมาแฉวงการกีฬา ขอโทษชาวพันทิปที่ทำให้สับสน ไม่ท้อใจที่โดนถล่มในอินเทอร์เน็ต บอกเหตุการณ์นี้จะทำให้แข็งแกร่งรัดกุมในการทำงาน และก่อนลงเล่นการเมืองในอนาคต













กลายเป็นเรื่องขึ้นมาจนได้เมื่อมีคนเข้าไปตั้งกระทู้ในเว็ปพันทิป โดยผู้โพสต์ที่ใช้ชื่อว่า "The Guardian" โต๊ะ "ศุภชลาศัย" ในวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ในหัวข้อ "ขอโหวตให้กำลังใจ "แชมป์ ช่อง 3" คุณแมน คุณกล้า คุณคือคนที่จะพลิกวงการกีฬาไทย!" (คลิกดูรายละเอียดได้ที่ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S10531519/S10531519.html) พร้อมเนื้อหาชื่นชมการทำหน้าที่พิธีกรจากช่อง 3 "แชมป์ พีระพล เอื้ออารียกุล" จากรายการ "ช็อตเด็ดกีฬาแชมป์" เทปสัมภาษณ์ "โจ้ สืบศักดิ์" นักตะกร้อชื่อดังกรณีความไม่ชอบธรรมของสมาคมฯ และหลังจากนั้นก็มีคนเข้ามาตอบกระทู้และขุดคุ้ยว่า น่าจะเป็นแชมป์ที่เข้ามาอวยตัวเอง เพราะผู้โพสต์ใช้ล็อกอินของแชมป์

สอบถามไปยังแชมป์เจ้าตัวได้ยอมรับว่า เป็นล็อกอินของตัวเองจริงแต่เป็นการตั้งกระทู้โดยทีมงาน และขออภัยพี่น้องพันทิปในความสับสน พร้อมทั้งตั้งข้อสงสัยว่า ข่าวในด้านลบของตัวเองที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากการทำข่าวเปิดโปงวงการกีฬาในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา

“สำหรับเรื่องนี้ก็สั้นๆ ง่ายๆ นะครับ ผมต้องการสื่อสารกับแฟนๆ อย่างตรงไปตรงมา แต่ถ้าเป็นเซเลบริตี้เขาก็มักจะใช้นามแฝง แต่ของผมจะใช้ชื่อจริงเป็นแชมป์ช่อง 3 แต่ว่าผมไม่ได้มีเวลามาตอบทุกครั้งไปแต่บางครั้งเด็กฝึกงานหรือทีมงาน แม้กระทั่งแฟนคลับผมก็สามารถเข้ามาพูดคุยกันได้ (ใช้ล็อกอินเดียวกัน) ใช่ครับ”

“แต่โดยปกติแล้วถ้าผมเข้ามาเขียนเองก็จะมีการเขียนว่าแชมป์ พีรพล เอื้ออารียกุลอยู่แล้ว และก็คิดว่าสัปดาห์ที่แล้วในรายการของผมคงจะเล่นเรื่องวงการกีฬาไทยได้โดนใจหลายๆ คน ทางทีมงานเองเขาก็คงอยากจะให้คนได้เข้ามาดูกันเยอะๆ ก็เลยมีการเขียนเชียร์กันเข้าไป สุดท้ายผมก็เลยต้องเข้าไปตอบในกระทู้ว่า มันเป็นแอคเคาท์ของผมจริง แต่เรื่องอวยหรือไม่อวยนี่คือ ผมอยากจะบอกว่า ถ้าเกิดคนใกล้ตัวของผมเขียนด่าโดยใช้ล็อกอินผมมันก็คงจะออกมาฮากว่านี้อีก”

“ซึ่งผมก็คิดว่า เนื่องจากตัวสกู๊ปที่ผมทำเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มันเป็นเรื่องของกีฬาที่ไม่เคยมีใครนำเสนอมาก่อน เราทำเรื่องกีฬาไทยวงการตะกร้อกับฟุตบอลไทย ฟีดแบ็คมันค่อนข้างเป็นไปในแง่บวกเยอะ หลายๆ คนบอกว่า วงการกีฬาไม่เคยมีใครเล่นข่าวแบบนี้มาก่อน”

