บ้านของหนูไม่มีผีหรอก เชื่อเถอะค่ะ หนูอยู่ตั้งแต่เกิดจนอยู่ม.3 ปีนี้แล้ว หนูนอนคนเดียวในห้องนอนของตัวเองอย่างสบาย ต้องดับไฟให้มืดสนิทด้วยนะคะ ไม่งั้นนอนไม่หลับ มันเป็นความสุขจริงๆ เลย คนที่ไม่รู้จักกลัวผีนี่น่ะ จริงไหมคะ?
แต่ในที่สุด ก็มีสิ่งมาทำลายความสุขนี้จนได้ ข้างบ้านหนูนี่ละค่ะ ตัวดีเลย!
ครอบครัวหนูมีฐานะดี คุณพ่อคุณแม่เป็นทันตแพทย์มีคนไข้เยอะแยะ ท่านเป็นคนขยันค่ะ รวยเลยละ...เสียอย่างเดียวที่ไม่ค่อยมีเวลาให้หนูเลย นอกจากจะไปส่งที่โรงเรียนเท่านั้นเอง
ตกเย็นเลิกเรียน ก็จะมีคนรถของคุณยายไปรับกลับบ้าน สะดวกสบายดีหรอกค่ะ แต่หนูอยากให้พ่อแม่ไปรับมากกว่า
เราอยู่บ้านเดียวกันเป็นครอบครัวใหญ่ ไม่ค่อยเหงาเท่าไหร่ พ่อกับแม่น่ะตอนเย็นทำคลินิกด้วยนะคะ กว่าจะกลับบ้านก็ 3-4 ทุ่มแน่ะ หนูเข้านอนแล้วละ 4 ทุ่มหนูก็ง่วงแล้ว บางคืนก็เลยไม่ได้คุยกับพ่อแม่
บ้านเราอยู่บางพลัด ในซอยที่มีคนฐานะต่างๆ คละเคล้ากันไป แถวนี้ไม่ใช่หมู่บ้านนี่คะ เป็นซอยที่ใครมีที่ดินก็มาปลูกบ้านอยู่ได้ เมื่อปีก่อนมีที่ดินว่างอยู่ 2-3 แปลง แต่เมื่อปีที่แล้วเขามาปลูกบ้านสวยงามเชียว ตอนนี้ก็เลยไม่เหลือที่รกร้างอีก
ข้างบ้านหนูเป็นบ้านไม้สองชั้น เจ้าของบ้านชื่อคุณยายเกสร อายุเกือบ 70 แล้ว ตัวผอมๆ เล็กๆ ชอบนุ่งผ้าถุง ใส่เสื้อคอกระเช้าและมีเสื้อเชิ้ตสวมทับอีกที
คุณยายเกสรใจดี ชอบคุยกับหนูข้ามรั้วบ่อยๆ ห้องนอนของหนูอยู่ติดกับหน้าต่างชั้นบนของบ้านคุณยายไงคะ
เมื่อ 4-5 ปีก่อน ลูกๆ ของคุณยายที่มี 3 คนนั้น คนแรกตายเพราะมะเร็ง คนรองกับคนสุดท้องย้ายไปอยู่กับครอบครัวเขา เหลือแต่คุณยายคนเดียว แกเลยแบ่งห้องให้เช่า ตัวเองย้ายของไปนอนชั้นล่าง
เมื่อมีใครมาเช่า หนูก็ชอบแอบสังเกตพฤติกรรมของคนพวกนี้ ไม่ใช่แอบดูนะคะ เพราะโต๊ะเขียนหนังสือหนูอยู่ติดหน้าต่าง แค่เงยหน้ามองตรงๆ ก็เห็นแล้ว
ผู้เช่าบ้านของคุณยายเกสรนี้มีหลายราย ตลอดเวลา 5 ปีมานี้ บางรายอยู่เดือนสองเดือนก็ไป บางรายอยู่เป็นปี ไม่เกินนั้น มาเป็นคู่สามีภรรยาบ้าง มาแค่คนเดียวบ้าง ถ้าเป็นผู้ชายมาเช่าหนูจะปิดม่านหน้าต่าง เพราะไม่ใช่หนูฝ่ายเดียวหรอกที่ชอบมองบ้านคนอื่น คนที่อยู่ตรงข้ามก็เหมือนกันค่ะ
อย่างรายก่อนเขาชอบมองหนู จนหนูเปิดหน้าต่างเลยดีกว่า แต่ไม่นานก็โล่งอกเพราะเขาไปแล้ว มีผู้หญิงมาเช่าอยู่แทน
เธอมาคนเดียวค่ะ สวยด้วย ยังสาวมาก อายุสัก 20 กว่าๆ ท่าทางทำงานบริษัท หนูแอบเห็นมีผู้ชายขับรถโก้ๆ มาส่ง ไม่ใช่คนเดียวนะคะ แต่มีผู้ชายหลายคนเชียวละ หนูยังนึกว่าพี่คนนี้มีแฟนเยอะจัง แต่แทนที่จะสดใสเธอกลับดูหงอยๆ ชอบกล
