วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ลือ "เจได" กรีดข้อมือประชด “เบสท์” รีบโต้เป็นอุบัติเหตุ ปัดมีปากเสียง

“เบสท์” ปัดทะเลาะ “เจได” รุนแรงถึงขั้นฝ่ายชายเอากระจกกรีดข้อมือตัวเอง แจงเป็นอุบัติเหตุแฟนหนุ่มถูกเพื่อนแกล้ง รับทะเลาะอีกฝ่ายถี่ แต่ไม่กระทบกระเทือนความสัมพันธ์ สาเหตุมาจากนิสัยต่างกัน ไม่เกี่ยวความเจ้าชู้ของฝ่ายชาย

เพิ่งปรับความเข้าใจหวานแหววกันได้ไม่นาน สำหรับคู่รักวัยใส “เบสท์ ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์” กับดีเจหนุ่มร่างบึ้ก “เจได ไพศาล ลิ้มจินดานุวัฒน์” แต่จู่ๆ กลับมีข่าวลือออกมาอีกว่า ทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างหนักหน่วงรุนแรง ถึงขั้นฝ่ายชายทุบกระจกเอามากรีดข้อมือตัวเอง จนต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล ซึ่งงานนี้สาวเบสท์ออกมายืนยันว่า เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับแฟนหนุ่มเท่านั้น

“พอดีพี่เขาเกิดอุบัติเหตุค่ะ เหมือนเขานอนอยู่ในห้องจัดรายการ แล้วตอนตื่นขึ้นมามีพี่ๆ กำลังแกล้งกันอยู่ ทำให้มือไปโดนตู้กระจกแล้วบาดที่ข้อมือพี่เขาที่ด้านขวา ก็เย็บไป 6 เข็ม ไม่ได้หนักหนาอะไรมากมาย แต่ตอนนี้ก็ขยับแขนขวาไม่ค่อยได้ ขับรถก็ต้องขับมือซ้าย ไม่ใช่ว่าเราทะเลาะกันจนมีเรื่องมีราวอะไร คือที่เบสท์ไม่ได้ไปโรงพยาบาลด้วย เพราะตอนที่พี่เขาเกิดอุบัติเหตุตัวเบสท์ไม่ทราบ มือพี่เขาเองก็ขยับไม่ได้เลย ไม่สามารถที่จะโทรบอกใครได้เลย ทางเอไทม์ฯก็พาเขาไปโรงพยาบาลเอง”

“เรื่องมีปากเสียงจริงๆ แล้วเราเองก็ยังมีเรื่องทะเลาะกันนิดหน่อย ไม่ได้อะไรมาก แต่ที่เขาเกิดอุบัติเหตุไม่เกี่ยวกับที่เราทะเลาะกัน มันไม่ได้ขนาดนั้นจริงๆ พี่เขาเองยังบอกเลยเดี๋ยวคนจะคิดว่า พี่กรีดข้อมือทำร้ายตัวเอง เพราะมันเกือบโดนเส้นเลือดใหญ่ มันก็น่ากลัวเหมือนกัน คือยังโชคดีที่มันไม่อันตรายมาก แต่แผล 2 นิ้วเลย แต่ยืนยันว่าแผลที่เกิดไม่ได้เกิดจากที่พี่เขาไปชกกระจก มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ ก็เลยบอกพี่เขาไว้ว่า จะทำอะไรก็ต้องระมัดระวังหน่อย อย่าแกล้งกันแรงมาก คนที่เขาแกล้งก็เสียใจนะ เขาก็รู้สึกผิด เหมือนพี่เขานอนหลับอยู่ในห้องจัดรายการไง ก็เลยไปแกล้งล็อกคอเล่น แล้วพี่เขาก็สะบัดออกแล้วเหมือนมือดันไปโดน”

