"กฤษณ์" โต้ ไม่เคยเล่นของใส่ "มาช่า" เผย พ่อเคยดูดวงให้ว่าจะต้องเลิกกันมาก่อนแล้ว พร้อมบอกตนจะได้แต่งงานในอีก 4 ปี เจ้าตัวปัด ไม่ขอพูดถึงเรื่องจะใช้หนี้ยังไง บอก มรสุมที่ผ่านมาเป็นความซวยที่เกิดจากกรรม ก่อนปฏิเสธแตกตอ “มดดำ” ถึงขั้นไม่ร่วมงานกันอีกต่อไป
เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่มีข่าวได้เกือบตลอดทั้งปีที่แล้วเลยทีเดียว แต่ดูจะมาหนักเอาช่วงปลายๆ ปีที่เกิดมามีเรื่องต้องเลิกรากับม่ายสาว “มาช่า วัฒนพานิช” ทำเอาดีเจตี๋ “กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์” ถึงกับไปไม่เป็นเหมือนกัน ต้องแคนเซิลงานทุกอย่างเพื่อออกมาเคลียร์ตัวเอง ว่าตนแค่ติดหนี้และจะใช้คืนแน่ๆ แต่ไม่ได้โกงที่ดินอย่างที่เป็นข่าวแน่นอน
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าพ่อของดีเจหนุ่มมีความสามารถด้านดูดวงได้แม่นสุดๆ “กฤษณ์” เลยเผยว่าพ่อเคยดูดวงให้ตนแล้วว่าต้องเลิกกับ “มาช่า” และจะมีปัญหาเกิดขึ้น แต่ก็ไม่นึกว่าจะเยอะและซวยขนาดนี้ แต่บอกพ่อทักว่าจะได้แต่งงานในอีก 3-4 ปีที่จะถึงนี้แน่นอน
“พ่อผมก็เคยดูดวงให้นะ พ่อผมดูดวงแม่นมาก เรื่องพวกนี้เขาดูให้ก่อนแล้วว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เรารู้ว่าจะเกิดอะไรพวกนี้แล้ว แต่แค่ไม่รู้รูปแบบของมันแค่นั้นเองว่ามันจะซวยขนาดนั้น แต่เห็นพ่อบอกว่าอีก 3-4 ปีมั้งผมถึงจะได้แต่งงาน แล้วก็ไม่ได้แต่งแบบเซอร์ไพรส์ ก็คือจัดเป็นพิธีทุกอย่าง ตอนนั้นผมก็อายุ 35-36 แล้วล่ะ เห็นเขาว่าอย่างนั้นนะ แต่ผมไม่ค่อยได้สนใจหรอก”
“แต่พ่อเป็นคนดูดวงแม่นมากนะ ดูให้ผมตลอด ทุกอาทิตย์ต้องกลับไปหาพ่อแล้วก็ดูดวง ช่วงที่ผ่านมาเลยเช็คดวงตลอด(หัวเราะ) แต่ผมคุยกับพ่อบ่อยอยู่แล้ว แต่สาวที่จะเข้ามาพ่อก็ไม่ได้บอกนะว่าจะเป็นแนวไหน บอกแค่ว่ามีคู่แน่ๆ แต่ตอนนี้คงแย่แล้วล่ะ ใครจะมาคบผมล่ะ ภาพลักษณ์แย่ขนาดนี้ เละเทะขนาดนี้ แต่พ่อก็บอกว่ามันเป็นช่วงมรสุมที่เข้ามา ผมก็เข้าใจ มันเป็นช่วงของมันแหละ ปีนึงมันก็ต้องมีสักครั้ง คือมันเป็นความซวย เป็นความผิดพลาด กรรมครับ ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น”
ปัดไม่ขอพูดเรื่องการใช้หนี้คืนให้กับ “มาช่า” และเรื่องราวต่างๆ อีก บอกไม่อย่างรื้อฟื้น และข่าวก็ทำตนเสื่อมเสียมาเยอะแล้ว บอกใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น
“กับข่าวที่มีกับคุณช่าเราก็ต้องยอมรับว่ามันมีผลกระทบเยอะนะ ก็ต้องเข้าใจถือว่าเป็นคราวซวยของเราแล้วกัน(หัวเราะ) จริงๆ ตอนที่ข่าวลงมันก็มีผลกระทบค่อนข้างมากนะครับ แต่ว่าพอเราได้แถลงไปแล้วและได้เอาหลักฐานมายืนยัน ผมก็ย้ำมาตลอดนะ และอยากให้พี่ๆ สื่อมวลชนลงด้วยว่าใครจะพูดยังไงพูดได้หมด แต่สิ่งที่มันจะพิสูจน์ได้ด้วยรูปธรรมก็คือหลักฐาน พอหลักฐานโชว์แล้วทุกอย่างก็จบ มันพิสูจน์โดยตัวมันเองอยู่แล้วครับ แต่เรื่องว่าผมจะใช้หนี้อะไรยังไงมันเป็นเรื่องของเราสองคนนะครับ ผมไม่ขอพูดถึงตรงนี้แล้วกัน เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวมาก ซึ่งในรายละเอียดทั้งหมดผมก็ไม่จำเป็นต้องมาอธิบายว่ามันคืออะไร ก็ให้มันจบ”