“พอมันเป็นแบบนี้เสร็จปุ๊บ ผมก็รู้สึกว่าประชาชนหลายๆ คนคงอยากจะถามคำถามมีคำถามอยู่ในใจเยอะ ช่วงที่ข่าวกระทู้ในพันทิปนี้มันออกมาแรงๆ ก็ดันไปประจวบเหมาะกับสกู๊ปที่ผมทำออกมาพอดี ฉะนั้นผมก็เลยรู้สึกว่า เรื่องกระทู้มันเป็นเรื่องที่เล็กมากเลยทีเดียว ผมรู้สึกว่าผมคงไม่สามารถสร้างกระแสจากพันทิปได้หรอกครับ เพราะพันทิปคอมเมนท์ผมก็เข้าไปอ่านทุกวันแหละครับ คอมเมนท์เขามีเป็นร้อยแต่ผมทำทีวีมันมีเป็นล้าน ฉะนั้นถ้าผมจะสร้างกระแสผมไปสร้างในเฟซบุ๊คหรือทวิตเตอร์ดีกว่า อย่างในทวิตเตอร์ผมมีคนตาม 3 หมื่นกว่าคนนะครับ”

“ฉะนั้นอย่าเอามาเป็นประเด็นเลยครับ คือผมน่ะรับได้น้องๆ ทีมงานเขาก็อาจจะอยากให้ประชาชนได้ดู เขาก็อาจจะเขียนชมหรืออะไรไปบ้างซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ดี ผมไม่ได้โกรธเขาเลยนะ เพราะคนเรารักกันมันก็ต้องชมกัน และผมเองก็เคยพูดว่า ผมอยากจะพลิกพันทิปด้วย พันทิปสมัยก่อนมีแต่เขียนด่าและก็ไม่เคยมีใครอยากให้ผมเข้าไป ผมรู้สึกว่า ถ้าผมจะเข้าไปสื่อสารกับพี่น้องประชาชนก็ต้องตรงและจริงใจ ผมก็เลยใช้ชื่อว่าแชมป์ช่อง 3 ซึ่งหลายคนบอกว่า บ้าหรือเปล่าใช้ชื่อจริงไปทำไม แต่ผมเขียนชื่อนามสกุลจริงลงไปทุกอย่างเพราะอยากจะตรงไปตรงมาที่สุด”

“พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาปุ๊บ ผมก็เข้าไปอธิบายในนั้นว่า ต่อจากนี้ไปผมจะต้องระมัดระวังมากขึ้น ถ้าเกิดจะมีทีมงานหรือคนที่เคยมาฝึกงานกับผมที่มีล็อกอิน ผมก็จะให้เขาใช้ได้แต่ต้องวงเล็บไว้ด้วยว่าทีมงาน แชมป์ช่อง 3 แฟนคลับหรืออะไรก็แล้วแต่”

“แต่อย่างไรก็ตามผมว่าประเด็นเหล่านี้มันเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับสกู๊ปที่ผมได้นำเสนอไปเมื่อช่วงอาทิตย์ที่แล้ว ผมไม่อยากให้ความสนใจมาอยู่ที่ตรงนี้ เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไรกับวงการกีฬาและสังคม แต่ก็ทำให้ผมได้รู้ว่าต่อจากนี้ไปต้องทำงานให้เป็นระบบมากขึ้น ผมก็ต้องขออภัยในเรื่องของความสับสนทุกอย่าง”

“แต่ผมอยากจะให้มาดูในเรื่องของประเด็นที่ทำไมข่าวมันถึงกระหน่ำมาในช่วงนี้ มันเกี่ยวกับอะไร เดี๋ยวผมจะส่งเฟซบุ๊ค ที่ผมทำสกู๊ปอาทิตย์ที่แล้วไปให้พี่ดู พี่ลองไปดูนะครับว่า ไอ้ตัวนี้มันจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้นตอนนี้หรือไม่ ผมค่อนข้างชินกับข่าวอยู่แล้ว แต่ผมเป็นกังวลกับแฟนๆ ที่เขารักและคนที่เขาหวังเกี่ยวกับวงการกีฬา อยากจะเห็นการพัฒนาพอเข้าไปอ่านแล้วมันก็คงจะบั่นทอนจิตใจ ต่อไปนี้ผมก็คงจะเข้าไปเล่นในเฟสบุ๊คกับทวิตเตอร์มากขึ้น เพราะคนที่เขารักผมเขาเห็นในพันทิปแล้วเขาบอกว่า เขาไม่อยากจะเข้าไปเห็นคนรักเขาโดนโจมตี”

