วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2553

งูเจ้าที่

บ้านของฉันอยู่ต่างจังหวัดในแถบภาคอีสาน เป็นบ้านเดี่ยวที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้มากมายจนบางครั้งทำให้ดูน่ากลัว แต่ฉันกับครอบครัวอยู่กันมาจนจะ 10 ปี ก็ไม่เคยเจออะไรที่น่ากลัวเลย
ทว่า ได้มีสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันในวันที่ 21 มิถุนายน 2548 อันเป็นวันที่ฉันต้องอยู่คนเดียว ทุกคนต้องไปธุระกันหมดที่อีกจังหวัดหนึ่ง ฉันนอนเล่นจนถึงช่วงบ่าย กำลังจะเข้าไปอาบน้ำก็ต้องตกใจสุดขีด เพราะพอเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปก็เจองูขนาดลำไม้ลวกนอนนิ่งอยู่บนหลังโถชักโครก ฉันจึงคว้าไม้กวาดตีมันจนตาย แล้วเขี่ยลงโถส้วมแล้วกดน้ำชำระลงไป จากนั้นฉันก็ออกมาและโทรศัพท์ไปเล่าให้แม่ฟัง แม่ของฉันตกใจมาก พอครอบครัวของฉันกลับมาถึง แม่ก็ว่าฉันใหญ่ว่าไปตีงูตัวนั้นทำไม ทำไมไม่ไล่เขาไป เพราะงูตัวนั้นอาจเป็นงูเจ้าที่เจ้าทางก็ได้

วันรุ่งขึ้น แม่จึงพาฉันไปทำบุญให้กับงูตัวนั้น ครอบครัวของฉันและฉันคิดว่าเรื่องทุกอย่างจะจบลง แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น

2 วันต่อมาฉันรู้สึกปวดร้าวกระดูกลำตัวด้านซ้ายอย่างบอกไม่ถูก แม่ต้องพาไปโรงพยาบาล ฉันก็เล่าอาการที่เป็นให้หมอฟัง หมอก็ให้เอ็กซ์เรย์ ตรวจเลือด แล้วนอนให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาล 4 วัน หมอก็ให้กลับบ้านได้ (หมอบอกว่าผลการเอ็กซ์เรย์ไม่พบอะไร) แต่หลังจากกลับบ้านได้ 2 วัน ก็ต้องกลับไปโรงพยาบาลอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่มีอาการปวดร้าวกระดูกอย่างเดียว แต่ยังมีอาการหายใจไม่ออกแน่นหน้าอกอีกด้วย อาการเหมือนคนกำลังจะตาย พอไปถึงโรงพยาบาล หมอก็รีบให้ออกซิเจน พร้อมกับวัดคลื่นหัวใจแล้วก็เอ็กซ์เรย์หัวใจ แํนมีอาการอย่างนี้ทุกวัน หมอต้องให้ออกซิเจนทุกวัน กินยามื้อละ 9 เม็ดทุกมื้อ หมอก็ไม่ทราบสาเหตุจากผลของการเอ็กซ์เรย์หรือแม้กระทั่งผลของการตรวจเลือด ฉันนอนอยู่โรงพยาบาล 14 วัน หมอจึงให้กลับบ้านได้ 

วันรุ่งขึ้นแม่พาฉันไปทำบุญและถวายสังฆทานพร้อมกับรดน้ำมนต์ แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับพระสงฆ์องค์หนึ่งฟัง
ท่านฟังแล้วก็บอกว่างูที่ฉันตีเป็นงูเจ้าที่เจ้าทางเค้ามาปกป้องดูแลบ้านและดูแลรักษาครอบครัวของฉัน แล้วที่ฉันเป็นอย่างนี้ก็เพราะฉันไปตีเค้า แต่ท่านก็บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว เพราะสิ่งที่ฉันได้มาทำบุญและถวายสังฆทานให้กับเค้าทางเค้าคงได้รับแล้ว แล้วก็คงจะหายโกรธกับสิ่งที่ฉันได้ทำไปในวันนั้น แล้วพระภิกษุท่านนั้นก็สอนฉันว่า ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อะไรก็ตามอย่าไปรังแกอย่าไปทำร้าย ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ที่คนนับถือหรือสัตว์ตามท้องถนนก็ตาม แล้วท่านก็สวดมนต์ให้ฉันพร้อมกับรดน้ำมนต์ หลังจากนั้นมาอาการของฉันก็ดีขึ้น

ต่อไปนี้ฉันสัญญากับตัวเองว่าฉันจะไม่ทำร้ายหรือรังแกสัตว์ทุกตัว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวฉันนั้น ฉันรับรู้ได้เลยว่าเวรกรรมมีจริง ไม่ต้องรอให้เกิดในชาติไหนหรอก ทำกันในชาตินี้ก็เห็นกันในชาตินี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น