วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เป็นวันหยุดงานของฉัน ปกติตัวเองไม่มีวันหยุดกับเขาหรอก ด้วยมีอาชีพค้าขาย วันนี้นึกเบื่อๆ ขึ้นมาเลยหยุดสักวัน แต่ครั้นหยุดจริงๆ ก็นึกรำคาญที่จะนั่งๆ นอนๆ ดูทีวีอยู่กับบ้าน จึงโทรศัพท์ไปชวนเพื่อนไปเที่ยวห้างกันดีกว่า เพื่อนคนนี้ชวนไปไหนไม่เคยพลาดสักครั้ง เรานัดเจอกันที่ห้างแห่งหนึ่งตอนเที่ยง สองคนเดินชอปปิ้งได้ของมาหลายอย่าง พอถึงเวลากลับ เกิดเมื่อยกันซะแล้ว คงโหนรถเมล์ไม่ไหวแน่ แถมข้าวของพะรุงพะรัง จึงตกลงใจเรียกแท็กซี่ บ้านเรา 2 คนอยู่ทางเดียวกันไปด้วยกันได้ พอแท็กซี่ผ่านมาฉันรีบโบกให้จอด แต่เพื่อนฉันร้องทัก “เอ๊ะ....มีคนนี่” ฉันมองดูเห็นรถว่างเปล่า จนแท็กซี่คันนั้นหักหัวเข้ามาหาเรา ไม่มีใครเลยนอกจากคนขับ ตกลงสถานที่ให้ไปส่งแล้วเราก็เข้าไปนั่งในรถ พอรถออกเพื่อนฉันถามทันทีว่า “ลุง เมื่อกี้ฉันเห็นมีคนนั่งในรถลุงน่ะ เห็นจริงๆ ด้วย” ลุงคนขับหันมายิ้มให้นิดหนึ่ง แกมองดูกระจกรถพร้อมกับตอบคำถาม “ที่คุณเห็นเป็นผู้ชาย ใส่เสื้อสีขาวใช่ไหมครับ” คำตอบของแกทำให้ฉันกับศรีขนลุก ฉันรีบถามแกทันทีว่าเป็นใคร แต่เพื่อนกระตุกแขนฉันพลางว่า “บ้าเหรอ ยิ่งกลัวๆ อยู่ด้วย” ลุงคนขับแท็กซี่รีบตอบ “ไม่ต้องกลัวหรอกครับคุณ คนที่คุณเห็นนั้นเขามาดี เขาช่วยคุ้มครองผมและผู้โดยสารให้ปลอดภัย”
ลุงแท็กซี่เล่าให้ฟังว่า “ที่คุณเห็นน่ะ เขาเป็นหลานชายผมเอง แม่เขาตายตั้งแต่เขาเกิด พ่อทิ้งไปมีเมียใหม่ ผมเวทนาเลยรับมาเลี้ยงดู” ลุงแกเล่าต่อไปเรื่อยๆ “ไอ้สมธรรม เออ..เขาชื่อนี้น่ะครับ นิสัยมันเรียบร้อย แต่สมองไม่ค่อยดี เรียนไม่เก่ง ผมเลยให้มันอยู่บ้านคอยช่วยหยิบจับอะไรตามผมสั่ง ต่อมาไม่นาน มันถูกผีเข้า เป็นผีแถวจอมปลวกเขาว่ามันไปกวนไปยุ่งเขา ทำให้เขาโมโหอาฆาตว่าจะต้องตามเอาชีวิตมันให้ได้ อยู่ๆมันก็มีอาการไม่พูดไม่จาตาขวางหลบหน้าคน จึงคิดว่ามันโดนดีแน่ ผมพอมีวิชาอยู่บ้างเลยใช้อาคมไล่ จนได้รู้ว่าเป็นผีเจ้าที่ไหน แต่ผีตัวนี้มันแรงผมเอาไม่ไหว ช่วยได้เพียงครั้งแรก พอมันออกจากร่างได้สัก 2-3 วัน มันก็มาเข้าใหม่ ผมก็ลองดูหลายทางน่ะ แต่ที่สุดก็แพ้มัน มันเอาไอ้สมธรรมไปจนได้”
เพื่อนฉันรีบถาม “เอาไปแบบไหนลุง”
ลุงแท็กซี่เล่าด้วยเสียงสั่นเครือ “ก็ทำให้มันผูกคอตายน่ะครับ พอหลานตายแล้วผมก็ไม่อยากอยู่ที่นั่น ถามความเห็นเมียเขาก็ไม่อยากอยู่ เลยพากันเข้ากรุงเทพฯ ก็มาได้อาชีพขับรถนี่แหละ ขับมา 3 ปีแล้ว ทีนี้พอผมย้ายมาก็เก็บกระดูกเขามาด้วย คือพอเผาแล้วจะทิ้งกระดูกไว้ที่วัดก็สงสาร กลัวเขาไม่มีที่อยู่ เลยบอกเขาให้ตามมาอยู่ด้วยกัน แล้วเก็บกระดูกเขามาส่วนหนึ่ง อย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ เขาตามผมไปทุกแห่ง เวลาผมจะกินข้าวก็บอกเขาก่อนให้กินด้วยกัน”
“แบบนี้ถ้าผู้โดยสารจะเรียกรถลุง เขาเห็นมีคนนั่งอยู่ก็ไม่เรียกน่ะซิ” ดิฉันทัก
“ไม่เห็นทุกคนหรอกครับ คนที่จะเห็นต้องมีญาณสัมผัสกับสิ่งนี้ได้ อย่างคุณผู้หญิงคนนี้” แกบอกพร้อมกับชำเลืองไปทางเพื่อนฉัน แต่จริงน่ะ...ฉันไม่เห็นใครเลยตอนโบกรถแก แต่เพื่อนฉันกลับเห็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น