วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

“พิ้งกี้” ระรื่น ตรวจฉี่ไม่ท้อง ด้าน “ยุวดี” กรี๊ดแทน โวยข่าวเมียน้อยกระทบธุรกิจ

“พิ้งกี้” ยิ้มออก ตรวจฉี่ไม่ท้อง ประกาศเลิกพูดถึง “เป๊ก-ธัญญ่า” ด้าน “ยุวดี” กรี๊ดแทน โวยข่าวเมียน้อยกระทบธุรกิจอาหารเสริมที่ทำส่งออกอินเดียร่วมกับพิ้งกี้เสียหายเป็นร้อยล้าน ทำให้เศรษฐกิจของประเทศชาติพัง บอก พิ้งกี้ไปโกอินเตอร์ทำเพื่อประเทศชาติ ควรส่งเสริมไม่ใช่ทำลาย พร้อมสับสื่อเขียนข่าวมั่ว

       
ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้มีสัมพันธ์เกินเลยกับ “เป๊ก สัญชัย เองตระกูล” แต่พอมีข่าวลือว่านางเอกสาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ท้องกับหนุ่มเป๊กหลุดออกมา สาวพิ้งกี้กลับยอมตรวจพิสูจน์ความจริง ด้วยการตัดสินใจเข้าตรวจปัสสาวะและเลือดที่โรงพยาบาลพญาไท1 เพื่อพิสูจน์ว่าท้องหรือไม่ท้อง แถมยังควง “ยุวดี บุญครอง” ออกมาเปิดแถลงข่าว ที่บริษัท เอช พลัส แชนแนล ถนนวิภาวดี หลังจากทนไม่ไหวที่ข่าวเป็นเมียน้อยทำลายชีวิตนางเอกสาว แถมยังส่งผลกระทบกับธุรกิจอาหารเสริม Brite Up ที่ทั้งคู่ทำร่วมกัน

ซึ่งก่อนที่จะเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาล ทั้งพิ้งกี้และบอสยุวดีก็ได้ออกมาเปิดใจถึงข่าวคาวดังกล่าวแบบหมดแม็กซ์ โดยงานนี้ก็ทำเอาสาวพิ้งกี้ถึงกับร้องไห้ออกมาอย่างพรั่งพรู พร้อมตัดพ้อว่าพยายามอยู่อย่างสันติแล้ว แต่เรื่องก็ไม่จบ ก่อนจะขอร้องว่าขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่จะนำเสนอข่าวนี้ ในขณะที่บอสยุวดีเองก็เป็นเดือดเป็นร้อนแทน ออกโรงสับสื่อเละว่าเขียวข่าวมั่ว โวยข่าวเมียน้อยทำให้ชีวิตพิ้งกี้พังทลาย แถมยังกระทบธุรกิจอาหารเสริมที่ทำส่งออกอินเดียร่วมกับพิ้งกี้เสียหายเป็นร้อยล้าน ซ้ำยังทำให้เศรษฐกิจของประเทศชาติป่นปี้ไปด้วย

ยุวดี: “หลายคนมาถามว่า เรามีส่วนเกี่ยวข้องได้อย่างไรกับเรื่องของน้องพิ้งกี้ ก็ต้องบอกเลยว่ากระทบโดยตรงกับทางเรา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถ้ามันไม่ได้เป็นข่าวรุนแรงขนาดนี้ ดิฉันไม่ออกมายุ่งเลยตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา มีข่าวที่ลือสารพัดอย่างกับน้อง จนกระทั่งเมื่อวานนี้ จนเราคิดว่าต้องออกมาพูด ที่ข่าวลือว่าน้องพิ้งกี้ท้อง ดิฉันคิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่แฟร์กับน้อง น้องเขาไม่ได้มีอะไรเลย ดิฉันส่งน้องไปต่างประเทศเพราะวันที่ 15 เดือนนี้ หนังของน้องกำลังจะฉายรอยพิเศษที่อินเดีย เราก็มองว่าน้องเขาสามารถทำตลาดให้กับประเทศไทย”

