วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

“ภูริ” ฉุน! เตรียมบุกเคลียร์เจ้าของโชว์รูมทำถูกมองเบี้ยวงาน ปัดกิ๊ก “รถเมล์” ยัน “แอน” ยังเป็นคนพิเศษ

“ภูริ” ปัดเบี้ยวงานทำ “แอน” เดือดร้อนเป็นตัวเสียบ แจงไม่เคยรับปากจะไป เตรียมบุกฉะเจ้าของโชว์รูมที่ทำให้เสียชื่อ ส่วนสัมพันธ์กับ “แอน” ยังพยายามปรับจูนกันอยู่ ยันยังเป็นคนพิเศษ ทั้งยังโต้กิ๊ก “รถเมล์-มิ้นท์-โย”

ตั้งแต่ถอยห่างความสัมพันธ์กับดาราสาว “แอน อลิชา ไล่สัตรูไกล” มาได้สักระยะ ดูเหมือนดาราหนุ่มผิวเข้ม “ภูริ หิรัญพฤกษ์” จะหายหน้าหายตา ไม่ค่อยออกงานบ่อยอย่างแต่ก่อน แถมเมื่อไม่นานมานี้ยังโดนหาว่ารับงานอีเว้นท์งานหนึ่งไว้แล้วเกิดเบี้ยวกะทันหัน โดยอ้างว่าหาไฟล์ทบินจากอ.ปายกลับมางานไม่ทัน จนต้องเดือดร้อนสาว “แอน” วิ่งวุ่นมางานแทนให้แบบไม่ทันตั้งตัว

ซึ่งล่าสุดหนุ่ม “ภูริ” ก็ได้ปรากฏตัวอีกครั้งในงาน “Launch of GUESS Mens Watches” ณ อาคาร ศาลา @ สาทร ชั้น 11 และยืนยันว่าตนไม่เคยเบี้ยวงานใคร เพราะงานนั้นไม่ได้ทำการตกลงเลยว่าจะไปร่วมงานด้วย และถ้าเจ้าของงานไม่โทรมาเคลียร์ ตนจะบุกไปเคลียร์ด้วยตัวเองเลยทีเดียว

“เรื่องงานที่แล้วจริงๆ ผมก็ยังงงๆ อยู่นะครับ เพราะผมไม่ได้ไปรับงานเขา คือเขาโทรมาถามผมว่าวันที่ 8 ว่างไหม เขาเป็นเจ้าของขายรถมินิอะไรสักอย่างนึง ที่ผมเคยไปทำรถกับเขา เขาก็ให้ลูกน้องโทรมาถามผมว่าว่างไหม ผมก็บอกว่าไม่ว่าง ไปถ่ายรายการที่ปาย แต่ถ้ากลับมาผมจะแวะไปดูที่โชว์รูมแล้วกัน ผมก็พูดแค่นี้ แล้วเย็นวันที่ 8 เขาก็โทรมาถามว่าอยู่ไหนล่ะคะ ทำไมยังไม่มางาน ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าผมไปรับปากจะไปงานเขาเมื่อไหร่ ผมก็ยังงงอยู่ ซึ่งจริงๆ แล้วเขาควรจะต้องโทรมาเคลียร์กับผมนะ แต่นี่เขาก็ยังไม่โทรมาเคลียร์เลย”

“แอนก็โทรมาหาผมว่าเธอไปเบี้ยวงานอะไรใคร เลยมีคนติดต่อให้เขาไปแทน ผมก็อ้าวผมไม่ได้เบี้ยวงานใคร แต่เขาคงไปติดต่อกันเอง แต่ผมไม่ได้เบี้ยวแน่นอนเพราะไม่ได้ไปรับปากเขา แล้วเขาก็ไม่ได้มาติดต่อจ้างผมด้วย เขาแค่เชิญให้ผมไปร่วมงานเฉยๆ ซึ่งผมไม่ได้ไปรับปาก ไม่มีสัญญาอะไรกัน จริงๆ ผมอยากเจอตัวเขานะ เขาควรจะต้องโทรมาเคลียร์กับผม ภายในหนึ่งอาทิตย์ถ้าเขาไม่โทรมาผมจะไปหาเขาที่โชว์รูม”

“ผมอยู่ในวงการนี้มาสิบกว่าปีนะครับ ผมไม่เคยเบี้ยวงานใคร ข่าวว่าผมเบี้ยวงาน หนีพี่ๆ นักข่าว ซึ่งผมจะหนีทำไมล่ะ ผมอยู่กับพี่ๆ สื่อมากี่ปี ผมจะมาหนีทำไมเรื่องแค่นี้ คือมันทำให้ผมรู้สึกไม่ดีว่า ทำไมเดี๋ยวนี้วงการบันเทิงเขาทำกันแบบนี้เหรอ คุณต้องการแค่ข่าวเหรอ ผมว่ามันไม่ใช่ แล้วมามั่วแบบนี้ผมว่ามันไม่ถูก คือผมไม่ได้รู้จักกับตัวเจ้าของงานนะ แต่ผมรู้จักกับคนทำออร์กาไนซ์เซอร์อีกทีนึง ซึ่งตอนที่แอนโทรมาหาผม ผมตกใจมาก และพี่ๆ นักข่าวกับพีอาร์ของเอ็กแซ็กท์ก็โทรมาหาผมว่า ริทำไมรับงานแล้วเบี้ยวเขา ผมก็บอกว่าไม่เคยเบี้ยวงานใครอยู่แล้ว แต่ถ้าเขาไม่มาเคลียร์ ผมก็คงไม่อะไรมาก แค่แวะไปถามเขาว่าทำไมทำแบบนี้ เราไม่ได้รับปากนะว่าจะไป แล้วทำไมถึงต้องทำแบบนี้”