บางครั้งหนูได้ยินเสียงเธอพูดโทรศัพท์มือถือดังๆ เหมือนทะเลาะ แล้วก็ร้องไห้ เธอทะเลาะกับแฟนบ่อยค่ะ หนูต้องปิดหน้าต่างเพราะไม่มีสมาธิทำการบ้านเลย กลัวเธอรู้แล้วจะอายหนูด้วย
เมื่อสามเดือนก่อน มีอยู่คืนหนึ่งแอร์ในห้องหนูเสีย คุณพ่อบอกว่าน้ำยามันขาด ต้องตามช่างมาซ่อม คุณแม่จะให้หนูไปนอนด้วยแต่หนูไม่อยากไปเลยนอนเปิดพัดลม ทีนี้ตอนตีสองหนูลุกไปเข้าห้องน้ำ แล้วกลับมาจะนอนต่อ แต่เอ๊ะ...หนูเห็นอะไรแปลกๆ ที่หน้าต่างห้องของข้างบ้าน
แสงไฟถนนในซอยส่องให้พอเห็นอะไรบางอย่างแขวนห้อยลงมาจากเพดาน แกว่งช้าๆ หมุนช้าๆ หนูร้องไม่ออก ได้แต่วิ่งไปทุบประตูห้องพ่อแม่ เราตื่นกันทั้งบ้าน วุ่นวายไปหมดจนต้องเรียกคุณยายเกสร เรียกตำรวจ...
สิ่งที่หนูเห็นคือพี่คนสวยผูกคอตายกับพัดลมไงคะ! สยองมากๆ
คุณยายเกสรกับคนจากบ้านหนูช่วยกันพังประตูเข้าไป...พี่คนนั้นตายสนิท มีเลือดออกจากตา ปาก จมูก ตาเธอลืมโพลง ลิ้นจุกปากดำปี๋
หนูกลัวจับใจ ต้องให้คุณยายมานอนเป็นเพื่อน หน้าต่างบานนั้นไม่เปิดอีกเลยค่ะ แย่จริงๆ ที่หน้าต่างเราตรงกันพอดี ห่างแค่ไม่กี่เมตรเอง!
คืนที่สามหลังจากเกิดเหตุ หนูนอนอยู่ดีๆ ก็ลืมตาซะอย่างงั้น ไม่รู้ตื่นขึ้นมาทำไม? ยายนอนหลับปุ๋ย หนูก็คิดจะนอนต่อ แต่หูดันได้ยินเสียงคุ้นๆ ดังจากหน้าต่างข้างบ้าน...เป็นเสียงพูดโทรศัพท์ ถกเถียงและตัดพ้อต่อว่าแล้วก็มีเสียงร้องไห้
หนูขนลุกซ่าตัวแข็ง กลัวสุดขีดจับใจ...นั่นเสียงพี่ที่ผูกคอตายแน่ๆ
รีบเบียดตัวหาคุณยายที่ยังหลับไม่รู้เรื่อง หนูดึงผ้าห่มมาคลุมเหลือแต่ตา มองไปทางหน้าต่างที่ปิดไว้ของหนูเอง แหม...ก่อนนอนน่าจะชักผ้าม่านปิดมันอีกทีนะคะ!
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ! เสียงดังกริ๊ก...แล้วบานหน้าต่างค่อยๆ แง้มออกแบบหลุดจากกลอน ลมข้างนอกก็แรงจริงๆ มันเปิดอ้าทั้งสองบาน ทำไงล่ะ! จากเตียงนี้หนูเห็นหน้าต่างข้างบ้าน และเห็นสิ่งที่ห้อยลงมาจากพัดลมเพดาน มันแกว่งช้าๆ หมุนช้าๆ หนูหลับตาปี๋ กลัวจนอยากร้องไห้ ปากเรียกยายแต่ไม่มีเสียงออกมาเลยค่ะ
หนูนิ่งอยู่ในท่านั้นนานเหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์ และแล้ว คุณยายก็พลิกตัวตื่นหันไปมองหน้าต่างแล้วร้องอ้าว! ลุกขึ้นไปปิดหน้าต่าง หนูดึงเสื้อท่านไว้แน่น คุณยายหัวเราะบอกไม่มีอะไร ไม่ต้องกลัว...ก็ไม่เห็นสิ่งที่หนูเห็นนี่นา
รุ่งขึ้น พอเล่าให้ทุกคนฟังก็อึ้งกันไปหมด คงเชื่อนะคะ ส่วนตัวหนูเองน่ะตอนนี้ขอย้ายไปนอนห้องคุณยายเป็นการถาวร กลางวันแสกๆ ยังไม่กล้าเข้าห้องตัวเองคนเดียวเลย...กลัวจนขนหัวลุกจริงๆ ค่ะ!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น