ในราวปี 2500 ตอนนั้นผมอายุประมาณ 10-11 ขวบ ผมอาศัยอยู่กับย่าและป้าในต่างจังหวัด บ้านที่ผมอยู่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างบ้านลุงคนโตและลุงคนรองที่แยกครอบครัวจากย่าไปแล้ว บ้านทั้ง 3 หลังตั้งเรียงกันหันหน้าเข้าหาแม่น้ำใหญ่ เป็นสามหลังโดดๆ เราอยู่กันอย่างสงบเงียบ กลางวันก็ออกหาผักหาปลาไปตามเรื่อง กลางคืนก็พักหลับนอนกันแต่หัวค่ำ
ผมไม่ชอบเวลากลางคืนเลย ยิ่งถ้าเป็นหน้าหนาว ความเงียบสงัดบวกกับความหนาวทำให้บรรยากาศรอบบ้านดูวังเวงน่ากลัว หน้าหนาวปีนั้นป้าผมล้มเจ็บ มีอาการดวงตาแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ มองแต่ทางตรงไม่เหลียวซ้ายแลขวาอย่างคนปกติทั่วไป ไม่ยอมพูดจา นอนนิ่งไม่กระดุกกระดิก คืนแรกผ่านไป อีกวันอาการก็เหมือนเดิม แต่ร่างกายและสีหน้าของป้าเริ่มซูบซีดหมองคล้ำ ทุกคนเริ่มปรึกษากันว่าจะทำยังไงดี ในที่สุดก็ตกลงว่าจะพาป้าขึ้นเรือพายไปหาหมอ แต่ด้วยขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายกว่าจะพายเรือไปถึงก็จะมืดเอากลางทาง จึงคิดว่าจะออกเดินทางในเช้ามืดของอีกวัน และรอดูอาการป้าด้วย
และในคืนนั้น...ก็มีสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้น มันเป็นภาพอันน่าเกลียดน่ากลัวจนทำให้ขนลุกขนพองได้ปรากฏขึ้นแก่สายตาผม บ้านของย่าปลูกแบบไม่ได้กั้นห้อง คืนนั้นเรานอนเรียงกัน 3 คนมีผม ย่า และป้าซึ่งเป็นคนป่วย ส่วนลุงคนโตก็มานอนเป็นเพื่อนพวกเราที่นอกชานหน้าบันได ผมหลับตั้งแต่หัวค่ำ มารู้สึกตัวอีกทีก็ไม่รู้ว่าเป็นเวลาเท่าไรแล้ว เท่าที่รู้ในเวลานั้นมันดึกมากและเงียบสงัด ทันใดนั้นสายตาผมก็เหลือบไปเห็นหญิงชราที่มีใบหน้าเหี่ยวย่นไว้ผมยาวเป็นกระเซิง ใบหน้าอันน่าเกลียดน่าสะพรึงกลัวนั้น มีดวงตาที่แข็งกร้าวลุกโพลง ยายแก่คนนี้นั่งคร่อมอยู่บนอกป้าผม ตัวผมชาขยับไม่ได้ มือซ้ายผมยังกำอยู่ที่ต้นแขนขวาของย่าที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างผม พร้อมกับที่ยายแก่แลบลิ้นที่ยื่นยาวออกมาเลียหน้าของป้า แล้วผมก็หมดสติไป มารู้สึกตัวอีกทีเห็นผู้ใหญ่หลายคนมาห้อมล้อมรอบตัวผม หูผมยังได้ยินเสียงร้องไห้จากผู้ใหญ่บางคน แล้วผมก็เกิดความกลัวขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อลุงกระซิบว่า “ป้าเอ็งตายแล้ว”
ผมไม่ชอบเวลากลางคืนเลย ยิ่งถ้าเป็นหน้าหนาว ความเงียบสงัดบวกกับความหนาวทำให้บรรยากาศรอบบ้านดูวังเวงน่ากลัว หน้าหนาวปีนั้นป้าผมล้มเจ็บ มีอาการดวงตาแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ มองแต่ทางตรงไม่เหลียวซ้ายแลขวาอย่างคนปกติทั่วไป ไม่ยอมพูดจา นอนนิ่งไม่กระดุกกระดิก คืนแรกผ่านไป อีกวันอาการก็เหมือนเดิม แต่ร่างกายและสีหน้าของป้าเริ่มซูบซีดหมองคล้ำ ทุกคนเริ่มปรึกษากันว่าจะทำยังไงดี ในที่สุดก็ตกลงว่าจะพาป้าขึ้นเรือพายไปหาหมอ แต่ด้วยขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายกว่าจะพายเรือไปถึงก็จะมืดเอากลางทาง จึงคิดว่าจะออกเดินทางในเช้ามืดของอีกวัน และรอดูอาการป้าด้วย
และในคืนนั้น...ก็มีสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้น มันเป็นภาพอันน่าเกลียดน่ากลัวจนทำให้ขนลุกขนพองได้ปรากฏขึ้นแก่สายตาผม บ้านของย่าปลูกแบบไม่ได้กั้นห้อง คืนนั้นเรานอนเรียงกัน 3 คนมีผม ย่า และป้าซึ่งเป็นคนป่วย ส่วนลุงคนโตก็มานอนเป็นเพื่อนพวกเราที่นอกชานหน้าบันได ผมหลับตั้งแต่หัวค่ำ มารู้สึกตัวอีกทีก็ไม่รู้ว่าเป็นเวลาเท่าไรแล้ว เท่าที่รู้ในเวลานั้นมันดึกมากและเงียบสงัด ทันใดนั้นสายตาผมก็เหลือบไปเห็นหญิงชราที่มีใบหน้าเหี่ยวย่นไว้ผมยาวเป็นกระเซิง ใบหน้าอันน่าเกลียดน่าสะพรึงกลัวนั้น มีดวงตาที่แข็งกร้าวลุกโพลง ยายแก่คนนี้นั่งคร่อมอยู่บนอกป้าผม ตัวผมชาขยับไม่ได้ มือซ้ายผมยังกำอยู่ที่ต้นแขนขวาของย่าที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างผม พร้อมกับที่ยายแก่แลบลิ้นที่ยื่นยาวออกมาเลียหน้าของป้า แล้วผมก็หมดสติไป มารู้สึกตัวอีกทีเห็นผู้ใหญ่หลายคนมาห้อมล้อมรอบตัวผม หูผมยังได้ยินเสียงร้องไห้จากผู้ใหญ่บางคน แล้วผมก็เกิดความกลัวขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อลุงกระซิบว่า “ป้าเอ็งตายแล้ว”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น