ยอมรับเหตุที่ต้องถอยห่างจาก “แอน” เป็นเพราะทะเลาะกันถี่ และตนก็มีงานเยอะขึ้น แต่ก็รู้ตัวอยู่ตลอดว่ายังคิดถึงแฟนสาวอยู่เหมือนเดิม

“กับแอนตอนนี้ก็จากที่เราห่างๆ กันไปเมื่อ 3-4 เดือนก่อน คือก่อนหน้านั้นเราก็ไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่ที่ทะเลาะกันบ่อย ก็เลยคิดว่าเราลองไปคิดกันดูไหมว่า เรายังต้องการกันอยู่หรือเปล่า ซึ่งผมก็ไปคิดดูแล้วและผมก็ยังคิดถึงคุณแอนอยู่ เราก็เลยกลับมาคุยกันได้เดือนกว่าๆ ตอนนี้มันก็ค่อยๆ ไปเป็นสเต็ป คือช่วงนี้ผมอยู่ปายบ่อย ผมทำรายการทีวี แล้วก็ถ่ายละคร 2 เรื่อง เพิ่งปิดไปเรื่องนึงก็ยังไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ ก็เลยเจอกับคุณแอนไม่ได้บ่อยเหมือนสมัยก่อน แต่เราก็โทรคุยกันตลอด และถ้าว่างเมื่อไหร่ก็จะไปหากัน”

“คือเวลาที่อยู่กับคุณแอน เราก็อุ่นใจก็ยังคิดถึง ยังสถานะคนรู้ใจเหมือนเดิมไหมเหรอ คุณแอนเขาว่าไงล่ะครับ(หัวเราะ) แต่สำหรับผมก็รู้ใจครับ เป็นคนพิเศษ แต่ที่เขาบอกว่าผมไม่ค่อยมีความพยายามเท่าไหร่ที่จะกลับมา อย่างที่บอกว่าผมก็อยากจะไปให้รู้ว่าจริงๆ แล้วเราต้องการอะไรมากกว่า ว่าเราอยากอยู่คนเดียว หรือว่าเราอยากอยู่กับเขาอยากอยู่ด้วยกัน แต่กลับมาแล้วความสัมพันธ์มันก็ยังไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ครับ(หัวเราะ) ก็ต้องพยายามกันต่อไป”

ยืนยันข่าวกับสาวๆ ไม่ว่าจะเป็น “มิ้นท์ นวินดา เบอร์ต๊อตตี้, รถเมล์ คนึงนิจ จักรสมิทธานนท์” หรือนางแบบสาว “โย ยศวดี หัสดีวิจิตร” ไม่มีอะไรทั้งสิ้น เพราะยังคิดถึง “แอน” อยู่คนเดียว

“ข่าวกับผู้หญิงคนอื่น ผมคิดว่าอาจจะเป็นเพราะที่ผมหายไปแล้วไม่ได้มาเจอสื่อเลย มันก็คงจะมีคนพยายามจะโยงมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรเลยครับ อย่างรถเมล์เป็นน้องที่ร่วมงานด้วยเฉยๆ ถ่ายละครด้วยกันแค่นั้น ส่วนน้องมิ้นท์รู้สึกว่าผมจะไปงานแต่งงานนานามั้ง ก็เฮฮาปาร์ตี้อยู่ด้วยกันในงาน แล้วก็คงจะมีรูปที่ถ่ายคู่กัน ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง อย่างตอนแรกมีข่าวกับโย ผมก็ยังงง คือไปเจอกันจริงๆ ที่เชียงใหม่ ผมไปถ่ายรายการกับพี่อ้อม พิยดา แล้วเราก็ไปแฮงค์เอาท์กันต่อก็เลยเจอโย ก็ถ่ายรูปโพสต์ในเฟซบุ๊กกันปกติ ไม่มีอะไรเลยครับ”

“กับรถเมล์ก็ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เลย แต่ผมก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันที่เอาเขามาเกี่ยวข้องด้วย แต่กับคุณแอนเราก็คุยกันเกือบทุกเรื่องนะครับ คุณแอนเข้าใจอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้มีคำสัญญาอะไร เพียงแต่เราก็บอกเขาตรงๆ ว่าเราเป็นอย่างนี้ จะไปมีคนอื่นได้ยังไงเพราะมันยังคิดถึงกันอยู่ แต่จะกลับมาเหมือนเดิมเลยเมื่อไหร่ ก็คงต้องพยายามก่อนครับ ผมก็พยายามเต็มที่เท่าที่ผมทำได้นะครับ เพราะเวลาผมก็มีไม่ค่อยมากเท่าไหร่ช่วงนี้ แต่ผมก็พยายามชวนเขาไปต่างจังหวัดด้วย ไปดูกิจการผมบ้าง ผมไปดูเขาเปิดร้านบ้าง ไปนั่งเฝ้าเขาคือก็แวะไปหา เพราะตอนนี้เขาทำร้านอาหารญี่ปุ่นที่ Mansion 7 ผมก็ไปช่วยบ้าง”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น