“สิ่งที่เราทำร่วมกันกับรัฐบาล คือน้องพิ้งกี้จะเป็นคนที่นำสินค้าไทยสู่ตลาดโลก โดยอาศัยความเป็นดาราของไทยไปเล่นหนังที่อินเดีย นี่คือสิ่งที่เราทำเพื่อประเทศชาติ แล้วถ้าวันนี้ข่าวที่ออกไปผิดๆ แล้วไปถึงอินเดีย แล้วกลับมีข่าวว่าน้องท้อง คิดว่าธุรกิจในประเทศไทยพังไหม ตลาดอินเดียเป็นเป้าหมายของรัฐบาลไทย ดิฉันก็เสียหายเป็นร้อยล้านมาแล้ว เราต้องชะงักทุกอย่างหมดเพราะว่ามันเกิดข่าวไม่ดีกับน้องพิ้งกี้ โดยที่เด็กไม่มีโอกาสอะไรเลย วันนี้สังคมตัดสินไปแล้ว ดิฉันอย่าขอร้องสื่อมวลชนว่าหยุดกันได้ไหม(เน้นเสียง) เรื่องนี้สักที แล้วสิ่งที่ข้องใจกันที่เป็นข่าวลือ”

“วันนี้เราเตรียมพร้อมมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลพญาไท1 วันนี้จะพากองทัพนักข่าวไปที่นั้นไปเจาะเลือดต่อหน้าที่นั่นเลย เพียงหนึ่งชั่วโมงก็จะรู้เลยว่าน้องพิ้งกี้ท้องหรือไม่ท้อง วันนี้ขอเถอะค่ะ ขอความยุติธรรมให้กับเด็กคนหนึ่ง เขาเสียหายเยอะ ละครกี่เรื่องที่น้องไม่ได้เล่นจากข่าวที่ออกไป แต่น้องไม่ได้มีโอกาสชี้แจงเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด”

“ดิฉันก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งก็อยากพูดแทน ถ้าวันหนึ่งน้องเขาแต่งงานมีครอบครัว มันจะเป็นรอยด่างในใจตลอด มันบาปนะคะ มันเป็นสิ่งที่สื่อเขียนไปโดยไม่สนข้อเท็จจริง มันเป็นเพียงแค่ข่าวลือ วันนี้เดี๋ยวแถลงเสร็จไปโรงพยาบาลกันเลย ไปดูให้ชัดๆ และถ้าพิสูจน์แล้ว ดิฉันขอให้จบ น้องเขาจะได้ทำงานเพื่อประเทศชาติ เรามีดาราไทยคนเดียวที่ไปตลาดที่อินเดียได้ ทำไมเราไม่ช่วยกัน ทำไมไม่ช่วยเขียนข่าวดีๆ ส่งเสริมศิลปินไทย (เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ)”

“ทำไมมีข่าวต้องทำลายกัน วันนี้อยากเชิญมาพิสูจน์ว่าสิ่งที่น้องๆ ลือกัน หรือใครจะพูดอย่างไรก็จะได้มาพิสูจน์กัน และอยากขอให้จบ ใครที่อยากจะไปอินเดียวันที่ 15 เราเปิดรอบปฐมทัศน์ ขอให้ช่างภาพทุกช่องไปด้วยกันได้เลย เราจะติดต่อและอำนวยความสะดวกให้ เราควรภาคภูมิใจด้วยกันว่าการเป็นศิลปินที่อินเดียมันยากมาก แต่วันนี้น้องเขาถูกคัดเลือกแล้ว”

“ข่าวออกมาช่วงนี้ไม่ได้เลย นี่คือเหตุผลที่เชิญสื่อมาวันนี้ อยากให้รู้กันไปเลย เดี๋ยวน้องต้องบินไปก่อนวันที่ 12เดี๋ยวจะหาว่าน้องหนีไปแล้ว แล้วก็จะลือกันไปอีกว่าหนีไปทำแท้ง ดิฉันอยู่ในสื่อมานานเราก็รู้ ช่วยกันหน่อยเถอะขอให้น้องเป็นตัวเปิดของประเทศไทยในปี 58 ด้วยกัน คืออินเดียจะไม่เก็บภาษีเอาสินค้าไทยไปควบกับดารา อยากให้ความยุติธรรมกับน้อง”

ด้าน “พิ้งกี้” ถึงกับปล่อยโฮ รับไม่ได้มีข่าวท้องกับสามีชาวบ้าน บอก ทำชีวิตเสียหาย ตัดสินใจตรวจเลือดพิสูจน์ความจริงต่อหน้าสื่อมวลชน ที่โรงพยาบาลพญาไท1