“แต่สุดท้ายจะยังไงไม่ต้องห่วงผมกับคุณช่าหรอกครับ(หัวเราะ) สุดท้ายเราก็บอกไปแล้ว คุณช่าก็พูดชัดเจน ไม่ต้องห่วงหรอกครับตรงนั้น เอาเป็นว่าการทำเอกสารขึ้นมามันเป็นเอกสารที่เราทำกันสองคน และผมไม่ได้คิดที่จะโกงอะไรคุณช่า ซึ่งสมมติว่าผมจะใช้กันหรือผมจะอะไรยังไงกันผมก็ไม่จำเป็นต้องมาบอกว่าผมใช้แล้วนะ มันเด็กๆ เราคงไม่ต้องมาบอกอะไรแล้วครับ ไม่ต้องมาเดือดเนื้อร้อนตัวแทนครับ ไม่ต้องห่วง คุณช่าเขาโตแล้วครับ(หัวเราะ)”
“แต่ผมก็ถูกดิสเครดิตไปเพราะข่าวที่มันไม่ตรงนี่แหละ เพราะฉะนั้นการนำเสนอข่าว นี่ก็ต้องกลับมาที่นักข่าวเหมือนกัน การนำเสนอข่าวคุณต้องเสนอแบบระมัดระวัง เพราะจริงๆ แล้วมันเป็นบาปนะครับ เวลาคุณนำเสนอแล้วสิ่งนั้นมันไม่ใช่ขึ้นมา แล้วมันทำลายชีวิตคนมันบาปนะ ทำอะไรก็ไม่เจริญนะเชื่อผมซิ ทำอย่างนี้ชีวิตผมโดนทำลาย มาบอกว่าผมไปโกงที่ดิน แล้วพอเอาโฉนดมาโชว์แล้วผมโกงไหมล่ะ ก็แสดงว่ามันไม่ใช่ แต่สิ่งที่ข่าวลงไปคือผมโกงที่ดิน แล้วอย่างนี้จะให้ทำยังไง แต่ในส่วนที่ผมทำบริษัทมันก็ไม่ถึงกับกระทบมาก เพราะว่าคนที่ทำธุรกิจด้วยกันเขาก็คงจะเห็นในสิ่งที่ผมมาโชว์และพูดไป ก็คงจะเข้าใจ คงจะไม่มีอะไร”
“แต่ที่เขามีข่าวกับหนุ่มฝรั่ง ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ เราเลิกกันแล้วอย่างที่บอก เขาจะไปมีข่าวกับใครหรือยังไงก็เป็นสิทธิของคุณช่า แต่ว่าตัวผมเองก็ยังไม่เห็นข่าว หมอดูบอกเขาเข้ากับฝรั่งมากกว่าเหรอ ก็ดีนะครับถ้าเกิดเป็นคนที่เขาคบ แล้วคุณช่าเลือกก็ดีครับ แต่ตัวผมยังไม่ทราบเรื่องนี้นะ ยังไม่ได้คุยกับคุณช่าเลย ยังไม่ได้ถาม เดี๋ยวจะโทรถามว่าอ้าวคบกับฝรั่งแล้วเหรอ(หัวเราะ)”
“ส่วนที่เขาถ่ายแฟชั่นล่าสุดผมเห็นแล้ว เห็นก่อนหนังสือออกอีก คุณช่าเขาส่งมาให้ดู ก็สวยดีครับ ส่งมาให้ทางโทรศัพท์ ก็เซ็กซี่ดี ผมก็บอกเขาไปว่าสวยดี ชมจริงๆ ไม่ได้กัดฟัน เราก็คุยกันปกติครับ ก็ไม่ได้มาขออนุญาตอะไรผมหรอก โอ๊ย ตอนคบก็ไม่ได้ขอ(หัวเราะ) เขาอยากถ่ายก็ถ่าย โตแล้วคงไม่ต้องมานั่งขออนุญาตกันหรอก แต่ก็ไม่ได้แรงกว่าทุกครั้งนะ ผมว่าเฉยๆ นะคราวนี้ ครั้งก่อนๆ น่าจะดูเซ็กซี่มากกว่า โอกาสรีเทิร์น คงไม่ได้ไปถึงจุดนั้นครับ เราคบปกติๆ มากกว่า คงไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไร ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติครับ”
โชว์พระหลวงปู่ทวดที่ห้อยคอติดตัวตลอด บอกศักดิ์สิทธิ์มาก แต่ไม่ขอโชว์ตะกรุดที่ห้อยไว้คู่กัน เพราะไม่อยากให้เป็นประเด็น พร้อมย้ำที่มีกระแสว่า “มาช่า” หน้าตาในวันแถลงข่าวดูเหมือนคนซึมๆ เหมือนโดนของ บอกไม่เกี่ยว แค่อดีตแฟนง่วงและตื่นเต้นเท่านั้น
