กำลังเป็นดาวรุ่งมาแรงที่ทางช่อง 3 หมายมั่นปั้นมือเตรียมปั้นเป็นพระเอกอย่างเต็มตัว สำหรับหนุ่มลูกครึ่ง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ที่ตอนนี้นอกจากจะมีผู้จัดแย่งตัวกันไปร่วมงานแล้วนั้น เจ้าตัวยังมีอีเว้นท์ติดต่อขอคิวร่วมงานแทบไม่ขาดสาย จนล่าสุดทราบมาว่าค่าตัวนั้นได้ไต่ระดับพุ่งสูงปี๊ดอย่างรวดเร็วภายในปีเดียว ทำเอาผู้จัดหลายรายบ่นว่าเคยจ้างพระเอกหนุ่มในราคาเพียง 2 หมื่น แต่หลังจากที่มีชื่อเสียงกลายเป็นหนุ่มฮอต ก็ถูกปั่นราคาสูงถึง1.2แสนบาท กับกรณีดังกล่าว หนุ่มณเดชน์บอกตนไม่เคยเรื่องค่าจ้างในการทำงานแต่ละครั้ง โบ้ยทุกอย่างเป็นความพอใจของผู้จัดการ “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ที่เป็นผู้ดูแลหางานให้“ผมไม่ใช่เป็นคนคุยเรื่องราคา แต่จะมีผู้จัดการคือพี่เอ ที่ดูเรื่องพวกนี้ให้ รวมถึงเป็นคนหางานโฆษณาให้ทุกตัวเลย กับข่าวที่ออกมาผมเองยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับพี่เอเลย ส่วนเรื่องบอกว่าอัพขึ้นไปถึง1.2แสนนั้น ยิ่งไม่รู้ใหญ่เลย ต้องไปลองถามพี่เอดูนะ อีกอย่างผมว่าถ้ามันมีปัญหาเรื่องนี้จริงๆ พี่เอคงมาคุยกับผมแล้ว แต่ถ้าไม่มีปัญหาเขาก็คงไม่ต้องมาพูดอะไร”
“เรื่องคนจะมองว่าผมฉวยโอกาสอัพค่าตัว ตรงนี้ผมมองว่าก็เป็นสิทธิของแต่ละคน ผมคงไปห้ามความคิดใครไม่ได้ แต่ผมเชื่อแค่ว่าตัวเองไม่ได้เป็นแบบนั้น พอมีข่าวเรื่องอัพค่าตัวออกมาผมก็เสียหาย ก็มีหวั่นนะ(ยิ้ม) กลัวเขาจะไม่กล้ามาจ้างงานผม แต่ถามว่าถึงขั้นซีเรียสไหมไม่ซีเรียสครับ ผมไม่กลัวด้วยว่าคนจะมองว่าผมดังแล้วเปลี่ยนไปแต่ก็อย่างว่าอนาคตก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงนะ เพราะ ณ ตอนนี้ผมคิดว่าตัวเองยังเหมือนเดิม ผมพูดได้แค่สิ่งที่เป็นปัจจุบัน ถามว่าปัจจุบันนี้มองว่าตัวผมสูงเกินไปไหม ก็ไม่รู้นะผมพอใจกับทุกเม็ดเงินที่ผมได้มา เพราะเป็นความภาคภูมิใจกับผมและครอบครัวของผมด้วย”
บอกยังไม่ทราบถูกวางตัวเล่นละคร “ทองเนื้อเก้า” เป็นลูกชายของสาว “ชมพู่ อารยา เอฮาร์เก็ต” เผยตอนนี้รับละครไปแล้ว 2 เรื่อง หวั่นกระทบการเรียน ลั่นขอเลือกการเรียนมากกว่าจะตักตวงรับงานเพราะหวั่นไม่จบ 4 ปีตามเกณฑ์
“เรื่องทองเนื้อเก้าไม่แน่ใจเหมือนกันว่าได้เล่นรึเปล่า นี่ยังไม่ทราบจริงๆ ตอนนี้เท่าที่มีผมกำลังจะเปิดกล้อง เกมร้ายพ่ายรัก ของพี่ดา (หทัยรัตน์ อมตะวณิช) และก็จะมีละครของพี่แหม่ม(ธิติมา สังขพิทักษ์) เรื่อง ธรณีนี่นี้ใครครอง ต่อครับ โอกาสที่จะรับละครหลายเรื่องพร้อมกัน3เรื่องเหรอครับ ผมต้องดูก่อนว่าเวลาเรียนกับเวลางานมันจะลงตัวกันหรือเปล่า ผมคงเลือกเรียนไว้ก่อน”
“ส่วนตัวผมว่าถ่ายทีละเรื่องน่าจะไหว คือผมไม่เคยรับละครซ้อนกันกลัวว่าถ้าเจอแบบนั้นแล้วตัวเองจะไม่ไหว ตอนนี้ก็กลัวว่าจะรับงานเยอะเกินไปแล้วจะทำให้เรียนจบไม่ทัน 4 ปี ตอนนี้ก็พยายามไม่รับงานวันที่มีเรียนครับ แน่นอนผมให้ความสำคัญกับการเรียนต้องมาเป็นอันดับ1 จบมาจะได้มีอะไรทำกิน เท่าที่ผ่านมา เพื่อนก็ช่วยมากกว่า เราก็ทำได้เท่าที่เราทำ บางทีมีงานก็ให้เพื่อนตามให้ อีกอย่างเรื่องนี้ผมได้แจ้งกับทางผู้ใหญ่ของช่องแล้วขอเรื่องเรียนเป็นหลักก่อน ซึ่งทางผู้ใหญ่ก็เข้าใจ”
ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น