“ผมก็ต้องขออภัยพ่อแม่พี่น้องพันทิปด้วยแล้วกัน และผมก็ได้เข้าไปตอบในกระทู้แล้วว่าจริงๆ มันเป็นยังไง และผมก็อยากให้เรื่องมันจบ คุณบอกว่าอยากจะให้ดาราตรงไปตรงมา พอมีเรื่องก็โดนถล่มผมก็ตกใจ แต่ในขณะเดียวกันผมก็ดีใจนะเพราะแสดงว่า ผมทำอะไรสังคมก็ยังสนใจ แต่ผมขออภัยในความสับสน แต่ประเด็นที่มันควรจะเป็นและพูดถึงกันจริงๆ ก็คือ สกู๊ปที่ผมทำออกไปมันคืออะไร และถ้าคุณจะคอมเม้นท์ผมก็ยินดีน้อมรับหมด พอสกู๊ปออกไปตอนนี้กระแสบวกมันมาเยอะมันก็ต้องมีลบเข้ามาบ้าง”

ยืนยันไม่ได้อวยตัวเอง
“ในเฟสบุ๊คในทวิตเตอร์รวมแล้วผมมีเพื่อนอยู่ 4 หมื่นกว่าคน ฉะนั้นถ้าเกิดว่าคน 4 หมื่นกว่าคนมีคนที่ไปตั้งกระทู้เกี่ยวกับผมถามว่าอวยไหม จะว่าใช่ก็ได้หรือไม่ใช่ก็ได้ ส่วนใหญ่แล้วผมจะเข้าไปตอบอย่างเดียว และอย่างที่บอกว่า ถ้าผมจะตั้งกระทู้ผมไปตั้งในเฟสบุ๊คหรือทวิตเตอร์ก็โอเคแล้วเพราะมันมี 4 หมื่นกว่าคน ในพันทิปถ้าฮอตฮิตก็จะมี 40 -50 อันหรือบางอัน 500 ซึ่งมันก็สำคัญแต่วอลุ่มมันก็น้อยกว่าทีวีอยู่แล้ว ถ้าผมจะสร้างกระแสผมไปทำในเฟซบุ๊คทวิตเตอร์ หรือทีวีดีกว่า”

“อย่างไรก็ตามครับผมก็ขอบคุณมากครับที่พี่โทรมาสอบถามผมเรื่องนี้ เพราะผมยินดีที่จะตอบทุกคำถาม ผมชัดเจนกับทุกเรื่อง อย่างเรื่องวงการกีฬาผมก็ชัดเจน มันชัดเจนจนถึงจุดที่ว่าไม่เคยมีใครกล้าทำมาก่อน พอกระแสมันบวกมาปุ๊บก็มีกระแสลบเข้ามา ฉะนั้นผมก็อยากจะฝากลิงค์คลิปรายการให้ได้ชมกันเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว วันพุธที่แล้ว วันศุกร์ที่แล้ว ก็อยากให้ลองดูกันว่า ถ้า 3 คลิปนี้มันออกไป มันมีสิทธิ์ไหมที่กระแสลบมันจะมาจากไหน อันนี้ก็แล้วแต่พี่ๆ นักข่าวกับประชาชนจะตัดสิน”

“ผมตั้งใจทำสกู๊ปเหล่านั้นมาก พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นถามว่าท้อไหม คือผมประกาศไปแล้วว่า ผมสนใจในเหตุบ้านการเมือง ผมก็รู้ว่าถ้าเกิดผมลงการเมืองมันคงจะมีเหตุการณ์เล็กๆ ที่สามารถนำเอามาเป็นประเด็นใหญ่ๆ ได้อีกเยอะ ฉะนั้นเรื่องแค่นี้ที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตวัย 27 อันนี้เป็นการทดสอบ และเป็นการเริ่มต้นอาชีพนักข่าวของผมจริงๆ ผมทำงานมา 6 ปีแต่รู้สึกว่ามันอาชีพนี้มันเพิ่งเริ่มต้นจริงๆ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เองหลังจากทำสกู๊ปออกไป มันทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นและพร้อมที่จะพัฒนา ผมยินดีกับปัญหากับอุปสรรค์ต่างๆ ที่เข้ามาจะทำให้เรารัดกุมกับการทำงานให้มากขึ้นในอนาคต”