“เรื่องผมเล่นของน่ะเหรอ(หัวเราะ) ไม่มีๆ แน่นอน ที่ห้อยอยู่นี่ก็พระหลวงปู่ทวด ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ วันนั้นที่หน้าคุณช่าเขาดูซึมๆ นั่นคุณช่าเขาง่วง เขาตื่นเต้นด้วย ไม่มีอะไร เอาเป็นว่าประเด็นเรื่องนี้ผมไม่ขอตอบแล้วกัน เพราะมันจบไปแล้วไม่อยากให้มาเท้าความกันต่อ แค่นี้ผมก็เสื่อมเสียมากพออยู่แล้ว ก็ฝากด้วยถ้าไปเขียนอะไรระวังดีๆ นะ ตั้งทนายไว้แล้ว(หัวเราะ) นี่เราไม่ได้ว่าหรือว่าขู่สื่อนะครับ ไม่ใช่ แต่ในส่วนของผมก็อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าผมเองก็ต้องปกป้องสิทธิของผมเอง”
ยืนยันยังเป็นเพื่อนกับไฮโซจอมแฉ “มดดำ คชาภา ตันเจริญ” อยู่เหมือนเดิม ไม่เคยงอน ไม่เคยโกรธ บอกอาทิตย์หน้าได้กลับมาทำงานด้วยกันเหมือนเดิมแน่ พร้อมเผยข่าวกับดาราสาว “ครี พัสวีพิชญ์ ศรณ์อัครภา” ก็เป็นแค่เพื่อนกัน รู้จักกันมานานแล้ว
“เรื่องผมทะเลาะกับมดดำ เอาจริงๆ เลยคือมันมีกระแสข่าวมาเยอะมาก ผมว่ามันคงเป็นกระแสข่าวที่ปั่นกันไปปั่นกันมา แต่ว่าส่วนตัวผมเองผมไม่ได้มีอะไรนะ ยังไงผมกับมดดำก็ต้องทำงานร่วมกันอยู่แล้วในรายการ “แฉแต่เช้า” อาทิตย์หน้าน่าจะได้เห็น แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกันเพราะเอ-ไทม์เขามีงานเลี้ยงของบริษัทก็เลยไม่ได้เจอกัน แล้วมดดำเขาก็ไปต่างประเทศนานด้วย แต่เดี๋ยวกลับมาอาทิตย์หน้าก็น่าจะเจอกัน เขาคงไปเที่ยวมั้งครับ แต่ไปหลายประเทศนะ”
“ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมครับ ผมปกตินะไม่มีอะไร แต่เห็นมดดำเขาไปสัมภาษณ์อะไรสักอย่างนึงรึเปล่า แต่ผมไม่ได้งอนหรอกครับ แต่ต้องถามมดดำว่าเขายังไง เพราะผมยังไม่ได้คุยกับเขาเลย ยังไม่ได้เจอเลยตั้งแต่หลังปีใหม่มาตอนช่วงวุ่นวายๆ น่ะครับ รอฟังอาทิตย์หน้าแล้วกัน อาจจะตีกันกลางรายการ ไม่มีหรอกครับ(หัวเราะ) เราก็ได้คุยกันนะครับว่ามันไม่มีอะไร แต่ตอนนั้นต้องยอมรับว่าผมแคนเซิลรายการทุกรายการ ไม่ได้จัดเลย ก็มัวแต่ปวดหัวอยู่ แล้วพอเรื่องทุกอย่างมันโอเคอาทิตย์หน้าก็คงได้จัดรายการ”
“ส่วนข่าวกับครีไม่มีอะไรเราเจอกันที่งานแค่นั้นเอง วันนั้นสื่อก็ไปกันเยอะนะ แต่เราคุยกันอยู่แล้วครับ เราเจอกันนานแล้ว ผมก็รู้จักกับครี เรารู้จักกันมาก่อนหน้าที่จะเป็นข่าวครับ แล้วก็มาเจอกันอีกทีที่งาน จริงๆ แล้วคือผมได้ไปทำอีเว้นท์ให้กับเหล้ายี่ห้อหนึ่ง เสร็จแล้วก็ไปเจอกันช่วงคริสมาส เขาก็มาร่วมงานกับทางบริษัทแค่นั้นเอง ไม่ได้ควงกันครับ เพราะวันนั้นผมไปทำอีเว้นท์ทั้งหมด 10 ที่นะครับ แล้วน้องครีกับอีกหลายๆ คนก็เป็นหนึ่งในคนที่ไปทำงานด้วยแค่นั้นเองครับ”
ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น