วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ผีแย่งเก็บมะตูม


ข้างวัดหนองบัวใกล้โรงเรียนมีต้นมะตูมใหญ่ 2 ต้นคู่กัน ออกผลดกส่งกลิ่นหอมทั่วบริเวณนั้น ผู้ที่ไม่อยากได้ผลมะตูมจะไม่กล้าเดินผ่านเพราะกลัวผลมะตูมจะหล่นใส่หัวแตก ชาวบ้านแถบนั้นก็ไม่กล้าเก็บไปขายเนื่องจากกลัวบาป ส่วนผลสุกที่หล่นลงพื้นดินจะมีเด็กนักเรียนมาแย่งกันเก็บบ่อย ตอนผมเป็นเด็กชอบไปเก็บกับเพื่อนๆ มากิน แต่ก็มีก้างขวางคอคอยแย่งอยู่เสมอ ทำให้พวกเด็กๆ ต่างรังเกียจลุงคนนั้น แกชื่อลุงแจ่มรูปร่างอ้วนใหญ่ผิวดำปากหนาตาโตน่ากลัว อาศัยอยู่วัดแห่งนี้มาหลายปีแล้ว แต่แกอยู่ได้ไม่นานก็ป่วยตาย

วันเวลาผ่านไปไม่ถึงเดือน กลางคืนมีคนเห็นผีตาแจ่มนั่งก้มหน้าอยู่โคนต้นมะตูมเหมือนคนคอยเก็บผลหล่นตามที่แกเคยเก็บก่อนตาย หลายคนเห็นเอามาเล่าสู่กันฟัง ต่างกลัวกันทั่วหน้าจนไม่มีใครกล้าเดินผ่านต้นมะตูมในตอนกลางคืน แต่เด็กนักเรียนไม่รู้อะไร ตาแจ่มตายไปก็พากันดีใจที่ไม่มีใครขัดขวาง
คราวหนึ่ง มีนักเรียนคนหนึ่งอยากเก็บผลมะตูมคนเดียว ก็ร้องขึ้นว่า “ผีตาแจ่มมาโว้ย” ต่างคนต่างกลัววิ่งกลับเข้าโรงเรียนกัน คนหลอกก็เลยได้เก็บคนเดียวไม่ต้องกลัวใครแย่ง ผมก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย พอรู้วิธีจึงลองมั่งแต่กลับเจอของจริง

เที่ยงวันนั้นเราทุกคนวิ่งไปเก็บผลมะตูมกัน ผมวิ่งแซงหน้าทุกคนพอใกล้จะถึงต้นมะตูมหันหลังไปดูปรากฏว่าเพื่อนวิ่งตามมากันเต็มทำท่าจะแซงขึ้นหน้าอีกด้วย กลัวเพื่อนจะแย่งเก็บหมด จึงคิดหลอกเพื่อนบ้าง พอได้จังหวะขณะที่วิ่งจะถึงโคนต้นมะตูม ผมจึงเบรกตัวโก่งแล้วทำเป็นตกใจกลัวร้องว่า “เฮ้ย ผีตาแจ่มกำลังเก็บมะตูมอยู่แน่ะ” ได้ผลพวกมันพากันหยุดกึกแล้วพากันวิ่งหน้าตั้งกลับเข้าโรงเรียน ผมดีใจซะไม่มี หวานคอแร้งละไม่มีก้างขวางคอ ผมกำลังจะก้มหยิบผลที่อยู่ใกล้มือ แต่ใกล้ๆ นั่นมีเงาดำรางๆ เก็บผลโน้นผลนี้อย่างรวดเร็วเหมือนแย่งเก็บ ทำให้ผมชะงักมือออกมองให้เต็มตาว่าใครมาแย่งเก็บ ก็พอดีเงารางๆ นั้นหันหน้ามาจะเอ๋กับผมอย่างจัง จำได้แม่น หน้าตาดุ ปากหนา คิ้วดก ทำหน้าถมึงใส่เหมือนหวง ผีตาแจ่มนั่นเอง กลัวจนตัวสั่นผมร้องออกไปสุดเสียง “ผีตาแจ่มหลอกๆ” แล้วหันหลังวิ่งกลับโรงเรียนอย่างไม่คิดชีวิต เพื่อนที่หนีมาก่อนมองเห็นรีบเข้ามาหาต่างร้องแซวกันอย่างสนุก “พวกกูวิ่งมาถึงตั้งนานแล้ว มึงคลานมาหรือไงถึงได้ถึงเดี๋ยวนี้เอง” แสดงว่ามันไม่รู้ว่าผมถูกผีจริงๆ หลอก เลยบอกมัน “กูถูกผีตาแจ่มหลอกที่ต้นมะตูม” พวกมันกลับตอบว่า “เออ กูรู้แล้ว ที่มึงบอกไงล่ะ ก็วิ่งหนีกันมาทุกคน มึงอยู่ให้เขาหลอกอีกทำไมวะ” แบบนี้ถึงบอกให้ตายมันก็ไม่รู้เพราะผมดันไปหลอกพวกมันก่อนนั่นเอง

หลังจากกลับไปบ้านผมไม่ได้มาโรงเรียนถึง 3 วัน ต่อมาไม่นานมีข่าวจากชาวบ้านว่า คนนั้นถูกผีตาแจ่มหลอก คนนี้ก็เคยถูกหลอก คนโน้นก็เคยเห็น พระท่านไม่สบายใจเลยสั่งโค่นต้นมะตูมทิ้ง แล้วทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ จากนั้นไม่เคยมีใครเห็นผีตาแจ่มอีกเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น