พิ้งกี้: “กี้เพิ่งกลับมาถึงเมืองไทยได้อาทิตย์กว่า(ไปเรียนเต้นที่ประเทศฟินแลนด์) ข่าวที่เกิดขึ้นมันก็กระทบต่อตัวกี้แน่นอน โดยเฉพาะครอบครัวและก็หลายๆ อย่าง (น้ำตาซึม) สำหรับข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นตอนนั้นกี้อยู่เมืองนอก(ร้องไห้) คือกี้พยายามหนีข่าว ทำทุกอย่างเพื่อให้ข่าวมันเงียบ ไม่อยากให้เขียนถึงกี้อีกเพราะมันกระทบเสียหายมาก ณ ปัจจุบันก็คิดว่ามันจะจบ ทุกคนจะอยู่อย่างสันติ แต่กลับไม่จบ”

“ตอนอยู่ที่นั่นไม่เคยอ่านข่าวเมืองไทยเลย ก็เพิ่งทราบข่าวว่าท้องเมื่อวานนี้(7 มิ.ย.54) (ร้องไห้) คือจริงๆ กี้พยายามจะไม่ร้องไห้ ข่าวที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะว่ากี้ยังไงก็ได้กี้ไม่ว่า อันนี้มันเยอะเกินไปสำหรับคนๆ หนึ่งจริงๆ (ปล่อยโฮก่อนจะเงียบไปพักใหญ่)”

“กี้ว่าการพิสูจน์ให้เห็นกันไปเลยคือทางออกที่ดี แต่ใครจะพูดอะไรต่อไปในอนาคต กี้ห้ามทุกคนไม่ได้ แต่กี้รู้หน้าที่กี้ว่าต้องเลี้ยงดูครอบครัว ทุกอย่างไม่มีใครรู้นอกจากตัวกี้เอง จริงๆ แล้วที่ไปอยู่เมืองนอกกี้มีความสุข ได้ไปเรียนเต้นกับเพื่อนๆ ของกี้ มันเป็นความสุขแต่ว่า ณ ปัจจุบันข่าวออกมาอะไรก็ไม่รู้ มันไม่น่ามาถึงขนาดนี้ มันเป็นสังคมข่าวลือ อะไรจริงไม่จริงค่อยว่ากันทีหลัง แต่ความเสียหายมันเกิดไปแล้ว มันเป็นสิ่งที่ถ้าเกิดกับใครก็คงรู้สึก คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับลูกของตัวเอง หรือครอบครัวญาติพี่น้องจะทุกข์ใจแค่ไหน กี้พูดได้ว่าสุดๆ แล้ว”

“ความจริงก็อยากจะบอกว่ากี้ทำดีที่สุดแล้ว เราต้องเดินต่อไป เราต้องพูดต้องตรวจ แต่ใช่ว่าอยากทำแบบนั้น แต่ว่าเรื่องนี้มันต้องจบค่ะ กี้อยากให้ทุกคนเห็นว่ากี้ไม่ได้ท้อง การตรวจครั้งนี้ก็มีผู้ใหญ่ช่วยตัดสินใจด้วย เราตัดสินใจเองไม่ได้ มีคุณพ่อคุณแม่และผู้ใหญ่ที่คอยให้ความช่วยเหลือ”

เมื่อสาว “พิ้งกี้” และ “นางยุวดี” ได้ทำการแถลงข่าวที่บริษัท เอช พลัส แชนแนล เสร็จสิ้น เจ้าตัวก็เดินทางไปยังโรงพยาบาลพญาไท1 เพื่อตรวจปัสสาวะและตรวจเลือดพิสูจน์ว่าท้องหรือไม่ท้อง โดยมีกองทัพสื่อมวลชนตามไปทำข่าวอย่างเกาะติด

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพญาไท1 ได้มีการเจาะเลือดต่อหน้ากองทัพสื่อมวลชนที่ต่างปักหลักรอรายงานข่าวแน่นโรงพยาบาล พร้อมกันนี้ ดร.นพ.เกริกยศ ชลายนเดชะ ผู้อำนวยการแพทย์อาวุโส ได้นำปัสสาวะและเลือดของดาราสาวตั้งตรวจบนโต๊ะ เพื่อเป็นการพิสูจน์ให้เห็นกันว่าทุกขั้นตอนนั้นโปร่งใส และถึงขนาดจับเวลาในการตรวจกันเลยทีเดียว พร้อมกับชี้แจงขั้นตอนและวิธีการตรวจอย่างชัดเจนว่า