“ถามว่าเครียดไหม มันแค่นิดเดียว เพราะเราเป็นบุคคลสาธารณะใครจะเชื่อกับเหตุการณ์อะไรที่เกี่ยวกับผมก็ดี แต่ผมก็ย้ำคำหนึ่งอยู่เสมอ ในฐานะที่ผมเป็นนักข่าวก็คือ อะไรที่ไม่ได้เห็นด้วยตาก็อย่ากุด้วยปาก”

เหมือนเป็นการสร้างภูมิก่อนลงการเมืองจริงจัง
“ถ้าเกิดเราสามารถทำให้คนดีเข้าสภาไปได้โดยที่ไม่ได้คิดจะไปเอาผลประโยชน์เข้าตัวเองได้ก็เป็นเรื่องที่ดี ทุกคนจะบอกผมเสมอว่า การเมืองมันอันตรายมันเล่นกันแรง ผมก็จะบอกว่า ก็มันเล่นกันแบบนี้คนที่เขาดีๆ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงก็เลยไม่กล้าเล่นไงครับ เหมือนอย่างที่ผมไปทำสกู๊ป 3 อันนี้ หลายๆ คนก็บอกว่า อยากเห็นพิธีกรกีฬากล้าที่จะพูดความจริง พอผมพูดความจริงขึ้นมา ก็มีกระแสบวกเกิดขึ้นสุดๆ กับลบสุดๆ ผมก็จะลองสู้ดูอีกซักตั้ง แต่ถ้าพี่น้องประชาชนและสื่อบอกว่า ถูกต้องแล้วผมก็จะลุยต่อไป”

“แต่ถ้าประชาชนบอกว่า แชมป์คุณทำรายการแบบนี้ไม่ถูกต้อง ผมก็ต้องมาพิจารณาดูเหมือนกัน ซึ่งผมทำงานตรงนี้ผมอยู่ได้เพราะประชาชนกับสื่อมวลชน ฉะนั้นเหมือนอย่างที่ผมบอก ก่อนที่จะตัดสินอะไรอยากให้ได้ย้อนไปดูถึงสกู๊ปที่ผมได้ทำไป ทุกคนจะได้รู้คำตอบและทราบถึงเจตนารมณ์ของผมที่ชัดเจนมากขึ้น”

ทำไปได้? หึ่ง! "แชมป์ พีรพล" ตั้งกระทู้อวยตัวเอง

***ลิงค์สกู๊ปรายการ "ชอตเด็ด กีฬาแชมป์" ที่ "แชมป์ พีรพล" สันนิษฐานว่า น่าจะทำให้เกิดข่าวด้านลบเพราะไปแฉวงการกีฬา

ออกอากาศวันที่ 9 พฤษาคม 2554
เจาะประเด็น สมาคมตะกร้อ ตอน 1: สืบศักดิ์ ผันสืบ เปิดใจกรณีสมาคมเอาเปรียบนักกีฬา
http://www.youtube.com/watch?v=AU0DczzIEts&feature=channel_video_title

ออกอากาศ 11 พฤษภาคม 2554
สมาคมตะกร้อ ตอน 2: สืบศักดิ์ vs การบริหารจัดการกีฬาแบบไทยๆ
http://www.youtube.com/watch?v=FWf5mvguBsc&feature=channel_video_title

ออกอากาศ 13 พฤษภาคม 2554
สมาคมฟุตบอล ตอน 1: อาจจะเป็นคนนี้... เปิดใจ "บิ๊กกร๊อง วิรัช ชาญพานิชย์" ความหวังใหม่บอลไทย!?!
http://www.youtube.com/watch?v=JL77seqbhu0&feature=channel_video_title

ออกอากาศ 16 พฤษภาคม 2554
สมาคมฟุตบอล ตอน 2: เปิดใจ "บิ๊กกร๊อง วิรัช ชาญพานิชย์" หากได้เป็นนายก เค้าจะทำอะไร?
http://www.youtube.com/watch?v=T6jaIBG8nvw&feature=channel_video_title

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น