“พอรู้ข่าวก็เป็นห่วงมาก พี่เขาโทรมาบอกว่าตอนนี้อยู่โรงพยาบาลนะ มาเย็บ 6 เข็ม เราก็ถามว่าพี่เขาอยู่โรงพยาบาลอะไร เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องมา พี่ๆ ทีมงานจะดูแลให้ เราก็เป็นห่วง พี่เขาก็จะเขียนสเตตัสบีบีไว้ว่า บีบีตอบกลับไม่ได้นะ เพราะพิมพ์ไม่ได้เลยจริงๆ ซึ่งพี่เขาเองก็ยังไม่ได้ทำงานปกตินะคะ แต่เขาสปิริตมากๆ คืองานที่รับไว้ทั้งหมดก็ไม่ได้แคนเซิลเลย เบสท์เองตอนแรกก็อาสาจะขับรถให้ แต่เขาบอกว่าไม่เอา...พี่กลัวตาย กลัวเจ็บหนักกว่าเดิม (หัวเราะ) เพราะเบสท์เองก็เพิ่งหัดขับรถได้ไม่ถึงปี เขาก็เลยอย่าดีกว่า พี่กลัวจะเจ็บยิ่งกว่าเดิม”

รับทะเลาะแฟนหนุ่มถี่ สาเหตุมาจากความแตกต่าง ไม่เกี่ยวข่าวฝ่ายชายเจ้าชู้ แต่ยันความสัมพันธ์ไม่สั่นคลอน

“คือยอมรับว่าเราทะเลาะกันบ่อยจริง แต่ความสัมพันธ์ก็ยังเหมือนเดิม เราเองอาจจะมีปัญหาบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่เบสท์ก็พยายามใจเย็น คุยๆ กัน เหมือนลองปรับความเข้าใจกันดูว่าปัญหามันมาจากอะไร แล้วเราต้องแก้ไขในส่วนไหน ปัญหามันไม่มีเรื่องของผู้หญิงคนอื่นมาเกี่ยวข้องเลย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความไม่เข้าใจ ความชอบที่แตกต่างกันมากกว่า บางทีพี่เขาจะบอกว่าที่เบสท์ทำเขาไม่ค่อยชอบ ส่วนที่พี่เขาทำเราก็ไม่ชอบ ก็เลยจะทะเลาะกันแบบนี้มากกว่า หรือบางทีเราตั้งชื่อสเตตัสตัดพ้อ ก็อาจจะด้วยความที่เรายังเป็นวัยรุ่น ก็จะเล่นทวิตเตอร์ เฟซบุ๊กหรือบีบีก็ตาม บางทีตั้งชื่อประชดนิดๆ หน่อยๆ เขาก็จะแบบน้องนะ...ตั้งชื่อแบบนี้อีกแล้ว ซึ่งเราเองก็เข้าใจเขา เวลาเขามาอ่านบางทีก็คงรู้สึกว่า ทำไมโกรธเขา งอนเขาอีกแล้วเหรอ”

“เขาเองก็พยายามลดนะ เราก็พยายามจะไม่เขียน ก็บอกเขาว่าพี่เอง...ก็อย่าทำให้หนูน้อยใจอีก ถ้าพี่ไม่ทำให้หนูน้อยใจ หนูก็ไม่เขียนหรอก ก็บอกเขาอย่างนี้ เขาก็บอกโอเค เราก็พยายามคุยๆ กัน อาจจะยังมีบ้างนิดๆหน่อยๆ แต่พี่เขาก็พยายามง้อนะ จริงๆ คนอาจจะมองว่าเหมือนเบสท์ที่เป็นคนง้อพี่เขา แต่จริงๆ เบสท์ไม่ได้ง้อนะ อย่างวันนั้นที่สัมภาษณ์คู่กับพี่เจได ซึ่งดูเหมือนว่าเบสท์จะค่อนข้างพูดแรงในลักษณะเหมือนไม่รักษาน้ำใจพี่เขา ก็ได้ออกมาขอโทษแล้ว แต่คนก็คิดไปว่าเหมือนพี่เจไดไม่เอาแล้ว ก็เลยต้องออกมาขอโทษ”

“พอดีมีคนถามเบสท์ค่อนข้างเยอะว่า พี่เขาบอกเลิกเราใช่ไหม ซึ่งเบสท์เองก็บอกกับเขาไปว่าไม่จริงเลย แต่พี่เจไดอาจจะไม่มีโอเคได้ออกมาพูดสักเท่าไหร่ อย่างเบสท์เองได้ออกงาน ได้มาเจอพี่ๆ สื่อก็เลยได้พูดมากกว่าพี่เขา เบสท์เองก็รู้สึกผิดกับพี่เขาจริงๆ ก็เลยออกมาขอโทษ”



ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น