ดร.นพ.เกริกยศ: “ในเรื่องของการตรวจผลปัสสาวะ ผลการตรวจถ้าเป็นผลลบจะขึ้น 1 ขีด ในกรณีที่เป็นผลบวกก็จะขึ้น 2 ขีด (พร้อมสาธิตวิธีการตรวจ) ส่วนอันนี้เป็นผลเลือด ซึ่งเราต้องรออีก 5 นาที ก็จะทำพร้อมกันกับปัสสาวะเลยนะครับ ตรงนี้เป็นปัสสาวะจริงนะครับเพราะอุณหภูมิ 32 องศาเซลเซียส แสดงว่าเพิ่งออกมาจากร่างกาย และความถ่วงจำเพาะของปัสสาวะคือ 1.016 ไม่ใช่น้ำแน่นอน”

“ความแม่นยำในการตรวจ 2 วิธีนี้ เนื่องจากเป็นการตรวจหาฮอร์โมน มันมีความเฉพาะเจาะจง 99 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกันในแง่ของความไวก็ 99 เปอร์เซ็นต์ สามารถตรวจได้ตั้งแต่วันที่ประจำเดือนไม่มา”

“ตอนนี้ผลของปัสสาวะก็ได้เรียบร้อยแล้ว สรุปว่าเป็นผลลบนะครับ (พิ้งกี้ถืออุปกรณ์ตรวจครรภ์) จากการที่ตรวจก็เป็นลบ ส่วนผลเลือดก็เช่นเดียวกันว่าเป็นผลลบ ณ เวลานี้น้องพิ้งกี้ไม่ได้ตั้งครรภ์ครับ การตรวจหาทั้งสองอย่างความแม่นยำมากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์”

ขณะที่ "พิ้งกี้" ก็ได้เปิดใจหลังทราบผลว่าไม่ได้ท้องว่า การตรวจพิสูจน์ในครั้งนี้ถือว่าตนยอมที่สุดแล้ว ต่อไปขอร้องอย่าเสนอข่าวเรื่องนี้อีก พร้อมเบรกไม่ขอพูดถึง “เป๊ก-ธัญญ่า” อีก

พิ้งกี้ : “ความรู้สึกที่รู้ว่าผลเป็นลบ ก็ไม่ได้ดีใจ แค่อยากให้ทุกคนเห็นว่าข่าวลือเป็นอย่างนี้ วันนี้ต้องขอบคุณโรงพยาบาลที่ให้กี้มาตรวจและทำให้ทุกคนเห็นว่า ข่าวลือที่พูดสร้างความเสียหาย วันนี้ก็เลยเจาะเลือดและตรวจปัสสาวะ ถือว่ากี้ยอมแล้ว ขอให้วันนี้ให้กี้สามารถเดินต่อไปในชีวิตได้ กี้ขอ ถ้าพวกพี่ๆ เห็นใจกี้และครอบครัวขอให้พี่ๆ หยุดนำเสนอข่าว”

“ข่าวที่ว่ากี้ท้องมันมากับคลิปเสียง กี้ไม่รู้นะ การที่เราไปเมืองนอก มันเป็นเรื่องคนคิดกันไปเอง ณ ปัจจุบันกี้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว อนาคตกี้ก็ยังทำงานต่อไป (เคลียร์เรื่องท้องแล้วถือว่าเป็นการเคลียร์ความสัมพันธ์กับเป๊กด้วยหรือไม่?) คือเรื่องนี้ขอไม่พูดถึงก็แล้วกัน วันนี้ที่กี้มาพบทุกคนก็เพื่อมาตรวจว่าท้องหรือไม่ท้อง การพูดถึงคนอื่นหรือครอบครัวอื่นขอให้จบค่ะ กี้จะไม่พูดอะไรอีกเลย ขอร้องจริงๆ เลย ขอร้องมากๆ”

“ส่วนเรื่องงานวันที่ 15 นี้ เปิดตัวทุกคนก็อยากเห็น แล้วก็จะมีสื่อบางฉบับที่ไป ก็จะเห็นภาพกี้ ก็จะเอาสิ่งดีๆ ที่นั่นมา แล้วก็จะกลับเมืองไทยวันที่ 17 นี้ ส่วนละครในเมืองไทยก็มีติดต่อเข้ามา แต่ก็คงต้องรอและใช้เวลาค่อยๆ ทำค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปเท่าที่ทำได้ ตอนนี้ก็ผอมลงเพราะเต้นทุกวัน ตอนนี้เหลือ 46 จาก 48 กิโลกรัม (ถอนหายใจ)”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น